มอเตอร์ไซค์โบราณสุดรัก ของ ฐิติพงศ์ ดีมั่นคงวณิช
เห็นเป็นหนุ่มวัยเพียง 25 ปี แต่ ฐิติพงศ์ ดีมั่นคงวณิช หรือติน ก็รักการสะสมมอเตอร์ไซค์คลาสสิกเป็นชีวิตจิตใจ
โดย...วราภรณ์ ภาพ : วิศิษฐ์ แถมเงิน
เห็นเป็นหนุ่มวัยเพียง 25 ปี แต่ ฐิติพงศ์ ดีมั่นคงวณิช หรือติน ก็รักการสะสมมอเตอร์ไซค์คลาสสิกเป็นชีวิตจิตใจ ด้วยความท้าทายในการเสาะแสวงหาและประวัติอันน่าทึ่งของเจ้ามอเตอร์ไซค์คลาสสิกทั้งฮอนด้าและดูคาติที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานที่น่าศึกษานี่แหละ ที่เป็นเสน่ห์มัดใจ ปัจจุบันฐิติพงศ์นั่งในตำแหน่งผู้บริหารบริษัทในเครือคุณฮั้ว กรุ๊ป ที่แตกหน่อมาจากธุรกิจผลิตรูปพรรณนากและกรอบพระของคุณปู่ทวดที่ก่อตั้งมานานกว่า 60 ปี ด้วยฝีมือชำนาญและประณีต ในปี 2536 ต่อยอดธุรกิจเปิดร้านทองในนาม “ห้างทองคุณฮั้ว (หล่อ)” ตั้งอยู่บนชั้น 1 ดิโอลด์สยามพลาซ่า จนโด่งดัง จากนั้น ทวีศักดิ์ ดีมั่นคงวณิช คุณพ่อผู้ล่วงลับเริ่มผลิตและจำหน่ายทองรูปพรรณ 96.5% โดยความเติบโตทางธุรกิจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนต้องขยายโรงงาน และเริ่มต้นในการขยายธุรกิจค้าส่งทองคำแท่ง การสกัดทอง และจำหน่ายเม็ดเงิน ในนามบริษัท ที.ดี.ซี.โกลด์ รวมแล้วธุรกิจของครอบครัวมีทั้งหมด 6 บริษัท
ด้วยเป็นลูกชายเจเนอเรชั่นที่ 3 ฐิติพงศ์จึงคุ้นเคยกับธุรกิจของครอบครัวมาตั้งแต่เด็ก และกลายเป็นผู้บริหารฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคลของบริษัทในเครือคุณฮั้ว กรุ๊ป ทั้งหมด ย้อนกลับไปในวัยเด็กของนักบริหารถึงของสะสมสไตล์ผู้ชายๆ ก็คือชื่นชอบความเร็วเหมือนผู้ชายทั่วๆ ไป เขาจึงสนใจเก็บสะสมรถจักรยานยนต์โบราณไว้ทั้งสิ้น 6 คัน 2 ยี่ห้อ คือ ฮอนด้า และดูคาติ คันที่มีอายุมากสุดคืออายุ 54 ปีทีเดียว โดยเก็บสะสมตั้งแต่อยู่ชั้นมัธยม อายุเพียง 17 ปีเท่านั้น
“ตอนเด็กๆ เราทุนไม่เยอะ ผมเห็นเพื่อนๆ ในวัยเดียวกัน คือ 17 ปี ที่โรงเรียนสวนกุหลาบเล่นรถมอเตอร์ไซค์ ฮอนด้า คลาสสิก เป็นมอเตอร์ไซค์คันเล็กๆ ตระกูลซี 100 เป็นรถทรงผู้หญิงขี่ไปจ่ายตลาด คันแรกที่ซื้อเก็บสะสมคือ ซี 100 ผลิตปี 1960 มือ 2 จากญี่ปุ่น แต่รถมอเตอร์ไซค์โบราณหายาก เวลาเราได้โครงมาเราก็ซื้อคันเก่ามาประกอบใหม่ ก็ขี่ได้ปกติ ซึ่งสมัยก่อนรถมอเตอร์ไซค์ฮอนด้าซีเป็นที่นิยมมากๆ ผมใช้ขี่ไปเยาวราช ไปช่วยงานที่ร้านคุณพ่อ เพื่อนเห็นก็ฮือฮา โดยเฉพาะกลุ่มเพื่อนที่เล่นรถเก่าด้วยกัน” ซึ่งความชอบรถมอเตอร์ไซค์ถ่ายทอดมาอย่างไร เขาไม่รู้ แต่เมื่อคุณพ่อรู้ว่าลูกชายชอบมอเตอร์ไซค์เก่า คุณพ่อก็ถ่ายทอดเรื่องเล่าว่า เมื่อก่อนคุณพ่อก็ขี่มอเตอร์ไซค์ซี 72 เบนท์เลย์สีดำ ปี 1967 เมื่อมีความชอบในมอเตอร์ไซค์เหมือนๆ กัน จึงคุยกันสนุก และเขาก็ไปหามอเตอร์ไซค์ซีบี 72 ปี 1967 มาเก็บอีกครั้งเป็นคันที่สอง ต่อด้วยมอเตอร์ไซค์คลาสสิกคันที่ 3 ซีบี 72 สีดำ ซึ่งย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว รถคลาสสิกก็กลายเป็นของหายาก
“พ่อกับผมชอบรถมอเตอร์ไซค์สายคลาสสิกเหมือนๆ กัน พูดเรื่องความหายากก็หายากเรื่องทะเบียน เรามอเตอร์ไซค์คลาสสิกนำเข้าจากญี่ปุ่นจึงไม่มีทะเบียน แต่ของเราได้ทะเบียนเพราะนำเข้ามาในเมืองไทย เมื่อก่อนซื้อมาราคาประมาณ 7 หมื่นบาท แต่มาหาซื้อตอนนี้ราคาตกราว 2 แสน สภาพดี แต่หากสภาพไม่ดีก็ 1 แสน 8 หมื่นบาท มอเตอร์ไซค์คันที่ 2 ผมได้ตอนอายุ 18 ปี ตอน ม.6 พอเริ่มเรียนปีหนึ่งผมหยุดพักการสรรหามอเตอร์ไซค์คลาสสิก เริ่มเก็บอีกทีตอนเรียนมหาวิทยาลัยปี 3 โดยคันที่ 3 ซื้อกับพี่ชายที่หันมาเล่นรถคลาสสิก แต่ขยับไปเป็นพอล สมาร์ท ของดูคาติ”
อะไรทำให้จากรถมอเตอร์ไซค์ญี่ปุ่น “ฮอนด้า” มาสะสมมอเตอร์ไซค์คลาสสิกสัญชาติอิตาลี “ดูคาติ” เพราะเมื่อสะสมรถมอเตอร์ไซค์โบราณไปสักพักด้วยความชอบอะไรที่ไม่เหมือนใคร อายุที่มากขึ้น เมื่อพอศึกษาประวัติของมอเตอร์ไซค์ดูคาติ พบถึงเครื่องยนต์กลไกที่ส่งผลให้สมรรถนะการขี่เป็นเรื่องน่าทึ่ง
“เมื่อศึกษาเครื่องยนต์ของรถมอเตอร์ไซค์ดูคาติ เราพบว่าเครื่องสูบวิ่งเป็นรูปตัวแอล คลัตช์เป็นคลัตช์แห้งส่งผลต่อการขี่ที่ดี ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของดูคาติ ทำให้เราชอบ จากเราชอบเครื่องยนต์ c 50 กระโดดมา 200 ซีซี ข้ามมา 1,000 ซีซี จึงขับขี่ได้เร็วมาก แต่เราจะรู้การขับขี่ที่ปลอดภัย คือเราขับไม่เร็ว ผมจะเป็นแนวขี่ชมธรรมชาติ ชมเมืองสวยงาม” จากฮอนด้ามาดูคาติ ทั้งวิวัฒนาการและเทคโนโลยีของเครื่องยนต์ก็ดีไปคนละแบบ โดยดูคาติรุ่นพอล สมาร์ท คันแรกที่ตนเก็บเป็นมอเตอร์ไซค์คลาสสิก ยุค 2006 แต่โครงรถยังเก่าอยู่เหมือนพอล สมาร์ท ยุคแรกๆ ที่ผลิตขึ้นใหม่เพียง 2,000 คันเท่านั้น และฐิติพงศ์เป็นเจ้าของ 1 คัน
“ผมเก็บดูคาติคันแรก คือ พอล สมาร์ท เพราะผมชอบเอกลักษณ์คือคลัตช์แห้ง เวลาขี่เสียงเหมือนอะไรจะหลุด เหมือนมีวงแหวนอยู่ข้างใน เป็นรถ 2 สูบ ทำให้เครื่องยนต์หนักแน่น ดูคาติเริ่ม 2 สูบ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของดูคาติ ต่อมาผมเก็บดูคาติ จีที 1,000 มีสองคันคู่กัน สีครีมดำผลิตปี 2006 อีกคันผลิตปีเดียวกัน แต่สีเทา ที่ผมเริ่มเก็บสะสมทูโทนเพราะในตลาดหายาก และไม่มีของด้วย แต่คนต้องการซื้อเยอะ เพราะเดี๋ยวนี้คนหันมาเล่นมอเตอร์ไซค์คลาสสิกกันเยอะ จึงเป็นที่ต้องการ เพราะรถพวกนี้หยุดผลิตไปแล้ว ผลิตก็จำกัด ทำให้เราหายาก ปัจจุบันผมมีดูคาติ 3 คัน ล้วนเป็นรถคลาสสิกทั้งนั้น ซึ่งเวลาผมซื้อมาได้ เพราะอาศัยสอบถามจากเพื่อนในกลุ่ม แต่ผมเด็กที่สุดในกลุ่ม เวลาอยากได้รถรุ่นไหนก็ปรึกษาพี่ๆ”
เสน่ห์ของมอเตอร์ไซค์คลาสสิกคือ เพราะน่าหลงใหล พอศึกษาตามประวัติแล้วยิ่งพบความหมาย
“อย่างพี่ชายเก็บรถคลาสสิกพอร์ช เราศึกษาแล้วก็พบประวัติการออกแบบที่น่าทึ่ง จะกี่ปีผ่านไป ทรงก็ยังเหมือนเดิม หรือดูคาติ พอล สมาร์ท เป็นนักแข่งรถของดูคาติที่เก่งมาก แข่งทีไรก็ชนะ รถมอเตอร์ไซค์ที่พอล สมาร์ท ขี่แล้วชนะได้แชมป์โลก คันแรกทำในปี 1970 เครื่อง 900 ซีซี รถรุ่นนั้นก็เลิกผลิตไป ผ่านไป 37 ปี ดูคาติผลิตรถรุ่นนี้ขึ้นใหม่ แต่พัฒนาให้เครื่องแรงกว่า อย่างผมจะหาซื้อดูคาติรุ่นที่พอล สมาร์ท เคยแข่งชนะแล้วก็หาไม่ได้ ก็ต้องซื้อรุ่นที่เขาทำใหม่เพื่อระลึกถึงพอล สมาร์ท เวลาที่ผมอยากได้รถรุ่นไหนก็ต้องอาศัยเสาะแสวงกับรุ่นพี่ๆ ว่ามีไหม รุ่นพี่ก็จะบอกข่าวว่า รุ่นพี่คนนี้ปล่อย ราคาเท่าไหร่ มีสภาพเป็นไง คันที่ผมสนใจผมก็ไปดู อย่างคันทูโทนมาจากพัทยา สีเทามาจากภาคเหนืออายุเขา 12 ปีแล้ว มีคนอยากได้เยอะมาก ถ้ารู้ว่าใครจะขายแล้วสภาพโอเค มีคนจองเลย เพราะรถดูคาติคลาสสิกหายากขึ้นเรื่อยๆ อย่างดูคาติสปอร์ต พันเอส ซึ่งผลิตในปี 2002-2006 อยากได้ แต่เสาะหายังไม่เจอ ผมอยากได้รุ่น 900 เอส”
อย่างไรก็ดี การเสาะแสวงหาของนักสะสมมอเตอร์ไซค์เก่า เป็นสิ่งที่ท้าทาย เพราะหายากไม่มีขายในตลาด มีสตางค์แต่ไม่มีรถโบราณให้นักสะสมซื้อ อยากได้ต้องใช้ศิลปะในการเสาะแสวง และสืบหา เริ่มแรกจากชมรมคนรักมอเตอร์ไซค์คลาสสิค ขนาดดูคาติคลาสสิกในอิตาลีก็ยังหายากถึงไม่มีแล้ว เพราะตลาดกระจายไปประเทศต่างๆ แล้ว เช็กได้ในสหรัฐอเมริกาก็เหลือน้อย แต่ในเมืองไทยคนนิยมดูคาติมากๆ มีการผลิตรุ่นมอนสเตอร์ 795 ออกมาตีตลาดในราคาสี่แสนกว่าๆ แต่ผลิตในไทย ก็ยิ่งเป็นตัวกระตุ้นให้คนรู้จักและหลงรักดูคาติมากขึ้น
“ยิ่งมอเตอร์ไซค์คลาสสิกที่หายากๆ เมื่อเราได้มาไว้ในครอบครองแล้วก็จะรู้สึกภูมิใจ เพราะผมหลงเสน่ห์ในเสียง และรูปทรงที่ไม่เหมือนใคร แต่รุ่นใหม่ๆ ผลิตขึ้นเรื่อยๆ ไม่จำกัด เวลาที่ผมสะสมมอเตอร์ไซค์คลาสสิกผมไม่ได้มองที่ราคา แต่หากชอบเราสะสม แต่ขอบอกว่ายิ่งเก็บนานราคาจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างคนเล่นมอนสเตอร์ 795 ก็พัฒนามาจากรุ่นคลาสสิก ความสนุกอยู่ตรงเก็บก่อนมีสิทธิก่อน แต่ก็ต้องอยู่ที่จังหวะ บางครั้งรอเป็นปี อย่างรุ่นพอล สมาร์ท รอนานสุด เราขายคันเก่าเพื่อเก็บสตางค์ไว้รอ มีเมื่อไหร่จะไปเอา”
รถมอเตอร์ไซค์โบราณในฝันบอดี้สวยถูกใจที่ตินอยากเป็นเจ้าของอีก ได้แก่ มอเตอร์ไซค์ BMW อาร์ 60 ซึ่งเป็นรุ่นที่ต้องการของนักสะสมรถมอเตอร์ไซค์เก่า ซึ่งในแวดวงนักสะสม ฮอนด้ารุ่นคลาสสิก คนก็ยังนิยม เช่นเดียวกับหนุ่มติน
“ฮอนด้า คลาสสิก ผมอยากได้ ซีบี 77 ทรงนี้เครื่องใหญ่กว่า ปัจจุบันไม่ขี่กันแล้ว เก็บสะสม เพราะเก่าโบราณ ผลิตปี 1960 อายุ 60 แล้ว แต่ก็ขี่ได้ หากเราเสาะหาอะไหล่ ท่อรถหายาก เราเก็บเดิมไปเลย ปัจจุบันฮอนด้าคลาสสิกที่ผมเก็บ 3 คัน ก็เก็บตั้งโชว์ในบ้าน แต่ดูคาติยังใช้งานได้จริงอยู่”
สำหรับแหล่งที่นักสะสมใช้เสาะหาของที่พวกเขารัก คือ ถามนักเลงรถมอเตอร์ไซค์ด้วยกัน เพราะข่าวสารว่าใครจะซื้อจะขายจะกระจายอยู่ในแวดวงคอเดียวกัน “แหล่งที่หารถคลาสสิกที่ง่ายที่สุดคือ เพื่อนๆ ในกลุ่มเดียวกัน ซึ่งส่วนใหญ่อายุ 50 ปีกันแล้ว ใช้วิธีศึกษาเองจากการอ่าน และเรียนรู้จากรุ่นพี่ พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน รุ่นนี้ที่สนใจเป็นอย่างไร อะไหล่แท้สังเกตตรงไหน ถ้ามีรถที่อยากได้เราก็ถามพี่ๆ หรือชวนไปดู หากซื้อแล้วก็ขับไปให้รุ่นพี่ดูว่าอันไหนใช่อะไหล่แท้หรือเทียม ถ้าปลอมก็เปลี่ยน”
แม้ปัจจุบันมอเตอร์ไซค์คลาสสิกจะกลายเป็นของหายาก แต่หนุ่มตินก็ยังมั่นเก็บมอเตอร์ไซค์คลาสสิกต่อไป!
วิธีเก็บรักษารถมอเตอร์ไซค์คลาสสิกให้สวยไปนานๆ
รถมอเตอร์ไซค์คลาสสิกคันละไม่ใช่ถูกๆ วิธีรักษาหนึ่งที่ดูแลรถให้สวยอยู่กับเราไปนานๆ คือ เวลาขี่รถมอเตอร์ไซค์คลาสสิกไปจอดที่ไหนก็ให้จอดอย่างระมัดระวัง เช่น ดูคาติ คลาสสิก อะไหล่หาค่อนข้างยาก ไปจอดที่ไหนก็ต้องระวัง อย่าไปจอดในที่เปลี่ยว จอดไว้ใกล้ๆ คน มีแสงสว่าง มีคนเดินผ่าน สำหรับวิธีดูแลอื่นๆ คือ ก่อนขี่ก็ควรทำความสะอาด เช่นเดียวกับก่อนจอดเก็บก็ต้องทำความสะอาด เช่น ก่อนขี่ควรเช็กเบรกและน้ำมันเครื่อง เพื่อความปลอดภัยขณะขับขี่ และไม่ควรขี่เร็ว