posttoday

ทฤษฎี ณ พัทลุง บนเส้นทาง (แห่งความสำเร็จ) ที่ไม่รู้จบ

05 พฤษภาคม 2556

เวลาเที่ยงตรง พระอาทิตย์กำลังสาดแสงอันร้อนแรงลงมาแผดเผาอย่างไม่ปรานี นั่นคือเวลานัดพบกับหนุ่มน้อยหน้าตาดี พิซซ่าทฤษฎี ณ พัทลุง

โดย...พุสดี สิริวัชระเมตตา ภาพ วิศิษฐ์ แถมเงิน

เวลาเที่ยงตรง พระอาทิตย์กำลังสาดแสงอันร้อนแรงลงมาแผดเผาอย่างไม่ปรานี นั่นคือเวลานัดพบกับหนุ่มน้อยหน้าตาดี พิซซ่าทฤษฎี ณ พัทลุง ศิลปินหนุ่มอนาคตไกลวัย 27 ปี ผู้ให้คำจำกัดความตัวเองในวันนี้ว่าเป็นทั้งคอนดักเตอร์ นักแต่งเพลง นักเปียโน และผู้เรียบเรียงเสียงประสาน

“ผมกำลังปวดหัวเลยตอนนี้ เพราะผมยังมีเพลงที่ต้องเรียบเรียงดนตรีใหม่ทั้งเพลงรออยู่ และผมคงต้องทำงานทั้งคืนแน่ๆ” ประโยคบอกเล่าด้วยน้ำเสียงราบเรียบ บวกกับใบหน้าที่ดูอิดโรยของศิลปินหนุ่มถูกถ่ายทอดออกมาในห้องหนังสือชั้น 2 ของบ้านอาจารย์สมเถา สุจริตกุล วาทยกรและนักประพันธ์เพลงคลาสสิกที่มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติ ซึ่งถือเป็นผู้เจียระไนให้เพชรเม็ดนี้กลายเป็นวาทยกรที่โด่งดังอย่างเช่นทุกวันนี้

ฟังผิวเผินอาจเหมือนเสียงบ่น แต่ลึกลงไป นี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวในวันนี้...

บิ๊กโปรเจกต์แน่นเอี้ยด

พิซซ่าเปิดฉากด้วยการอัพเดตผลงานที่กำลังจะเป็นรูปเป็นร่างขึ้น นั่นคือโปรเจกต์ “Twogether Pod & the Orchestra by Majung” ซึ่งเป็นการนำบทเพลงของป๊อดธนชัย อุชชิน มานำเสนอบทเพลงจากอัลบั้มของโมเดิร์นด็อก และบอยป๊อด ตลอดจนบทเพลงพิเศษที่ป๊อดเลือกเองในรูปแบบออร์เคสตรามิวสิกแบบเต็มรูปแบบ

“ผมว่ามันเป็นอะไรที่ใหม่มาก เพราะปกติถึงวงออร์เคสตราจะถูกเอาขึ้นเวทีไปรวมกับดนตรีร็อกหรือป๊อป แต่จะอยู่ในมุมมืดๆ บนเวที หรือเป็นเพียงกิมมิกของเวที แต่ครั้งนี้เราตั้งใจโชว์ศักยภาพของวงออร์เคสตราให้เห็นว่า จริงๆ แล้ววงออร์เคสตราเหมือนจานสีใบใหญ่ที่สามารถละเลงอะไรได้เยอะ มากกว่าความอลังการแล้วยังสามารถสร้างอารมณ์หวาน ซึ้ง หรือมันสุดๆ ได้เหมือนกัน”

นอกจากโปรเจกต์ดังกล่าวแล้ว พิซซ่ายังมีอีกหนึ่งงานใหญ่ๆ ที่น่าตื่นเต้น นั่นคือการเรียบเรียงเพลงสรรเสริญพระบารมีใหม่ให้กับโรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ หลังจากเวอร์ชั่นเดิมของ อ.บรูซ แกสตัน ถูกใช้มากว่า 17 ปีแล้ว ซึ่งเจ้าตัวตั้งใจทำให้เพลงสรรเสริญเวอร์ชั่นใหม่เป็นเพลงที่ไม่ใช่คนไปยืนฟังแล้วเบื่อ แต่ควรเป็นสิ่งที่คนฟังแล้วขนลุกทุกครั้ง

ถึงวันนี้ ผม (ก็) ยังอยากไปไกลกว่านี้

ลำพัง 3 โปรเจกต์ยักษ์ๆ ที่กล่าวมาข้างต้น ก็พอจะเดาได้ว่าศิลปินหนุ่มคงต้องอยู่ในเมืองไทยต่อไปอีกพักใหญ่เพื่อสะสางงาน ซึ่งพิซซ่าก็ยอมรับว่า เพราะหมดสัญญากับเอเยนซี่เก่าที่ต่างประเทศเลยตั้งใจเดินทางกลับมาพักผ่อนที่เมืองไทย แต่ปรากฏว่ากลับมาแล้ว มีงานวิ่งเข้าหามากกว่าเดิม

ถามว่ามาถึงจุดที่สูงมากในวงการนักดนตรีรู้สึกภูมิใจขนาดไหนนั้น พิซซ่าบอกว่า ขอแบ่งความภูมิใจเป็น 2 ส่วน หนึ่งคือภูมิใจในฐานะเป็นคนไทยที่อายุน้อยแต่ได้มีโอกาสไปทำงานกับวงออร์เคสตราระดับโลก ได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย สองคือภูมิใจยิ่งกว่า เมื่อได้นำประสบการณ์ที่ได้มาช่วยพัฒนาเยาวชนไทย ว่าการทำงานกับนักดนตรีระดับโลกต้องทำอย่างไร

“ถ้าเทียบกับอายุผม ผมว่าผมก็มาได้ไกลมากๆ แต่ผมก็ยังอยากไปไกลกว่านี้อีก ผมยังอยากสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย อยากพัฒนาวงสยามซินโฟนิเอตต้า ซึ่งก่อตั้งโดย อ.สมเถา เมื่อ 8 ปีก่อน”

อย่างไรก็ตาม พิซซ่ายังยืนยันความเชื่อเดิมว่า การแข่งขันไม่ใช่คำตอบสุดท้าย และผู้ชนะบนเวทีอาจไม่ได้เป็นผู้ชนะที่แท้จริง

“การแข่งขันเป็นแค่ทางหนึ่ง บางคนแข่งแล้วชนะหายไปก็มี อย่างเดอะสตาร์ บางทีคนชนะอาจไม่ได้เป็นคนที่ดังที่สุด คนที่ได้ที่สองอาจจะดังกว่า อีกอย่าง การแข่งขันมันขึ้นอยู่กับรสนิยมของกรรมการด้วย เหมือนเราเป็นเชฟอาหารไทยที่สุดยอดมาก แต่พอไปลงสนาม กรรมการที่ตัดสินอาจไม่ชอบกินอาหารเผ็ด ทำให้ไม่ชอบอาหารของเรา ทั้งที่เราไม่ได้ฝีมือไม่ดี”

ผมเชื่อว่าพรสวรรค์มีอยู่จริง

ถ้าใครเคยทำความรู้จักวาทยกรหนุ่มผู้นี้ผ่านสื่อต่างๆ มาบ้าง จะรู้ว่าเขาไม่เคยเรียนจบจากสถาบันดนตรีชื่อดังที่ไหน แถมยังลาออกจากโรงเรียนตั้งแต่อยู่ชั้น ม.4 เท่านั้น แต่หลังเรียนเปียโนไปได้แค่ 2 อาทิตย์ สามารถแกะเพลง Moonlight Sonata ของบีโธเฟน และปีต่อมาก็สามารถสอบเกรดเปียโนผ่านระดับแปด ซึ่งถือเป็นระดับที่สูงที่สุด แถมยังพ่วงมาด้วยคะแนนระดับเกียรตินิยม

“ถามว่ามีพรสวรรค์มั้ย ต้องให้คนอื่นพูด แต่ผมเชื่อว่าพรสวรรค์มีจริงแน่นอน คิดดูว่าบางคนทำอาหาร ไปเรียนจำสูตรทำตามสูตรแต่อาหารออกมาไม่อร่อย ขณะที่แม่ค้าบางคนใช้ความรู้สึกทำแต่อร่อย นั่นแหละพรสวรรค์ ส่วนจะบอกว่าผมมีในเรื่องดนตรีมั้ย เอาเป็นว่าเป็นสิ่งที่ชอบทำ ชอบมากๆ ตั้งแต่ต้น พอชอบมากก็พยายาม เหมือนเราชอบเราก็เล่นไปเรื่อยๆ เป็นการฝึกฝน เลยเรียนรู้ได้เร็ว บวกกับบางทีเราเล่นเพลงของบีโธเฟน เราชอบท่อนนี้ ชอบคอร์ด ก็จะลองไปนั่งวิเคราะห์ดูโน้ต เป็นการเรียนรู้ที่ไม่ต้องรอให้ครูบอก”

แน่นอนว่าเมื่อความสำเร็จวิ่งเข้ามาหาเร็ว พิซซ่าต้องเตรียมรับอย่างมีสติ เขาบอกว่าข้อดีของการประสบความสำเร็จเร็วคือ ทำให้มีเวลาในการสร้างสรรค์อะไรดีๆ มากขึ้น แต่ข้อเสียคือ การเจออุปสรรคน้อย ทำให้หลงคิดไปว่าทุกอย่างจะราบรื่นไปตลอด ซึ่งมันไม่จริง และพอเราอยู่ในความรู้สึกกับความปลอดภัยปลอมๆ ไม่มีอะไรเที่ยง มันอันตรายเหมือนขึ้นที่สูงเมื่อตกลงมาจะเจ็บมาก

ถ้า...

ไม่เล่นดนตรี : ผมคงเลิกไม่ได้ ชีวิตผมมีแต่ดนตรี ผมจบแค่ ม.3

คุมวงออร์เคสตราไม่ไหว : อย่างน้อยผมก็ยังมีความรู้ในเรื่องแต่งเพลง เรียบเรียงเพลงอยู่

ว่าง : แต่งโคลงสี่สุภาพ เล่นเกม

เบื่อมั้ยอยู่กับมันตลอด : ไม่นะ ถึงจะอยู่กันมานาน ก็มีแฟน อาจจะมีบางช่วง แต่ก็ขอแค่เบรกหน่อยแล้วก็กลับมา

ไม่ใช่ อ.สมเถา ใครคือไอดอล : มีหลายท่านที่ผมเอาเป็นแบบอย่าง แต่ไม่มีใครที่ผมอยากเป็นเหมือน เพราะผมอยากเป็นตัวของตัวเอง