ยิ้มสวย รวยเสน่ห์ หงส์นภา ยอดสุรินธร
ด้วยท่าทีอ่อนน้อมถ่อมตนและขี้อายของน้องเฟิน หงส์นภา ยอดสุรินธร นักศึกษาชั้นปี 2 สาขาวิชาภาษาญี่ปุ่น
โดย...โยธิน อยู่จงดี
ด้วยท่าทีอ่อนน้อมถ่อมตนและขี้อายของน้องเฟิน หงส์นภา ยอดสุรินธร นักศึกษาชั้นปี 2 สาขาวิชาภาษาญี่ปุ่น คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ผมว่าใครเห็นครั้งแรกก็ต้องสะดุดตากับความน่ารักของเด็กคนนี้เป็นแน่
น้องเฟินเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ เดินเข้ามาทักทายตามมารยาทอันงดงามแบบไทยๆ พร้อมส่งตาใส ยิ้มสวยให้กับพี่ๆ ซึ่งมารยาทไทยๆ แบบนี้หาได้ยากในหมู่เด็กรุ่นใหม่ที่มีอีโก้ ใช้ค่านิยมวัฒนธรรมฝรั่งที่ไม่นึกถึงผู้อาวุโสและกาลเทศะที่ทำให้สังคมไทยอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข พลางหันมาเห็นช่างภาพของเราแสดงอาการโล่งใจยิ้มไม่หุบกันเลยทีเดียว เพราะงานนี้ถือว่าเป็นงานง่ายของเขา เพราะเมื่อนางแบบดีถ่ายออกมาอย่างไรก็สวย
การถ่ายภาพเป็นไปอย่างสนุกสนานและเป็นกันเอง น้องเฟินเคยผ่านงานเอ็มซีที่ให้ข้อมูลสินค้าในงานอีเวนต์และถ่ายแบบให้ร้านเสื้อผ้าบนเว็บไซต์ น้องเฟินบอกกับพี่ๆ ว่า เธอรับเฉพาะงานถ่ายแบบเท่านั้น หลักๆ ที่ได้ทำงานเกือบประจำของเธอก็คือเว็บตากล้อง เป็นนางแบบในคอร์สฝึกอบรมถ่ายภาพ แต่ยังไม่ได้ถ่ายแบบให้กับนิตยสารเท่านั้น
ส่วนงานด้านอื่นๆ เช่นงานแสดง เธอยังถ่อมตนว่าไม่กล้ารับงานแสดงมากนัก แม้จะเคยผ่านเวทีการประกวดในงานเฟรชชีจนได้เป็นดาวคณะ รวมทั้งแสดงในงานโรงเรียนและทำกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย เพราะการร่วมทำกิจกรรมต่างๆ ทำให้เราเป็นคนกล้าแสดงออกและทำให้มีเพื่อนๆ ช่วยเหลือเราในเรื่องต่างๆ ได้ดี
“สำหรับงานถ่ายแบบแรกๆ ก็ตื่นเต้นบ้าง แต่ไม่นานก็เริ่มชิน เป็นนางแบบก็ไม่ได้หมายความว่าต้องโพสท่าสวยๆ ให้พี่ๆ ถ่ายเราอย่างเดียว เราต้องทำงานให้สนุกและเป็นกันเองกับพี่ๆ ตากล้อง พูดคุยและช่วยให้ภาพถ่ายนั้นออกมาสวยที่สุด ส่วนการทำงานเป็นเอ็มซีนั้นสอนให้เรารู้จักลำดับขั้นตอนการทำงานที่ถูกต้อง ทำงานกันเป็นทีม ไม่ใช่ว่าเราอยากจะพูดอะไรก็พูด ต้องดูเพื่อนร่วมทีมด้วยว่าเขาไปทางไหน ทำให้เราก็ต้องจริงจังกับงานและตรงต่อเวลา เพื่ออนาคตเราจะได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ” น้องเฟินเล่าถึงประสบการณ์ทำงานเล็กๆ ของเธอ ซึ่งเพิ่งเริ่มมาได้เพียงไม่กี่เดือน
ผ่านเรื่องงานเล็กๆ ของน้องเฟิน ถ้าไม่พูดเรื่องเรียนก็คงกระไรอยู่ น้องเฟินมีความสนใจด้านภาษาญี่ปุ่นเป็นพิเศษมาตั้งแต่ตอนเด็กๆ เฟินเล่าเหตุผลในการเรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยท่าทีแจ่มใสอันเป็นเอกลักษณ์ของเธอว่า เรียนภาษาญี่ปุ่น เพราะเคยดูรายการโทรทัศน์พาไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น เห็นประเทศเขาสวยดี และมีอะไรแปลกๆ ที่น่าสนใจเยอะ เลยอยากเรียนภาษาญี่ปุ่นดูบ้าง พอเรียนไปเรียนมาก็ติดใจก็เลยเรียนต่อไปเรื่อยๆ รู้สึกว่าวัฒนธรรมของเขาเป็นอะไรที่น่าศึกษามาก
เหตุผลที่สำคัญก็คือน้องเฟินไม่ถนัดเลข จึงตัดสินใจเบนเข็มมาเรียนด้านภาษา ซึ่งเป็นอะไรที่ท้าทายสำหรับตัวเธอเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าตัวเองไม่ถนัดคณิตศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์ก็จะหมายความว่าเป็นคนที่เรียนหนังสือไม่เก่ง ไม่มีอนาคต เพราะว่าเรามีความถนัดไม่เหมือนกัน แต่เมื่อค้นพบตัวเองแล้วก็ต้องทำไปให้สุดทาง เราก็เป็นคนเก่งที่มีคนยอมรับได้
“ความสามารถทางด้านภาษาก็ทำให้เราเข้าทำงานได้หลายสาย เราอาจจะเป็นล่ามแปลในการติดต่อทางธุรกิจ ก็เป็นอีกงานที่เฟินสนใจอยากจะทำในอนาคตนอกจากงานถ่ายแบบ เพราะเราจะได้ใช้ความรู้ทางภาษาให้เป็นประโยชน์ในการพัฒนาธุรกิจ
ถ้าต่อไปไม่อยากทำงานออฟฟิศก็อาจจะออกมาทำงานแปลหนังสือขายก็เป็นอีกอย่างที่น่าสนใจเหมือนกัน ได้อ่านหนังสือที่ชอบแล้วก็ทำเป็นงานของเราด้วย” น้องเฟินเปรยฝันเล็กๆ ของเธอในอนาคตหลังเรียนจบ ซึ่งทำให้เราแทบอยากจะเปลี่ยนอาชีพไปเป็นนักแปลหนังสือตามน้องเฟินกันเลยทีเดียว
นอกจากนี้ เวลาที่น้องเฟินเจอปัญหาไม่ว่าจะเป็นปัญหาเล็กหรือใหญ่ ที่ปรึกษาที่ดีที่สุดของเธอก็คือคุณพ่อคุณแม่ หรือวิธีที่ง่ายที่สุดก็คือการมองโลกในแง่ดีว่าปัญหาที่เราเจอนั้นเป็นเพียงปัญหาเล็กๆ ในโลกนี้ยังมีคนที่ลำบากกว่าเราอีกมากแล้วปัญหาของเราจะเล็กลงไปถนัดตา เพราะในโลกนี้ยังมีปัญหาอีกมากมายรอให้เราเผชิญ เราต้องยิ้มสู้ทุกปัญหาที่เผชิญ หายใจลึกๆ แล้วเดินหน้าต่อไปอย่างมีความหวังใหม่