มาร์ค แอ็บบอท ประเทศไทยคือบ้าน
มาร์ค แอ็บบอท หนุ่มอังกฤษที่ผ่านเข้ามาเที่ยวที่ประเทศไทยตอนอายุ 20 ปี โดยไม่ได้ตั้งใจ
โดย...อณุสรา ทองอุไร/วิภาคย์ พูนพันธุ์ ภาพ วิศิษฐ์ แถมเงิน
มาร์ค แอ็บบอท หนุ่มอังกฤษที่ผ่านเข้ามาเที่ยวที่ประเทศไทยตอนอายุ 20 ปี โดยไม่ได้ตั้งใจ แค่แวะต่อเครื่องก่อนกลับบ้าน แต่แล้วก็ต้องมนต์ต้องเลื่อนตั๋วไปจนตั๋วหมดอายุ และอยู่ต่อมายาวนานถึง 11 ปี จนที่นี่กลายเป็นเหมือนบ้านของเขาจริงๆ ไปแล้ว ทุกวันนี้ไปทำงานนอกเมืองไทยแค่ 3-4 วัน เขาก็จะคิดถึงประเทศไทยแล้ว
เขาเล่าว่า เกิดที่ประเทศแอฟริกาใต้ แต่ไปโตที่ประเทศอังกฤษ เด็กๆ เล่นกีฬาหลายๆ ประเภท เช่น เทควันโด (ถือสายดำ) สกี รักบี้ ฯลฯ และตอนมัธยมเข้าไปคัดเลือกทีมชาติอังกฤษเพื่อเป็นนักวิ่ง 100 เมตรด้วย
"หลังจากเรียนจบแล้วผมสมัครเป็น Royal Marine Commando แต่ได้รับบาดเจ็บตอนเป็นทหารก็เลยต้องออกมา พอรักษาจนหาย ผมฝึก MMA ต่อที่ประเทศเกาหลีใต้เป็นเวลา 6 เดือน หลังจากนั้นตัดสินใจกลับประเทศอังกฤษ เพื่อหางานทำ ขากลับเขาแวะมาที่ประเทศไทย 8 วัน ก็หลงรักประเทศไทย ที่นี่อากาศดี อาหารอร่อย คนน่ารัก เลยตัดสินใจเรียนที่มหาวิทยาลัยสยาม ภาคอินเตอร์ คณะบริหารธุรกิจ จนจบปริญญาตรีที่นี่เลย
ตอนแรกผมอยู่ประเทศไทยแค่ 6 เดือน ก็ตัดสินใจแล้วว่าจะอยู่ที่นี่ต่อไป แต่ก็เคยคิดนะว่าถ้ากลับไปเรียนที่ประเทศอังกฤษ 3 ปีจบ ค่าเรียนก็ถูกกว่านี้ แต่ผมไม่กลับเพราะจริงๆ อยู่ที่นี่เพราะคนไทย ผมชอบคนไทย ผมว่าไปที่ไหน อะไรก็มีเหมือนๆ กัน ฝรั่งเศส เวียดนามก็อาหารอร่อย ลาวก็ร่มรื่น แต่ที่นี่มีคนไทย ผมชอบคนไทย ชอบวัฒนธรรมไทย ชอบความเอื้ออารี การเปิดใจกว้างยอมรับ ยิ้มง่ายใส่ใจคนอื่น นี่คือเสน่ห์ที่ผมชอบ ผมปรับตัวได้ ทำอาหารไทยได้หลายอย่าง กินเผ็ดได้ และที่นี่ปลอดภัยนะครับ ผมเคยไปอยู่บางประเทศ ถ้ามืดแล้วอย่าออกจากบ้าน อันตรายมาก”
ในสายตาของชาวต่างชาติ นิสัยของคนไทยอาจจะไม่ค่อยตรงเวลา ขาดระเบียบวินัย ทำอะไรเรื่อยๆ หยวนๆ แต่สำหรับมาร์คมีมุมมองที่แตกต่าง เขาว่าเหรียญมี 2 ด้าน แล้วแต่เราจะเลือกมอง ในความคิดของเขาประเทศไทยน่าอยู่มาก "อังกฤษอากาศอึมครึ้มเช้าฝนตก เย็นหิมะตก หาแดดแทบไม่เจอ รู้สึกไม่สดชื่น ไม่แอ็กทีฟ คนไทยมีวินัยนะ บางทีไม่ตรงเวลาบ้าง ก็เป็นเพราะสภาพการจราจรต่างๆ ก็ไม่เป็นไร เข้าใจครับ"
ถ้าทำธุรกิจในประเทศไทยค่อนข้างจะดี เพราะประเทศไทยกำลังเติบโต และพอที่จะมีที่ให้ลงทุนทำ เขาอยากทำธุรกิจฟิตเนสที่ประเทศไทย เพราะเขาหลงใหลการออกกำลังกายมาก และได้ร่วมงานกับนิตยสาร, website และรายการทีวีเกี่ยวกับสุขภาพมากมาย เขายังเป็นพิธีกรให้กับรายการเพาะกายที่โด่งดังในประเทศไทย สนับสนุนโดย Fitwhey และด้วยแรงสนับสนุนของ Fitwhey นี่เอง ที่ทำให้เขามีโอกาสได้เทรนกับนักกล้ามชื่อดังอย่าง Ronnie Coleman
นอกจากนั้น เขายังเป็นพิธีกรงานวิ่ง, workshop และงานสัมมนาต่างๆ ทั้งที่จัดโดยภาครัฐและเอกชน และเริ่มทำเพจของตัวเองชื่อ Thai Top Fitness ในปี 2012 ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการออกกำลังกาย รวมไปถึงข้อมูลด้านโภชนาการ โดยจุดประสงค์หลักของเขา คือ การสร้างแรงบันดาลใจและเป้าหมายในการออกกำลังกายให้กับคนทั่วไป นอกจากนั้นเขายังทำงานเป็นผู้ช่วยประธานบริษัทที่บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น ทำโครงการพิเศษ และเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ให้กับเครื่องกีฬารีบอกซ์
งานอดิเรกของเขา คือ โดดร่ม ขี่มอเตอรไซค์ และกีฬาเอ็กซ์ตรีมต่างๆ เขาบอกว่าถ้าต้องการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ก็ต้องเริ่มจากการสร้างร่างกายที่แข็งแรง และเชื่อว่าทุกคนประสบความสำเร็จได้ เพียงแต่ว่าต้องตั้งใจและรู้จักการจัดการเวลา
ถ้าให้เขาแนะนำ ก็อยากจะแนะนำให้คนไทยอย่าดูถูกกันเอง อย่าด่ากันเอง เพราะชาวต่างชาติไม่เคยดูถูกคนไทย "และอยากให้ประเทศไทยพัฒนาระบบการจราจรต่างๆ เช่น รถมอเตอร์ไซค์ไม่ต้องชิดซ้าย และขับขึ้นสะพานได้แล้ว ในฐานะคนขี่มอเตอร์ไซค์ และคนใช้รถใช้ถนนคนหนึ่ง (หัวเราะ)"