กาลเวลาไม่เคยเปลี่ยน แก้ว พงษ์ประยูร

โดย...ราชันเบอร์23

ย้อนไปเกือบ 2 ปี ลูกผู้ชายตัวเล็กๆ ที่ชื่อ แก้ว พงษ์ประยูร ทำให้คนไทยทั้งประเทศมีความสุข ในฐานะนักชกเหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ 2012 นั่นเป็นความฝันสูงสุดของผู้ชายธรรมดาคนนี้

กาลเวลาผ่านไป แฟนมวยทั้งประเทศอยากรู้ว่า ตอนนี้หนุ่มใหญ่วัย 34 ปี อยู่ดีมีสุขหรือไม่???

ืภรรยาและลูกคือหัวใจ

เบื้องหลังความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของวีรบุรุษ นอกจากคุณพ่อคำคุณแม่มะลิ ที่อยู่เบื้องหลังแล้ว ภรรยาสุดที่รัก “น้องไก่” ธาราทิพย์ พงษ์ประยูร และลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน “น้องแก้มใส” เป็นสิ่งที่มีค่า ยิ่งตอนนี้มี “น้องต้นกล้า” ลูกชายคนโปรด วัย 10 เดือน เป็นสิ่งที่มีค่ามากกว่าชีวิต แม้จะไม่ค่อยมีเวลาให้ แต่ก็ส่งความสุขถึงกันตลอด

 

“ทุกวันนี้ผมเป็นโค้ชมวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทย มีหน้าที่ดูแลน้องๆ นักมวยที่โบนันซ่าเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ทำให้ไม่มีเวลาไปอยู่กับครอบครัว แต่ผมก็ใช้เทคโนโลยี คือ ‘ไลน์’ หรือโทรศัพท์หาลูกทุกวัน เพราะความคิดถึง ส่วนวันเสาร์อาทิตย์ หากมีเวลา ผมก็จะขับรถไปหาลูกที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เขาอยู่กับยายที่นั่น ซึ่งผมจะพาเขาไปเที่ยวสวนสัตว์หรือห้างสรรพสินค้า

มันเป็นความสุขง่ายๆ ไม่จำเป็นต้องไปต่างประเทศเหมือนคนอื่น ผมว่ามันไม่จำเป็น ตอนนี้ ‘น้องแก้มใส’ อายุ 4 ขวบแล้ว อยู่ชั้นอนุบาล 2 มีช่วงหนึ่งเขาไม่ยอมให้ผมกอดหรือหอมแก้มเลย แต่ตอนนี้ดีขึ้น อาจเป็นเพราะว่าช่วงนั้นผมเก็บตัวฝึกซ้อมที่จะไปชกโอลิมปิกเกมส์ ทำให้ห่างเหิน ทุกวันนี้ผมเข้าใจดีเลยว่าเงินทองไม่สำคัญเท่ากับความรักของคนในครอบครัว” นักชกจากกำแพงเพชร เริ่มเปิดใจ

 

วงการมายาเป็นสิ่งท้าทาย

นอกจากต่อยมวยเก่งแล้ว ฮีโร่ลอนดอนเกมส์ ยังชอบงานในวงการแสดง หลังจากเคยรับงานเป็นพรีเซนเตอร์ งานละครบ้างตามความเหมาะสม ทำให้รู้สึกหลงใหลวงการนี้

“มีติดต่อมาบ้าง ประเภทซิตคอม ละคร หรือว่างานโชว์ตัว ซึ่งผมก็ชอบนะ เพราะมันไม่เหนื่อยเท่าไหร่ ไม่เหมือนต่อยมวย แต่ถามว่าผมชอบอย่างไหนมากกว่ากัน ผมชอบชกมวยมากกว่า เพราะมันเป็นมาตั้งแต่เกิด มันอยู่ในสายเลือด แต่งานแสดงมันเป็นสิ่งที่แปลกใหม่สำหรับผม มองว่ามันท้าทาย ซึ่งความยากง่ายมันก็ต่างกัน อย่างงานละครเนี่ยยากสุดๆ เพราะเราต้องเล่นเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเรา ช่วงนี้ไม่ค่อยมีงานด้านบันเทิง อาจเป็นเพราะข่าวคราวของเราเงียบไป มันเป็นไปตามกระแส ผมยอมรับได้”

สมรักษ์สมจิตร คือไอดอล

อดีตนักมวยเหรียญทองหลายคน มีเงินมีทอง มีชื่อเสียง แต่ไม่สามารถรักษามันได้ เพราะใช้ชีวิตโดยประมาท แต่สำหรับ แก้ว พงษ์ประยูร ไม่มีทางเป็นเยี่ยงนั้น เพราะมีตัวอย่างให้เห็นมากมาย ฉะนั้นเขาขอเป็นผู้ลิขิตทางเดินชีวิตของตัวเอง

“ผมเป็นคนประหยัด รู้จักใช้เงิน และรู้จักคุณค่าของมัน แต่ไม่ใช่คนขี้เหนียวนะ ผมโชคดีที่มีภรรยาดูบริหารจัดการเรื่องการเงินด้วย ทำให้ผมสบายใจได้ ทุกบาททุกสตางค์ที่ได้มาผมจะฝากภรรยาไว้ เขาก็จะจัดการเอาไปเข้าธนาคาร รวมถึงทำประกันชีวิตและลงทุนประเภทออมทรัพย์เอาไว้ให้ลูก

 

ผมมีที่ปรึกษานะ ไม่ใช่คิดเอง เออเอง เวลามีปัญหาอะไรก็จะโทรหา ‘พี่บาส’ สมรักษ์ คำสิงห์ กับ ‘พี่จิตร’ สมจิตร จงจอหอ สองคนนี้เปรียบเหมือนพี่ชายแท้ๆ เลย เขารับฟังปัญหาของเราและแนะนำเราได้ ผมอยากจะเจริญรอยตามพวกพี่เขาในเรื่องการแสดง เขาเป็นอาจารย์ที่ดีทีเดียว เพราะอาบน้ำร้อนมาก่อน เขาจะแนะนำเรื่องการวางตัว การเข้าสังคม และหลายๆ อย่าง ซึ่งตอนแรกผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่า พี่บาสกับพี่จิตรเขาจะทำได้ เห็นเขาชอบคุยตลก เฮฮา แต่ทั้งสองเป็นคนที่มีปรัชญาชีวิต ซึ่งผมขอยกนิ้วให้เขาเลย”

บั้นปลายชีวิตโค้ชทีมชาติระดับ 3 ดาว

วงการมวยสากลสมัครเล่นยุคปัจจุบัน ภายใต้การนำของ พิชัย ชุณหวชิร นั่งตำแหน่งนายกสมาคมมวยแห่งประเทศไทย ได้เล็งเห็นความสามารถของเจ้าของเหรียญเงินลอนดอนเกมส์ ซึ่งได้มอบหมายตำแหน่งโค้ชให้กับแก้ว แต่มันเป็นเพียงแค่ก้าวแรกของอาชีพโค้ช

“ผมต้องขอขอบคุณสมาคมมวยสากลแห่งประเทศไทย ที่ทำให้ผมมีวันนี้ คนเราหากรู้จักคุณคน ผู้นั้นย่อมเจริญ พ่อแม่ได้สอนผมไว้ และผมก็มีโอกาสแล้ว หลังจากทำหน้าที่โค้ชให้ทีมมวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทย ซึ่งเป้าหมายของผมอยากจะเป็นโค้ชระดับ 3 ดาว ทุกวันนี้ผมได้ถ่ายทอดประสบการณ์ชีวิตต่างๆ ให้รุ่นน้อง โดยไม่หวงวิชา อะไรที่คิดว่าเป็นประโยชน์ต่อพวกเขา ผมจัดให้หมด เพราะอยากที่จะเห็นรุ่นน้องประสบความสำเร็จ ผมมองพวกเขา ก็เหมือนมองเห็นตัวเองในอดีต ผมก็เป็นแบบพวกเขาเนี่ยล่ะ มาจากต่างจังหวัด ครอบครัวยากจน ไม่มีเงิน ชีวิตต้องต่อสู้ฝ่าฟัน แต่สักวันฝันก็จะเป็นจริงขอเพียงตั้งใจและทุ่มเทกับมัน อย่าย่อท้อ ผมสอนพวกเขาทุกครั้ง”

ืได้เหรียญเสมอตัวแต่ถ้าแพ้ก็เจ๊ง

ปลายปีนี้ขุนพลเสื้อกล้ามทีมชาติไทยมีคิวต้องไปล่าเหรียญกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 17 ที่อินชอน, เกาหลีใต้ ซึ่งสมาคมมวยสากลฯยังเป็นสมาคมความหวังของคนไทยทั้งชาติ ล่าสุดมีข่าวว่าสมาคมมวยฯ ดึง แก้ว พงษ์ประยูร มาชกรุ่น 49 กก. หลังจาก ธเนศ องค์จันต๊ะ จะหันไปชกมวยไทยสมัครเล่น

“ได้มีการทาบทาม แต่ผมก็ขอคิดดูก่อน เพราะว่ามันเหมือนดาบสองคม หากผมชกได้เหรียญทองก็ถือว่าเสมอตัว แต่ถ้าไม่ได้ มันจะทำให้ผมรู้สึกแย่ ต้องยอมรับว่าผมไม่ได้ชกมาเลยตั้งแต่จบโอลิมปิกเกมส์ เกือบ 2 ปี ร่างกายไม่น่าจะฟิต แม้จะมีฝึกซ้อมกับน้องๆ บ้าง แต่มันก็ไม่เข้มข้นเหมือนตอนเป็นนักกีฬา ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับสมาคมฯ ว่าจะตัดสินใจอย่างไร สำหรับผมเพื่อชาติ ผมยอมทำได้ทุกอย่าง”

ไม่น่าเชื่อว่า แม้เวลาจะล่วงเลย แต่ก็ไม่ได้พรากความเป็นตัวตนของชายที่ชื่อ แก้ว พงษ์ประยูร ฮีโร่ขวัญใจคนไทย

นี่คือเหตุผลที่ทำให้เขายังเป็นหนึ่งในใจของแฟนมวยชาวไทยเสมอมา