คนไทยไปดังในเอเชีย

โดย...นกขุนทอง ภาพ วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี

ศิลปินนักแสดงไทยยังขายดี ทั้งในระดับฮอลลีวูดและเอเชียก็อยากได้ตัวมาร่วมงาน นอกจากจะมีคุณสมบัติหน้าตาสวยหล่อไม่แพ้ชาติใดในโลกแล้ว ความสามารถก็ไม่ด้อย แถมยังพร้อมพัฒนา ทุ่มเทเกินร้อย และกินขาดเรื่องของการมีสัมมาคารวะ อ่อนน้อมถ่อมตน และมนุษยสัมพันธ์ดี น่ารัก เป็นที่ประทับใจของผู้ร่วมงานทุกชาติ

มาอัพเดตกับอีก 2 ศิลปินนักแสดงที่ก้าวไปสู่อุตสาหกรรมวงการเพลงและภาพยนตร์ระดับเอเชีย ตั้งแต่ “นัททิวณัฏฐ์ ทิวไผ่งาม” ที่เซ็นสัญญาทำงานเพลงและแสดงกับค่าย “CJ Entertainment” ประเทศเกาหลี และ “ปอยตรีชฎา เพชรรัตน์” แสดงภาพยนตร์ฮ่องกงฟอร์มยักษ์เรื่อง “The White Storm” ของผู้กำกับ “เบนนี ชาน” ที่เคยฝากผลงานขึ้นชื่อไว้ใน “ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ” ซ้ำยังได้ประกบกับ 2 ดาราดังของเอเชีย “กู่เทียนเล่อ” และ “จางเจียฮุย”

‘นัททิว’ โรแมนติก กาย สไตล์เกาหลี

ช่วงนี้เป็นช่วงพักเบรกที่ไทย และเตรียมตัวให้พร้อมทุกๆ ด้าน เพื่อเตรียมกลับไปลุยงานชิ้นใหม่ที่เกาหลี “นัททิวณัฏฐ์ ทิวไผ่งาม” จึงยังพอมีเวลามาแบ่งปันประสบการณ์ที่ได้ไปทำงานที่ประเทศเกาหลี

“ตอนนี้กำลังวางโปรเจกต์หน้าที่จะไปเกาหลี ทีมจากเกาหลีเพิ่งมาวางลุคเรา ยังเป็นกระบวนการคุยกันอยู่ แต่ในเร็วๆ นี้ก็จะไปทำงานที่นู่นแล้วครับ สำหรับลุคที่คุยๆ กันไว้ ตั้งแต่แรกแล้วที่ทางเขาเลือกเพราะเห็นเราแล้วเขานึกออกว่าจะทำอะไรกับเราต่อได้บ้าง ในเรื่องการร้องการเต้นผมไม่ได้เก่งกว่าใครเลย แต่เขาคิดว่าจะพัฒนาเราต่อไปได้ ภาพเราในทางเคป๊อปชัดเจน และจากการที่ได้ร่วมงานกันมาแล้ว สิ่งที่เขาเห็นคือผมเป็นคนที่เฟรนด์ลี ง่ายๆ ยิ้มเก่ง มีความตั้งใจ สุภาพเรียบร้อย ดูอบอุ่น เขาบอกว่าน่าจะปั้นเราออกมาคล้ายๆ กับ อีซึงกิ (นักแสดงเกาหลี) เขานิยามเราว่า โรแมนติก กาย ประมาณนั้นครับ”

จุดเริ่มต้นเกิดขึ้นจากทางต้นสังกัดของนัททิว คือ ทรูแฟนเทเชีย ได้เซ็นสัญญากับค่าย “CJ Entertainment” ซึ่งมีศิลปินเอเอฟหลายคนจากทุกรุ่นมาร่วมคัดเลือก แต่โอกาสทองตกเป็นของนัททิว ผลงานที่ทำในประเทศเกาหลีที่ผ่านมาแล้วก็มีเพลง “She’s Bad” โดยมี “จุนฮยอง” สมาชิกวง “บีสท์” มาช่วยร้องในท่อนแร็พ แถมยังได้สาวสวยสุดเซ็กซี่ “ซออา” จากวง “เบรฟเกิร์ล” มาเล่นมิวสิกวิดีโอให้อีก และเพลง “Oh Please” นอกจากจะมีเพลงภาษาเกาหลีออกมาจนเป็นที่ชื่นชอบกันไปแล้ว นัททิวก็ยังฝากฝีไม้ลายมือไว้กับซีรีส์เกาหลี “Monstar” แม้จะเป็นนักแสดงรับเชิญ แต่ก็เป็นการปูทางไว้ได้สวย

การเดินทางสู่วงการบันเทิงระดับเอเชีย นัททิวบอกว่า ไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าโนเนม ไม่มีต้นสังกัดโอกาสก็เป็นไปได้น้อย หรือต้องใช้เวลานานมาก “ดีใจมากที่เป็นเรา เพราะผมอยากก้าวหน้าอยู่แล้วในอาชีพการงาน ในเมืองไทยเราเป็นนักร้อง นักแสดง ละครเวทีก็เล่นแล้ว ผมมองเป็นเส้นกราฟอยากไต่ระดับขึ้นอีก ก็คิดไปไกลอยากโกอินเตอร์ แต่ใครจะไปคิดไปฝันว่าเราได้มีโอกาสทำจริง และบริษัทที่เกาหลีเขาทำหลายอย่างมาก ทำให้เราพลอยมีโอกาสตามไปด้วย แต่ก็ต้องเตรียมพร้อมตัวเองให้หนักมาก

บอกตรงๆ เลยครับว่าที่นั่นเป็นการทำงานที่หนักมาก เราไม่ได้มีหน้าที่แค่ร้องเพลงแล้วจบ แต่หน้าที่เรารวมไปถึงการดูแลตัวเอง ออกกำลังกาย ซ้อมร้องเพลง ซ้อมเต้น ทุกอย่างเป็นระบบหมด อยากให้ผลงานออกมาดีทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาษา สำเนียงการร้อง รวมไปถึงภาพลักษณ์ ที่นั่นเขาแบบเอายากไว้ก่อน เต้นให้แรงไว้ก่อน ร้องยากไว้ก่อน ในส่วนของภาษาตอนนี้ก็ยังเรียนเพิ่มเติมไปเรื่อยๆ ครับ ดีขึ้นกว่าเดิม ยิ่งตอนที่ได้เล่นซีรีส์ช่วยได้เยอะเลยครับ จัดคอร์สเรียนภาษาหนัก เพราะต้องพูดสำเนียงไม่ให้เพี้ยน”

แม้จะทำงานหนักเหนื่อยแค่ไหน แต่ก็มีน้ำทิพย์ให้ชื่นใจ เพราะได้รับคำชื่นชมจากทีมงานเกาหลีและเสียงกระซิบจากผู้ชมซึ่งๆ หน้า “พี่ๆ ทีมงานเขาก็บอกว่าเราตั้งใจทำงานมาก ให้ทำอะไรได้หมด ไม่มีบ่น อย่างผู้กำกับซีรีส์ก็บอกว่าประทับใจในตัวผมมาก ผมทุ่มเทให้กับการแสดง ทำการบ้านมาตลอด ซึ่งได้ยินอย่างนี้ เราคนไทยคนหนึ่งที่ไปร่วมงานกับคนต่างชาติก็ดีใจ

ในเรื่องความเก่งเราสู้ศิลปินของเขาไม่ได้หรอก แต่สิ่งที่เขาประทับใจและอยากร่วมงานกับเราอีกก็คือ ความมีสัมมาคารวะ ส่วนแฟนๆ ก็มีอย่างตอนจะไปแสดงคอนเสิร์ต ซึ่งขึ้นเวทีเดียวกับศิลปินดังของเกาหลี นัทก็มีความกังวลอยู่แล้วว่าจะมีใครรู้จักเราไหม แอบเศร้านิดๆ แต่พี่ทีมงานก็บอกว่า ชาวจีนกลุ่มนั้นเขาพูดถึงนัทด้วย เขารู้จักนะ เคยฟังเพลง และในลิฟต์ขึ้นไปพร้อมแฟนคลับของซูเปอร์จูเนียร์ ผมก็ยืนหลบๆ มุม แต่ก็ได้ยินเขาเอ่ยชื่อเรา นัททิว กับ มอนสตาร์ โหแค่นั้นก็ปลื้มแล้วครับ เพราะเราเหมือนนักร้องที่เพิ่งเกิดใหม่ในเกาหลี”

ในเร็ววันนี้นัททิวต้องไปทำงานที่ประเทศเกาหลี นัททิวทิ้งท้ายไว้ว่า “ทุกวันนี้การเตรียมพร้อมมั่นใจขึ้นสำหรับการจะไปทำงานใหม่ แต่ผมรู้ครับว่ายังไม่พอ ต้องพยายามอีกทุกๆ ด้าน เพื่อให้ได้งานที่ดีที่สุดตามมาตรฐานของเขาและไม่ให้เสียชื่อคนไทยครับ”

‘ปอยตรีชฎา’ ประกบดาราดังเอเชีย

เล่นจริง ฉายจริงแน่นอน สำหรับภาพยนตร์ฮ่องกงฟอร์มยักษ์เรื่อง “The White Storm” ของผู้กำกับ “เบนนี ชาน” เพราะมีโปรแกรมฉายที่ประเทศจีนปลายปีนี้ ซึ่งมีนักแสดงไทย “ปอยตรีชฎา เพชรรัตน์” ร่วมแสดงในบทบาทลูกสาวเจ้าพ่อค้ายา ที่ไม่ได้เข้าฉากแค่แวบไปแวบมา แต่เป็นตัวละครหลักและเด่นของเรื่อง ประกบ 2 ดาราดังของเอเชีย “กู่เทียนเล่อ” และ “จางเจียฮุย” หลายฉาก เรื่องนี้ไม่ไก่กานะค้า

“ตอนนี้ถ่ายทำเสร็จไปเรียบร้อยแล้วค่ะ ใช้เวลาถ่ายทำไป 5 เดือน มีใช้โลเกชันที่ไทยด้วย ถ้าไม่เลื่อนก็มีคิวฉายวันที่ 25 ธ.ค. ปีนี้ ปลายเดือน ก.ย. ปอยก็มีคิวไปโปรโมตที่จีนกับฮ่องกง ปอยไม่ได้ไปในฐานะดาราดัง แต่เป็นนักแสดงหลักของเรื่อง ปอยยังไม่เคยมีผลงานหนังที่นู่นเลย แต่มีแฟนคลับ (หัวเราะ) เพราะเคยถ่ายโฆษณาภาพนิ่งตอนที่ได้ตำแหน่งมิสทิฟฟานี (2004) และเคยไปออกรายการที่ไต้หวัน”

ปอยเล่าถึงเส้นทางมาสู่แผ่นฟิล์มบนแผ่นดินใหญ่ว่า “ตอนที่ได้รับการติดต่อมา ปอยไม่กล้าไปเลยค่ะ กลัวไม่ได้แล้วอาย แต่บทที่ให้แคสตอนนั้นน่าสนใจมาก เป็นตำรวจหญิง ก็เลยไปแคส มีดาราดังของไทยไปกันเยอะมาก คิดว่าไม่ได้ละ แต่พอเขาบอกได้เข้ารอบที่สอง จากไม่ได้ตั้งใจ ปอยไปเรียนการแสดงเพิ่มเลยที่ซูเปอร์สตาร์ อะคาเดมี่ เอาบทที่แคสให้ครูสอน วันที่แคสรอบสอง ปอยแต่งตัวแต่งหน้าตามบทที่ต้องเล่น จัดเต็มเลย ลืมความเป็นตัวเองไปเลย ไปแบบตั้งใจมาก ก็ดีใจที่เราได้ทำเต็มที่ พอได้รับเลือกก็คิดว่าเล่นเป็นตัวประกอบมั้ง หนังก็คงฟอร์มไม่ใหญ่ แต่พอรู้โอ้โห ปอยขอบทล่วงหน้าเลยค่ะ ไปเรียนการแสดงเพิ่มเติมให้เยอะที่สุด”

 ความพยายามของเธอก็ไม่สูญเปล่า เพราะได้รับคำชมจากทีมงานอย่างล้นหลาม “เขาชมผ่านไดเรกเตอร์คนไทยว่าเรามีสปิริตมาก เวลาเล่นเราจะไปรอก่อนคนแรก แม้ว่าเขาให้มาพร้อมกันได้ก็ตาม เขาให้เกียรติปอยมาก เตรียมห้องส่วนตัวให้ ดูแลเราเหมือนดาราดังมากๆ มีมอเตอร์โฮมให้ แต่ปอยคิดเองว่าถ้าเราไปอยู่ไปทำแบบนั้นคนจะมองเราไม่ดีหรือเปล่า ปอยเลยคิดว่าเป็นตัวของตัวเอง ว่างจากถ่ายปอยก็อยู่โซนแคนทีน อยู่กับพี่ช่างแต่งหน้า

ดาราฮ่องกงก็ดีกับปอยมากๆ ตอนถ่ายซีนแรกปอยอยากถ่ายรูปด้วยมาก อยากกรี๊ดเลยค่ะ แต่ทีมงานไทยทำงานกันมาเป็นปีแล้วยังไม่มีใครถ่ายรูปเลย ปอยก็ต้องทำตัวปกติ แต่สุดท้ายดาราทั้งหมดมาขอถ่ายรูปกับปอยเอง ปอยจัดเต็มเลยค่ะ (หัวเราะ) กู่เทียนเล่อน่ารักมาก ในกองก็สนิทกัน แต่นอกกองไม่มีคอนเนกชันอะไร ในกองทุกคนสนิทกันหมด ทุกคนเทกแคร์ปอยดีมาก ปฏิบัติกับปอยเหมือนเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ช่วยพยุง ให้เกียรติจนเราปลื้ม ไม่มีใครถามเรื่องการเป็นสาวประเภทสองของปอยเลย แต่ปอยว่าการเป็นสาวประเภทสองของปอยก็เป็นกิมมิก ที่ทำให้ชาวต่างชาติสนใจที่จะมาร่วมงานด้วยนะคะ เหมือนเขาอะเมซิงที่ปอยเป็นสาวประเภทสอง แต่ดูแลตัวเองได้ดีขนาดนี้ (ยิ้ม)”

 เรื่องนี้ยังไม่ทันฉาย ก็มีหนังจีนติดต่อมาแล้วอีกเรื่อง เป็นแนวหนังผีให้เล่นเป็นสาวประเภทสอง แต่ปอยยังไม่ได้ตัดสินใจ ขอพิจารณาบทก่อน ก็แหมบทเล่นส่งมาเป็นภาษาจีนปนอังกฤษนิดหน่อย เธอก็ต้องใช้เวลาส่งแปลน่ะสิคะ

ขณะที่ผลงานในไทยตอนนี้ แฟนๆ อาจจะไม่ค่อยได้เห็นหน้าตาปอยบ่อยนัก เพราะเธอเอาเวลาไปทุ่มเทให้กับการทำธุรกิจวิตามินเพื่อสุขภาพผิว นั่งบริหารงานเองในชื่อบริษัท “เฟอร์ฟู” เพราะเธอลงทุนลงแรงจริงจัง ไม่ทำฉาบฉวย แต่ก็ยังแอบแง้มนิดๆ ว่าปลายปีก็จะมีละครให้ได้ชมทางช่อง 3 เพราะยังไง้ยังไงก็ไม่ทิ้งวงการบันเทิงไทยไปไหนแน่นอน แม้ว่าจะได้ถ่ายแบบนิตยสารญี่ปุ่นอยู่บ่อยๆ ก็ตาม แถมยังมีไปโชว์ตัวที่เวียดนามอีกแน่ะ