ไมโล เจ้าแสบซ่าส์ ของ ปาร์คคุง-ชาคริฐ จตุพรวัฒนพนธ์
สร้างความประทับใจกันมาแล้วกับบทบาทตำรวจสายลับนามว่า “ปรีติ” จากละครเรื่องดัง “นางร้าย สายลับ”
โดย...ลีโอ เคน / ภาพ ไม่มีเครดิต
สร้างความประทับใจกันมาแล้วกับบทบาทตำรวจสายลับนามว่า “ปรีติ” จากละครเรื่องดัง “นางร้าย สายลับ” แถมยังมีงานนายแบบโฆษณา และ MV อีกหลายตัวมาให้เราได้ชื่นชมพอให้หายคิดถึง และกำลังถ่ายทำละครเรื่องใหม่ที่อีกไม่นานก็จะออนแอร์ให้เราชมกัน
วันนี้หนุ่มปาร์คคุงชาคริฐ จตุพรวัฒนพนธ์ พระเอกหนุ่มมาดนุ่มๆ แถมนิสัยดี ยังพาเจ้าไมโล สุนัขน้อยพันธุ์ไทยๆ เจ้าแซบซ่าส์ คู่หู คู่ฮา รวมทั้งเรื่องราวของบัดดี้สี่ขาสุดเลิฟของเขาให้เราได้ฟังกัน นอกจากจะหายคิดถึงกันแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นอีกว่าพ่อหนุ่มปาร์คคุงยังมีมุมน่ารักๆ อีกเพียบเชียวครับ
“ผมเริ่มเลี้ยงสุนัขมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วครับ สุนัขตัวแรกก็ประมาณตอนผม 10 ขวบ สีขาวตัวประมาณเข่า ขนฟูๆ หูตั้ง ชื่อนิกกี้ เป็นผู้ชาย มีความสัมพันธ์กันมาก คือมีวันหนึ่งผมโดนเพื่อนแกล้งมา พอกลับมาบ้านก็มานั่งร้องไห้ที่บันได มันเดินเข้ามาหา มาเลียขาเรา แล้วก็มานอนข้างๆ เรารู้สึกว่ามันรับรู้ว่าเรากำลังรู้สึกอะไร ต้องการมาปลอบเรา
หลังจากวันนั้นประมาณ 1 เดือน มันก็เสียชีวิตเพราะโดนรถชน เราก็ร้องไห้เหมือนเพื่อนเราจากไปแล้ว คือตอนเด็กๆ ผมไม่ค่อยมีเพื่อน ไม่รู้เป็นเพราะอะไร อาจจะพูดไม่ค่อยเป็นมั้งครับ ไม่ค่อยมีเพื่อน มีมันเนี่ยล่ะเป็นเพื่อน เหมือนเราขาดอะไรไป เหมือนเรามีสิ่งที่รักมากแล้วหายไป รู้สึกเหงา รู้สึกโดดเดี่ยว”
หลังนิกกี้จากไป ไม่นานนักปาร์คคุงก็ได้เพื่อนตัวใหม่มาดามใจ
“ตัวที่ 2 เป็นหมาที่พ่อเอามาให้เฝ้าโรงงาน พันธุ์ไทยหลังอาน ตอนแรกเอามา 2 ตัว แล้วพี่มันโดนฟ้าผ่าแล้วตกใจตาย ก็เลยเหลือตัวเดียว ชื่อแม็กครับ ตัวนี้อยู่กับเรานานที่สุด คลุกคลีกับเรามากที่สุด ช่วงที่เราวัยรุ่นจะกลับบ้านดึก วันหนึ่งผมเมาแล้วกลับมาบ้านก็ไปนอนกอดมัน มันก็ให้เรานอนกอดทั้งคืน ตื่นมาตอนเช้ามันก็ยังให้เรากอดอยู่อย่างนั้น พอเราลุกขึ้นมันก็ลุกตาม แต่เดินเหมือนเป็นตะคริว (หัวเราะ) เดินเอียงๆ แต่มันก็ยอมให้เรากอด น่ารักมาก และทุกเช้าจะพาไปวิ่งเล่น ก็จะเป็นที่รักของคนละแวกนั้น แม่ค้าก็จะให้หมูปิ้ง ไก่ปิ้งกินเป็นประจำ วันที่เสียมันจะมีพฤติกรรมแปลกๆ ก็คือจะหอนและถ่ายเต็มบ้านเลย แล้วมันก็จากเราไป”
“แล้วก็มา เจเจ เป็นพันธุ์เดียวกับนิกกี้ คือลาบราดอร์ผสมกับโกลเดน มาตอนตัวใหญ่แล้วครับ เป็นหมาของพนักงาน ที่ชื่อเจเจ เพราะมาจากตลาดนัดจตุจักร นิกกี้เป็นตัวผู้ที่สง่า ตัวเมียมาติดเพียบ (555) แล้วตัวผู้ตัวอื่นก็มารุมกัด จนหูฉีกไปข้าง ตอนแรกก็มาอยู่ที่บ้านแล้วก็นำไปอยู่โรงงาน ก็เลยไม่ค่อยมีวีรกรรมกับเราเท่าไหร่”
จนกระทั่งเขาได้คู่หูคู่ฮา นามว่าไมโล เจ้าแสบซ่าส์ที่อยู่ข้างกายและเรียนรู้กันและกันมาจนทุกวันนี้
“ไมโลนี่มาวันแรกก็สร้างความป่วนเลยครับ คือเอามันขึ้นรถแล้วมันก็อ้วก มันเมารถ เอามาตั้งแต่เด็กๆ วีรกรรมที่ทุเรศที่สุดคือมันทำท่าเดียวกับเจเจ คือชอบเด้าที่ขาผม มันทำแต่เด็กเลยนะครับ (หัวเราะ) พอเราไม่ยื่นขามันก็จะเลีย เพื่อให้เรายื่นขาให้มันทำ ผมว่ามันเป็นวิธีบอกรักของมันนะครับ
เวลาผมกลับบ้าน ตัวอื่นที่เลี้ยงมาก็จะเข้ามาเล่น แต่ไมโลมันจะกลัว หูลู่ หางสั่นเลยนะครับ ผมก็ต้องปลอบมันด้วยการยื่นขาให้ มันก็จะเริ่มทำท่านั้นทันที เป็นท่าประจำตัวมัน (หัวเราะ) และมันชอบไปเห่าคนข้างบ้าน ตัวอื่นจะเป็นที่รัก แต่ไมโลจะไม่ค่อยมีคนชอบ เขาชอบเอาของปาใส่มัน เห่าเสร็จก็จะวิ่งเข้าบ้าน แล้วก็ไปเห่าใหม่
ความแซบซ่าส์ของไมโล คือมันจะซนมาก จนน่ารำคาญ (หัวเราะ) บางทีเราเหนื่อยมันก็ไม่ยอมให้เราไป จะเด้าเราท่าเดียว ผมก็เริ่มผูกพันกับมันแล้วนะครับ พอมันโตขึ้นพ่อก็จะเอาไปไว้ที่โรงงานแล้ว เราก็ไม่อยากให้ไป มันเป็นหมาตลก เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา เริ่มเข้ามาเป็นสมาชิกในครอบครัวเราไปแล้ว เป็นเพื่อนวัยทีนของผม (หัวเราะ)
ผมว่าไมโลมันมีความซื่อสัตย์ มันสัมผัสกับความรู้สึกเราได้ จากการกระทำ จากสายตาของมัน การมองหน้ามันบอกให้เรารู้ว่ามันกำลังปลอบเรา มันกำลังบอกว่าอย่าเสียใจนะ มันเป็นเพื่อนอีกคนที่เราหาไม่ได้ มันไม่เคยหักหลังเรา อย่างเมื่อสองสามวันก่อนผมจะออกไปถ่ายงานแล้วหารองเท้าไม่เจอ มันก็ไปคาบมาให้เหมือนมันรู้ว่าเราชอบคู่นี้ เราก็เอ้ย...มันยังเด็กนะทำไมมันทำได้ ผมคิดว่าโตขึ้นมันต้องเจ๋งแน่ๆ”
สุดท้ายหนุ่มปาร์คคุงยังฝากถึงผู้ที่จะเลี้ยงสัตว์อย่างอารมณ์ดีว่า
“คนที่คิดจะเลี้ยงสัตว์เมื่อเลี้ยงแล้วก็เลี้ยงเขาดูแลเขาให้ดีที่สุด เพราะเขาจะรักเรา และดีกับเราที่สุดเช่นกันครับ”