พาเหรด "หอยนางรม"

เรื่อง ศิศิรากร อัครัช / ภาพ เซ็นทาราแกรนด์ฯ

โจนาธาน สวิฟต์ คือชายที่ได้รับการบันทึกเอาไว้อย่างเป็นทางการว่า คือมนุษย์คนแรกที่ได้ลิ้มรส "หอยนางรม" ของโลกใบนี้ ทว่า หลักฐานในการ "เสพย์" หอยนางรมเป็นอาหารนั้นก็เล่าลือกันมานมนาน ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์เสียอีกแน่ะ เห็นได้จากซากฟอสซิลของเปลือกหอยนางรม ที่กระจัดการะจายให้พบเห็นอยู่ทั่วไป บริเวณถิ่นอาศัยชายฝั่งทะเลทุกแห่งทั่วโลก

หอยนางๆรมมีมากมายหลายพันธุ์ นับสะระตะที่สามารถนำมารับประทานเป็นอาหารในได้คร่าวๆ มากกว่า 50 สายพันธุ์เข้าไปแล้ว

หอยนางรม อุดมไปด้วยธาตุสังกะสี ธาตุเหล็ก แคลเซียม เซเรเนียม รวมทั้ง วิตามินเอ และ วิตามินบี 12 แต่ละตัวใหพลังงานเพียง 110 กิโลแคลอรี โดยในขณะที่บ้านเรามองว่า หอยนางรมนั้นคอเลสเตอรอลสูง หากรับประทานมากจะไม่ดีต่อสุขภาพได้ หากฝรั่งมังคากลับถือว่าเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากชนิดหนึ่งทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหอยนางรมที่หม่ำกันสดๆ แบบไม่ผ่านความร้อน

ทว่า ในด้านที่หอยนางรมอุดมไปด้วยกรดอะมิโนอันมีผลให้เกิดกำลังวังชาซู่ๆ ซ่าๆ นั้น เป็นจริงดังที่บอกมาต่อๆ กัน โดยมีผลวิจัยของอเมริกันและอิตาเลียนออกมาช่วยยืนยัน

คำว่า Oyster มีรากจากภาษาโบราณของฝรั่งเศส oistre และไปพ้องกับภาษากรีก ostreon ที่แปลว่า กระดูก โดยพบหลักฐานการทำฟาร์มหอยนางรมที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ สมัยโรมันนู่นแน่ะ ส่วนในยุคประวัติศาสตร์นั้น อังกฤษเป็นชาติแรกที่เริ่มต้นการจับหอยนางรมมาเป็นอาหารอย่างจริงๆ จังๆ ตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 จนทุกวันนี้ก็จะมีเทศกาลกินหอยนางรมกันทุกปีในช่วงเดือน ต.ค. ซึ่งน่งเอกของงานคือ โคชสเตอร์ เนทีฟส์ หอยนางรมท้องถิ่น

เรื่องหอยนางรมชื่อดังของโลก ย่อมมิใช่หอยนางรมทะเลไทยที่นำมาทำออส่วนเป็นแน่แท้ แต่ยอมรับกันว่า มีที่มาจากประเทศฝรั่งเศส โดยเฉพาะบรรดาฟาร์มจากเมืองตากอากาศชายทะเลกองกาล ที่รู้จักกันดีในนามของหอยนางรมเบอลง (Belon) อันมีประวัติศาสตร์การทำฟาร์มหอยนางรมมาตั้งแต่ยุคโรมันอย่างที่บอกน่ะแหละ

ตอนนี้เรียกว่า เป็นผู้นำด้านการทำฟาร์มหอยนางรมเป็นอันดับต้นๆ ของโลก โดยอาศัยความรู้ความสามารถในการทำฟาร์มหอยนางรมมาตั้งแต่โบร่ำโบราณ บวกกับวิทยาการสมัยใหม่ ที่สามารถจะสร้างสรรค์ที่อยู่แจ๋ว ควบคุมนู่น นั่น นี่ได้ แม้กระทั่งเกลียวคลื่นทะเลที่จะเข้ามากระทบหอยนางรมของพวกเขา ก็ทำให้รสชาติดีเป็นที่เลื่องลือให้อยากรับประทานกันไปทั่วโลก

ไม่ต้องถ่อไปถึงฝรั่งเศสก็มีหอยนางรมจากฝรั่งเศสมาให้กิน ที่ห้องอาหาร เรดสกาย (ชั้น 55) โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ ตอนนี้จัดเทศกาลหอยนางรม ปาร์ค แซงต์ เกอร์เบอร์ (The Parcs Saint Kerber) ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศฝรั่งเศสในช่วงใบไม้ผลิ ถึงช่วงกลางฤดูหนาว

หอยนางรมที่สั่งตรงจากฝรั่งเศสมาแงะเปิดเสิร์ฟกันสดๆ ไม่ว่าจะเป็น  ปลาต-เบอลง ปิเยด์ เดอ เชอวาล ครูซ ทซัสคาญ่า แซงต์ เคอแบร์ ฟิน เดอ แคลร์ และ เมียร์เก้น เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงนานาชนิดให้เลือก เช่น เลมอน, ซอสทาบาสโก หรือน้ำจิ้มทะเลรสแซบแบบไทยๆ

งานนี้ ยังมีแชมเปญของ จี. เอช. มุมม์ มาให้เลือกลิ้มลองแมตชิงกันด้วย โดยซอมเมอลิเยร์ของ จี. เอช. มุม แนะนำว่า หอยนางรมซึ่งเป็นอาหารที่รสชาติเป็นตัวของตัวเองมาก หากจะดื่มคู่แชมเปญให้เข้ากัน อย่าเลือกแชมเปญชนิดวินเทจ เพราะรสชาติจะแข่งกันเด่น ไปด้วยกันไม่ได้สวย แชมเปญธรรมดาๆ นี่แหละเหมาะที่สุดแล้ว

การรับประทานหอยนางรมคู่กับแชมเปญให้ได้รสชาติ ควรเริ่มจ่กการเปิดหอยนางรมสดๆ ขึ้นมา แล้วบีบมะนาว (ชนิดเลมอน) ลงไปเล็กน้อย ตักหอยฯ ใส่ปาก แล้วตามด้วยขนมปังชนิดสีน้ำตาล เพื่อตัดรสชาตินิดหน่อยก่อน ค่อยตบด้วยแชมเปญ ก็จะได้รับรสชาติเด่นๆ ของทั้งคู่ได้อย่างครบถ้วน ชัดเจน

เชฟประจำห้องอาหารยังปรุงหอยนางรมเป็นเมนูต่างๆ ให้เลือกสั่งมากมาย ทั้งริซอตโต ซุป ราดซอสครีม ฯลฯ ในราคาเริ่มต้น ตัวละ 125 บาท++ (ไม่รวมอัตราภาษีและค่าบริการ) ถึง จานละ 855 บาท++ พร้อมฟังเพลงวงดนตรีบรรเลงสบายๆ (วันนี้ ถึง วันพฤหัสบดีที่ 15 มี.ค. เวลา 18.00 น.ถึง 23.30 น. โทร. 02-100-6255)