พัฒนาพนักงานแบบ ‘มหาวิทยาลัย ARI’
หลายท่านอาจไม่คุ้นกับชื่อ “ARI” ARI คือบริษัทที่บริหารจัดการธุรกิจที่เรียกว่า “Automotive Fleet Management”
โดย...รศ.ดร.ศิริยุพา รุ่งเริงสุข สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย/ภาพ คลังภาพโพสต์ทูเดย์
หลายท่านอาจไม่คุ้นกับชื่อ “ARI” ARI คือบริษัทที่บริหารจัดการธุรกิจที่เรียกว่า “Automotive Fleet Management” ที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือ ธุรกิจ Automotive Fleet Management คือธุรกิจการให้บริการการบริหารจัดการขบวนหรือฝูงรถยนต์ รถบรรทุก ยานพาหนะทั้งหลายที่บริษัทต่างๆ เป็นเจ้าของและใช้ยานพาหนะต่างๆ นั้นในการขนส่งบรรทุกทั้งคนและสิ่งของ ARI มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิคและนักวิเคราะห์ต่างๆ ที่คอยดูแลสภาพยานพาหนะเหล่านั้นให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งาน คอยกำกับดูแลควบคุมพฤติกรรมการขับขี่ยานพาหนะของคนขับรถให้อยู่ในมาตรฐาน ตลอดจนช่วยประสานงานเรื่องการซ่อมแซมยานพาหนะ การออกแบบรถยนต์และรถบรรทุกให้ตรงตามแบบที่ลูกค้าต้องการ ปัจจุบันนี้ ARI มีบริษัทต่างๆ เป็นลูกค้าถึง 3,200 บริษัททั่วโลกและมียานพาหนะที่ต้องดูแลประมาณ 1 ล้านคัน
อารัมภบทเรื่อง ARI และธุรกิจ Automotive Fleet Management มาพอให้มองเห็นภาพว่า ARI เป็นบริษัทใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจที่สำคัญอย่างไร ต่อจากนี้เรามาเจาะลึกประเด็น HR ที่น่าสนใจของ ARI กันเลยดีกว่า ARI ได้รับรางวัล The Dale Carnegie Leadership Award เมื่อปี 2012 และติดอันดับ 1 ใน 100 ของบริษัทที่นิตยสารฟอร์จูน (Fortune Magazine) ยกย่องว่าเป็น “บริษัทที่น่าทำงานด้วยที่สุด” (100 Best Companies to Work For) ประจำปี 2013 และ 2014 จากรางวัลและการจัดอันดับที่ ARI ได้รับเมื่อเร็วๆ นี้น่าจะเป็นเครื่องยืนยันว่า ARI เป็นบริษัทที่ไฟแรงด้านการพัฒนาคนและดูแลคนที่เข้าตาพนักงานรุ่นใหม่แน่นอน ทั้งนี้ ARI ประกาศว่าบริษัทเชื่อในเรื่องการสร้างผลงานที่เกิดจากการดูแลพนักงานให้ดี วัตถุประสงค์ของ ARI ในการดูแลคนคือการให้อาชีพแก่พนักงานโดยส่งเสริมพวกเขาทั้งในด้านการงานและในด้านชีวิตส่วนตัว โดยจะเป็นการส่งเสริมพัฒนาอย่างต่อเนื่อง วัตถุประสงค์นี้น่าประทับใจเพราะองค์กรส่วนใหญ่สนใจพัฒนาพนักงานก็เพราะมุ่งผลประโยชน์ทางด้านการงานขององค์กรเท่านั้น ส่วนเรื่องส่วนตัวของพนักงาน เช่น การส่งเสริมให้เขาได้เติบโตพัฒนาเป็นคนเต็มคน หรือได้บรรลุฝันของเขานั้นก็ปล่อยให้แต่ละคนไปค้นฟ้าคว้าดาวกันเอง ซึ่งในความเป็นจริงแล้วยากที่จะหาพนักงานที่มุ่งทำงานเพื่อประโยชน์และเป้าหมายขององค์กรโดยไม่มุ่งสานฝันของตนเอง ARI ตระหนักในความจริงข้อนี้จึงหาหนทางผสานประโยชน์ขององค์กรและพนักงานไว้ด้วยกัน ให้ทั้งองค์กรและพนักงานบรรลุฝันไปด้วยกัน แบบนี้มันถึงเวิร์ก!
ด้วยวัตถุประสงค์เช่นนี้ ARI จึงสรรค์สร้างวิถีทางของตนเองในการพัฒนาพนักงานด้วยการก่อตั้งมหาวิทยาลัย ARI ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยองค์กร (Corporate University) เพื่อสร้างความเป็นมืออาชีพให้แก่พนักงานและปลูกฝังวัฒนธรรมกับเป้าหมายขององค์กรด้วย มหาวิทยาลัย ARI มี “โรงเรียน” ที่อำนวยการอยู่ 3 โรงด้วยกัน โรงเรียนแรกคือโรงเรียนที่สอนความเป็นมืออาชีพ (Professional Development) ให้พนักงาน โรงเรียนที่สองสอนเรื่องการบริหารธุรกิจหลักของบริษัทคือเรื่อง Fleet Management Expertise (ความเชี่ยวชาญเรื่องการบริหารขบวนยานพาหนะ) และโรงเรียนที่สามสอนเรื่องภาวะผู้นำที่เป็นเลิศ
โรงเรียนที่สอนความเป็นมืออาชีพ มีหลักสูตรที่มุ่งพัฒนาทักษะการทำธุรกิจที่เป็นแก่นหลักซึ่งก็คือ การสื่อสาร การสร้างทีม การใช้ซอฟต์แวร์ต่างๆ การนำเสนองานที่สร้างผลกระทบสูง (Highimpact presentation) การพูดในที่ประชุม (Public speaking) และทักษะในการเป็นนักขายมือฉมัง ลำดับที่สองคือโรงเรียนสอนทักษะการบริหารธุรกิจหลัก ที่นี่มีหลักสูตรมุ่งเน้นสร้างความชำนาญทางเทคนิคในการปฏิบัติงานประจำวัน สอนภาคทฤษฎีในห้องเรียนและสอนการปฏิบัติหน้างานจริง สุดท้ายที่ถือเป็นไม้เด็ดที่ทำให้ ARI ได้รางวัลเรื่องการพัฒนาภาวะผู้นำก็คือโรงเรียนที่สาม โรงเรียนนี้สอนเรื่องภาวะผู้นำที่เป็นเลิศ ARI มีวิธีการพัฒนาภาวะผู้นำที่หลากหลาย ได้แก่ การมีระบบพี่เลี้ยง (Mentoring programs) ที่ให้ผู้บริหารระดับสูงมาดูแลผู้จัดการที่เตรียมพัฒนาตนเองเพื่อรับโอกาสเลื่อนขั้นเป็นผู้บริหารระดับสูงต่อไป มีหลักสูตรฝึกอบรมนอกสถานที่ที่ทาง ARI ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่างๆ มีหลักสูตรที่สอนภายในองค์กรโดยผู้นำองค์กรของ ARI เอง บางวิชาก็กำหนดให้ผู้เข้าฝึกอบรมต้องเข้ากลุ่มวิเคราะห์ประเด็นธุรกิจที่องค์กรกำลังเผชิญหน้าอยู่ร่วมกับผู้บริหารระดับสูงที่เป็นนักแก้ปัญหาขั้นเทพขององค์กร นับเป็นการสร้างประสบการณ์จริงที่ได้ผลดี
หลักสูตรวิชาต่างๆ ที่เปิดสอนมีความสั้นยาวต่างกันไปตามความจำเป็น บางวิชาเรียนแค่ครึ่งวัน บางวิชาใช้เวลา 3 วัน บางวิชาเรียนด้วยตัวเองผ่านทางออนไลน์ ทั้งนี้สำหรับจำนวนคนในชั้นเรียนจำกัดให้มีผู้เรียนไม่เกิน 20 คนเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการเรียนการสอน วิทยากรมีหลากหลายทำให้ผู้เข้าอบรมไม่เบื่อ วิทยากรแต่ละคนมีสื่อในการสอนหลายรูปแบบ ทำให้สามารถสร้างเสริมประสบการณ์การเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูง โดยเฉพาะระบบการจัดพี่เลี้ยงเตรียมสร้างผู้บริหารรุ่นใหม่นั้นเยี่ยมยอดมาก ทั้งนี้เพราะ ARI ให้ผู้รับการฝึกอบรมได้รับการโค้ชจากพี่เลี้ยงทั้งในแผนกและนอกแผนกงานเป็นการสร้างทักษะงานรอบด้าน และที่ขาดเสียไม่ได้สำหรับยุคโซเชียลมีเดียเบิกบานนี้ ทาง ARI เปิดบล็อก (Blog) ให้พนักงานได้แบ่งปันแลกเปลี่ยนประสบการณ์วิธีทำงานให้ประสบความสำเร็จกับเพื่อนร่วมงานได้ตลอดเวลา และยังมีการจัดแสดงหัวข้อเรื่องต่างๆ ที่มีชื่อผู้เชี่ยวชาญเรื่องนั้นๆ ในองค์กร พนักงานจึงสามารถติดต่อกับผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำแนะนำต่างๆ ได้โดยตรงโดยการโพสต์คำถามในบล็อก วัฒนธรรมของ ARI ที่ส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาบุคคลอย่างเป็นระบบและตอบสนองแรงจูงใจตลอดจนวิถีการดำเนินชีวิต (Lifestyle) ของพนักงานทำให้สามารถตอบโจทย์การดึงดูด พัฒนาและรักษาพนักงานได้อย่างมีน้ำหนัก ทั้งนี้ ARI มีการสำรวจความพึงพอใจและความผูกพัน (Engagement) ที่พนักงานมีต่อองค์กรอย่างสม่ำเสมอ โดย ARI นำผลการสำรวจมาศึกษาจุดด้อยเพื่อปรับปรุงเรื่องการบริหารคนอย่างจริงจัง
ปัจจุบันนี้ ARI มีวิทยากรจำนวนกว่า 100 คนที่สอนอยู่ในมหาวิทยาลัยขององค์กร มีหลักสูตรวิชาที่สอนผ่านทางออนไลน์ถึง 400 หลักสูตรและมีห้องสมุดออนไลน์ที่มีหัวข้อเรื่องให้ศึกษาค้นคว้ากว่า 10,000 เรื่อง องค์กรของไทยอย่างเช่นกลุ่มเจริญโภคภัณฑ์ กลุ่มไมเนอร์ กลุ่มปูนซิเมนต์ไทยก็เป็นองค์กรที่พยายามสร้างสถาบันการศึกษาเพื่อพัฒนาพนักงานของตนเองอย่างแข็งขัน ยังมีองค์กรอีกหลายแห่งที่กำลังศึกษาหาลู่ทางสร้างหลักสูตรและสถาบันเพื่อพัฒนาบุคลากรเป็นของตนเองอย่างขะมักเขม้น หากจะลองศึกษาวิธีการของ ARI ดูก็น่าจะช่วยตอบโจทย์ของท่านได้นะคะ