นิศารัตน์ อภิรดี ปัญหาอุปสรรคจะทำให้คนเข้มแข็ง
แฟนๆ ละครช่อง 3 คงอาจจะคุ้นเคยกันดีกับสาวสวยตาโต หน้าหวาน ที่เคยเล่นละครของช่อง 3 และช่อง 9
โดย...อนุสรา ทองอุไร/ภาพ ภัทรชัย ปรีชาพานิช
แฟนๆ ละครช่อง 3 คงอาจจะคุ้นเคยกันดีกับสาวสวยตาโต หน้าหวาน ที่เคยเล่นละครของช่อง 3 และช่อง 9 อยู่หลายเรื่องเป็นคู่นางรอง กับณัฐ ศักดาทร เรื่องคลื่นฝันวันรัก หลบผี ผีไม่หลบ ฟางนิศารัตน์ อภิรดี (แถมยังเป็นหลานลุงของ กนก อภิรดี อดีตผู้บริหารบริษัท การบินไทย ทั้งยังมีคุณแม่ที่เป็นอดีตนางงามอีกด้วย) ก่อนหน้านี้เธอทั้งถ่ายโฆษณา ทั้งสิ่งพิมพ์ ภาพนิ่ง เป็นพิธีกร ออกงานอีเวนต์มาเกือบ 10 ปี จนกระทั่ง ณ บัดนี้อายุ 27 ปี ก็ออกจากงานเบื้องหน้ามาทำงานประจำเป็นสาวออฟฟิศ ด้วยการเป็นประชาสัมพันธ์อยู่ที่บริษัท บัตรกรุงไทย (เคทีซี)
“หนูทำงานมาตั้งแต่อายุ 15 ปี ไปเดินสยามกับคุณแม่ แล้วมีแมวมองมาติดต่อมาสูตรนั้นเลย ตั้งแต่นั้นมาก็ถ่ายโฆษณามาโดยตลอด มีงานเกือบทุกสัปดาห์ เป็นเอ็กซ์ตราให้สินค้าเครื่องสำอางมาหลายยี่ห้อ ทั้งพอนด์ นีเวีย นับรวมคร่าวๆ คิดว่าเคยถ่ายโฆษณามาไม่น้อยกว่า 50 ชิ้น จนกระทั่งเข้าสู่วัยรุ่นตอนปลายก็มาเล่นละครและภาพยนตร์ ตอนเล่นละครถ่ายโฆษณาก็เป็นเด็กไม่มีสังกัด รับเองอะไรเอง การผลักดันต่างๆ โอกาสจึงน้อย จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้วเธอก็ซาจากวงการและเริ่มมาทำงานประจำที่นี่” เธอกล่าวด้วยรอยยิ้ม
คุณพ่อคุณแม่ของเธอนั้นทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อยู่ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เคยมีฐานะรุ่งเรือง แต่มาประสบปัญหาการทำธุรกิจในช่วงฟองสบู่แตก ทำให้ประสบปัญหาการเงิน เธอเลยต้องพยายามทำงานมากขึ้น เพื่อเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัว จากชีวิตที่เป็นคุณหนูไปไหนมาไหนมีคนขับรถมารับมาส่งก็ต้องกลายเป็นคุณหนูสู้งาน หัดขึ้นรถเมล์ มอเตอร์ไซค์ไปทำงาน ไปโรงเรียนเองบ้าง เรียนไปทำงานไป ตั้งแต่เรียนอยู่สาธิตประสานมิตร จนกระทั่งเรียนปริญญาตรีด้านบริหารธุรกิจ ที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญเอแบค
เธอเล่าว่าทุกอย่างล้วนเป็นประสบการณ์ที่ดี การทำงานในแวดวงโฆษณาและบันเทิง รายได้ดี มีอิสระ แต่ความมั่นคงก็น้อย สวัสดิการต่างๆ ก็ไม่มี การแข่งขันก็สูง ก็ดีไปอย่างหนึ่ง การมาทำงานประจำก็มีข้อดีไปอีกแบบคือ มีเวลาแน่นอน มีความมั่นคง มีสวัสดิการ เพื่อนฝูงก็จะเป็นคนอีกกลุ่มที่เราสนิทชิดเชื้อไว้ใจได้มากกว่า ไม่ว่าจะงานแบบไหนเธอก็มีความสุขและสนุกในการทำงานเช่นกัน ปัญหาอุปสรรคต่างๆ ล้วนถือว่าเป็นประสบการณ์ ทำให้เข้มแข็งปัญญามาปัญญาเกิด
“ตอนนี้กำลังจะแต่งงาน มีครอบครัว การมาทำงานประจำก็ดีเหมาะกับคนที่จะสร้างครอบครัวต้องการมีเวลาที่แน่นอน เพื่อให้สามีและลูกที่จะมีในอนาคต เพราะงานในวงการก็คงไม่ได้ไกลไปกว่านี้แล้ว หนูคิดว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องเหมาะสมในการเลือกที่จะมาทำงานประจำ เรียกว่าถูกที่ถูกเวลาเป็นที่สุด” เธอกล่าวอย่างมั่นใจ
ฟาง ยังเล่าถึงแผนการในอนาคตเอาไว้ว่า อยากจะมีธุรกิจเล็กๆ เป็นของตัวเอง “อาจจะเป็นร้านอาหาร หรืออะไรที่เราชอบจริงๆ แต่คงเป็นอีกสักพักใหญ่ภายใน 5 ปีนี้ ขอสะสมประสบการณ์และเงินทุนให้พร้อมกว่านี้สักหน่อยก่อน เพื่ออยากให้มีความมั่นคง คุณพ่อคุณแม่มีความสุขในบั้นปลายชีวิต เราเลี้ยงดูท่านให้สุขกายสบายใจเพราะท่านก็ลำบากเหนื่อยหนักมาเยอะ”
เมื่อเจอปัญหาอุปสรรค ฟาง บอกว่า มันเป็นบททดสอบที่สำคัญว่าเราจะผ่านมันไปได้หรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่ต้องเจอมากบ้างน้อยบ้าง ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เมื่อผ่านมาแล้วมองย้อนกลับไปก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดี ทำให้เราเข้มแข็ง อดทน มีภูมิต้านทานในการใช้ชีวิต แล้วจะได้รู้ว่าใครที่จะยืนเคียงข้างเราอย่างแท้จริง โดยเฉพาะครอบครัวที่เป็นแบ็กอัพที่สำคัญในการช่วยสนับสนุนเป็นกำลังใจให้ฝ่าฟันร่วมกันไปให้ได้
เธอว่าตอนเด็กๆ ยังช่วยอะไรครอบครัวมากไม่ได้ สิ่งเดียวที่เธอคิดว่าจะช่วยได้มากที่สุดก็คือ พยายามเรียนให้เก่งๆ พ่อแม่จะได้สบายใจ ภูมิใจหายห่วงกับลูกๆ ไปได้เปลาะหนึ่ง เธอจึงทุ่มเทตั้งใจกับการเรียนเป็นอันมาก ให้กำลังใจตัวเองและเป็นกำลังใจให้กับคุณพ่อคุณแม่
แม้ว่าจะทำงานประจำมาได้เพียง 2 ปี แต่เธอก็ทำงานเบื้องหลังโฆษณาและบันเทิงมาเกือบ 10 ปี ก็ถือว่าทำงานเร็วกว่าเพื่อนวัยเดียวกัน ทำให้เป็นเด็กมีความรับผิดชอบมาตั้งแต่อายุน้อยๆ มีความคิดเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเพื่อนในวัยเดียวกัน บริหารจัดการเวลาได้ดีเพราะเราทำงานอิสระมานาน พอมาทำงานประจำก็มีการปรับตัวบ้างพอสมควร เพื่อให้เข้ากับองค์กรและเพื่อนร่วมงานต้องมีเหตุผลเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับคนอื่น
พ่อแบบในการทำงานของเธอนั้นเธอยกให้คุณลุงกนก อภิรดี เป็นไอดอลในดวงใจ เพราะเธอประทับใจในตัวคุณลุงมาก “ท่านขยันทำงาน มีอารมณ์ขัน และทำงานหลากหลาย ที่สำคัญเมื่อเจอกันจะมีข้อคิดดีๆ มาแนะนำหลานๆ เสมอ ท่านเคยสอนไว้ว่าเวลาที่อยากทำอะไรที่ฝันไว้ ให้พยายามหาทางลงมือทำเพื่อให้ความฝันเป็นจริงขึ้นมาให้ได้ ถ้าลงมือทำโอกาสพลาดแค่ 50 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าไม่ทำเลยจะพลาดโอกาสไปทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์เลย ดังนั้นเมื่ออยากทำอะไรจงทำ อย่ากลัวความผิดพลาด คนที่ไม่ผิดพลาดเลยก็คือคนที่ไม่เคยได้ลงมือทำอะไรเลย ท่านจะสอนเสมอว่าอะไรที่เราไม่ชอบจงอย่าทำกับคนอื่น” เธอจึงดูแบบอย่างในการทำงานและวางตัวจากคุณลุงของเธออยู่เสมอ
หลักการทำงานก็คือ ต้องเรียนรู้อะไรใหม่ๆ อยู่เสมอ จงตั้งเป้าหมายเอาไว้เสมอว่าเราอยากเป็น อยากทำอะไร เพื่อที่เราจะได้เดินไปตามเป้าหมายนั้นได้อย่างไม่หลงทาง ทำทุกอย่างเพื่อวันนี้และอนาคต มีโอกาสจงเรียนรู้อยู่เสมอ จงทำตัวให้เป็นน้ำครึ่งแก้ว อย่าทำตัวเป็นน้ำล้นแก้ว จะเติมจะเพิ่มอะไรก็ล้นทะลักไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย
การแบ่งเวลาก็สำคัญ คนเราควรทุ่มเทให้กับการทำงานอย่างเต็มที่ในขณะเดียวกันก็ต้องมีเวลาให้กับครอบครัวอันประกอบด้วยสามีและลูก นอกจากนั้นควรมีเวลาให้กับพ่อแม่และตัวเองบ้าง ในการได้ไปออกกำลังกาย ไปดูแลตัวเองเรื่องความสวยงามตามความจำเป็น
“ตอนนี้หนูพยายามจัดการบริหารเวลาให้ลงตัว เพราะกำลังจะแต่งงาน อีกทั้งการทำงานที่นี่ก็เป็นเรื่องใหม่ยังอยู่ในระยะปรับตัว แล้วงานที่นี่มีหลากหลายให้เรียนรู้สนุกไปหมด ปัญหาอุปสรรคต่างๆ ที่เข้ามายิ่งมากก็จะทำให้เรายิ่งเข้มแข็ง”
นิศารัตน์ อภิรดี อายุ 27 ปี
ประชาสัมพันธ์ บริษัท บัตรกรุงไทย
เคยถ่ายโฆษณาเกือบ 50 ชิ้น
นางเอกละครช่อง 9 เรื่องคลื่นฝันวันรัก คู่กับ ณัฐ ศักดาทร
นางรองของละครช่อง 3 เรื่อง หลบผี ผีไม่หลบ
จบปริญญาตรีด้านบริหารธุรกิจ ที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญเอแบค