posttoday

10เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ"ต๋อง ศิษย์ฉ่อย"

13 เมษายน 2557

10เรื่องน่ารู้บนเส้นทาง 30 ปีในวงการสนุกเกอร์ของ "ต๋อง ศิษย์ฉ่อย" หนึ่งในตำนานนักสนุกเกอร์ของไทย

10เรื่องน่ารู้บนเส้นทาง 30 ปีในวงการสนุกเกอร์ของ "ต๋อง ศิษย์ฉ่อย" หนึ่งในตำนานนักสนุกเกอร์ของไทย

ปิดฉากนักสอยคิวขวัญใจชาวไทย "ต๋อง ศิษย์ฉ่อย" หรือรัชพล ภู่โอบอ้อม วัย 44 ปี หลังพ่ายให้กับอเล็กซ์ บอร์ก จากมอลต้า 9-10 เฟรม จากแข่งขันสนุกเกอร์สะสมคะแนนระดับอาชีพโลกรายการสุดท้ายของปี "ดาฟาเบท เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ"เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา ณ เมืองเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษ

เป็นที่แน่นอนแล้วว่าซีซันหน้า จะไม่ได้เล่นอาชีพโลก เนื่องจากหล่นมาอยู่อันดับ 67 ซึ่งคิวโลกจะคัดเอาไว้ 64 อันดับแรกเท่านั้นถึงจะเล่นอาชีพต่อไปได้ 

30 ปีบนเส้นทางนักสอยคิว ปฏิเสธไม่ได้ว่าชื่อของเขาไม่ต่างอะไรกับตำนานอันยิ่งใหญ่ของวงการสนุกเกอร์เมืองไทย สร้างสีสัน ชื่อเสียงเกียรติยศมากมายแก่ประเทศชาติ

นี่คือ 10 เรื่องที่น่ารู้เกี่ยวกับ "ต๋อง ศิษย์ฉ่อย" หนึ่งในตำนานนักสนุกเกอร์ไทย

1. ต๋อง ศิษย์ฉ่อย มีชื่อจริงว่าวัฒนา ภู่โอบอ้อม (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นรัชพล) เกิดเมื่อวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2513 ร่ำเรียนฝึกฝน และติดตามดูพ่อบังเกิดเกล้าเล่นสนุกเกอร์มาตั้งแต่เล็กๆ ถึงขนาดต้องยกลังเครื่องดื่มมาให้ยืนแทงบนโต๊ะสักหลาด

2. ฉายา ต๋อง ศิษย์ฉ่อย มาจากพ่อบังเกิดเกล้า โกวิน ภู่โอบอ้อม นักสนุกเกอร์อาชีพ ฉายา ฉ่อย ซู่ซ่าส์ นั่นเอง

3. สร้างชื่อครั้งแรก หลังคว้ารางวัลรองชนะเลิศจากการแข่งขันประเภทดาวรุ่งของนิตยสารคิวทอง เมื่อพ.ศ. 2527 ขณะอายุเพียง 14 ปีเท่านั้น

4. เคยเป็นนายแบบขึ้นปกนิตยสารคิวทอง ฉบับปฐมฤกษ์ นิตยสารสนุกเกอร์ที่โด่งดังที่สุดในประเทศไทยของ ‘คิวทอง’ ศักดา รัตนสุบรรณ เมื่อปี 2528 

5. เทิร์นโปรเมื่อปี 2532 หลังคว้าแชมป์รายการสนุกเกอร์สมัครเล่นโลกที่ประเทศออสเตรเลีย ด้วยวัยเพียง 18 ปี ชื่อที่ฝรั่งเรียกว่า "เจมส์ วัฒนา" ดังระเบิดเถิดเทิงทันที ทั้งยังได้ฉายาใหม่จากคนไทยว่า 'ไทยทอร์นาโด' ส่วนในต่างประเทศเรียกว่า ‘Thai Phoon’ (อ่านออกเสียงเหมือนคำว่า Typhoon - ไต้ฝุ่น) เนื่องจากไต่อันดับขึ้นมาอย่างรวดเร็วดั่งพายุไต้ฝุ่น รวมทั้งวิธีการเล่นอันแม่นยำ ฉับไว

10เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ\"ต๋อง ศิษย์ฉ่อย\"

6. เป็นนักกีฬาสนุกเกอร์จากภูมิภาคเอเชียคนแรกที่ประสบความสำเร็จในการเล่นสายอาชีพ เคยขึ้นสูงสุดถึงอันดับ 3 ของโลกในช่วงฤดูกาลปี 1994/95 เป็นรองเพียงสตีเฟน เฮนดรี้ และสตีพ เดวิสเท่านั้น  

7. เป็นนักสนุกเกอร์คนที่ 8 ของโลกที่สามารถทำเงินรางวัลได้มากกว่า 1 ล้านปอนด์ ปัจจุบันสามารถทำรายได้ทั้งหมดจากการแข่งขันอาชีพ 1.75 ล้านปอนด์

8. ช่วงปีพ.ศ.2531-2536 ช่วงพีคสุดๆที่เรียกว่ายุคต๋องฟีเวอร์ ผู้คนต่างหันมาสนใจกีฬาสอยคิว สถานบันเทิงหลายแห่งไม่ว่าจะเป็นโรงภาพยนตร์ โรงโบว์ลิ่ง ต่างปรับสถานที่เป็นที่เล่นสนุกเกอร์กันหมด โดยเฉพาะ “เจ้าแม่ช่อง 7 สี” สุรางค์ เปรมปรีดิ์ สั่งให้มีการถ่ายทอดสดทุกครั้งที่ต๋องลงสนาม

9. สร้างความตกตะลึงด้วยการแทง Maximum Break(การทำแต้ม 147 แต้ม ในการแทงไม้เดียว)ในการแข่งขันกับ โทนี่ ดราโก้ นักสนุกเกอร์ชาวมอลต้า เมื่อปี 2533 จนกลายเป็นแมตช์ในความทรงจำมาจนถึงทุกวันนี้ ขณะเดียวกันสามารถทำ Century Break (การทำแต้มได้ตั้งแต่ 100 แต้ม ขึ้นไปในการแทงไม้เดียว) มากกว่า 140 ครั้งในชีวิตการเล่น

10. “สนุกเกอร์สร้างเรามาได้ มันก็ทำให้เราลงได้ เพราะฉะนั้นอย่าไปติดยึดอะไรมากนัก มองให้มันธรรมดา นี่แหละชีวิตมันเป็นอย่างนี้เอง ทุกอย่างมันไม่เที่ยง เมื่อก่อนเคยแทงกี่ลูกก็ลง แต่เดี๋ยวนี้ไม่ลง อ้าว ก็อายุมึงมากแล้วนี่ ก็เป็นธรรมดา จะไปออกคิวเหมือนเดิมได้ไง ถ้าทำได้ แล้วเด็กรุ่นใหม่มันจะไปรุ่งได้ไง ถ้ามึงยังอยู่ตลอดเวลาอย่างนี้ ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้าตลอดไปหรอก มันก็ต้องมีคลื่นลูกใหม่ ไล่คลื่นลูกเก่า ไม่อย่างนั้นโลกเราจะเจริญเหรอ ถูกไหมครับ” ต๋อง ศิษย์ฉ่อยเคยให้สัมภาษณ์ไว้ในนิตยสาร Aday Bullentin เมื่อปี 2009 ถึงสัจธรรมของชีวิตที่ได้จากการเป็นนักสนุกเกอร์อาชีพ

คลิปต๋องทำทำสถิติแม็กซิมัมเบรก (147 แต้ม) http://youtu.be/9PN67bY5q8A