ถอดรหัส ฮวงจุ้ยรับเออีซียุค 9...ทิศใต้ทำเลทอง
ใกล้เข้ามาทุกทีกับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ที่ปลายเดือน ธ.ค.นี้ 10 ประเทศต้องเดินหน้า
โดย...ยินดี ฤตวิรุฬห์ ภาพ... กฤษณ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร
ใกล้เข้ามาทุกทีกับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ที่ปลายเดือน ธ.ค.นี้ 10 ประเทศต้องเดินหน้าร่วมมือตามข้อตกลงที่ให้ไว้แก่กัน
ประเทศไหน ทำเลไหน ตามศาสตร์แห่งฮวงจุ้ยจะเป็นพื้นที่ที่ดีในการที่จะรุกเข้าไปในการทำธุรกิจและมีโอกาสประสบความสำเร็จ
อาจารย์เกรียงไกร บุญธกานนท์ ประธานชมรมภูมิโหราศาสตร์ ปรมาจารย์ศาสตร์ด้านฮวงจุ้ยชื่อดังระดับประเทศของไทย เป็นผู้ก่อตั้งและดำรงตำแหน่งประธานชมรมภูมิโหราศาสตร์ และได้เข้าสู่ศาสตร์แห่งฮวงจุ้ยด้วยวัยเพียง 20 ปี หรือกว่า 62 ปี ที่อาจารย์เกรียงไกรได้ศึกษาศาสตร์นี้มา
อาจารย์ทำนายว่า เมื่อทุกประเทศเข้าสู่เออีซีเบื้องหน้าเมื่อเจอกันก็จะเป็นไปในลักษณะยิ้มแย้มแจ่มใส เสมือนว่าจะตกลงกันได้ดี แต่เมื่อหันหลังให้กันก็จะเกิดความกังวลใจ เกิดความกลัว เกิดความไม่ยอมรับกัน หรือพูดตรงๆ ก็คือในปีแรก หรือปี 2559 การเปิดเออีซีจะมีแต่ความผิดหวัง และเมื่อย่างเข้าปีที่ 2 หรือปี 2560 ทุกอย่างก็จะดีขึ้น
ในปี 2559 ถือว่าเป็นปีที่จะสิ้นสุดยุค 8 ซึ่งเป็นธาตุดิน และกำลังจะเข้าสู่ยุคที่ 9 คือ ธาตุไฟ โดยธาตุนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับนักวิชาการ มารยาท บทบาท พลังงานทดแทน การพัฒนาวิทยาศาสตร์ต่างๆ หุ่นยนต์จะเข้ามาแทนที่มนุษย์ และตามศาสตร์ของฮวงจุ้ยแล้วยุคที่ 9 นั้น ทิศที่จะเด่นคือที่ทิศใต้ของเมือง ทิศใต้ของประเทศ หรือทิศใต้ของศูนย์กลาง คือทำเลที่เด่น หากจะเข้าไปทำธุรกิจก็ให้เล็งในทำเลที่เป็นทิศใต้
ยกตัวอย่างเช่น กรุงเทพฯ ศูนย์กลางทิศใต้ของกรุงเทพฯ ก็คือทางเส้นพระราม 2 ประเทศไทย คือ ศูนย์กลางจังหวัดทางใต้คือทำเลที่ดี และเช่นกันหากมองจังหวัดทางภาคเหนือ หากดูที่ จ.เชียงราย ทำเลทางทิศใต้ของเชียงรายคือทำเลที่ดี
“การกล่าวถึงยุคนั้นตามตำราจีนหรือตามหลักของ ‘กั้ว’ นั้นเราผ่านมาแล้วเข้ายุค 8 หรือ 180 ปีและกำลังเข้าสู่ยุคที่ 9 หรือในเฉลี่ยแต่ละยุคจะกินเวลาประมาณ 18-24 ปี ซึ่งก็แล้วแต่ว่ารอบไหนจะกินเวลาเท่าไร และการบอกว่าจะสิ้นสุดยุค 8 ซึ่งยุค 8 ที่กำลังจะสิ้นสุดปี 2559 เมื่อเข้าสู่ยุค 9 ทำเลที่ดีจะอยู่ทางทิศใต้”
อาจารย์เกรียงไกร กล่าวว่า ยุค 9 เป็นยุคแห่งนวัตกรรม ธุรกิจที่จะรุ่งเรืองจะเป็นเรื่องของนวัตกรรม ซึ่งหากมองให้ละเอียดและจำแนกลงไปในแต่ละประเทศตามหลักของ “กั้ว” ประเทศไทยนั้นในยุค 9 มีอะไร เมืองไทยมีอย่างนั้น มีความพร้อมด้านชัยภูมิ แต่มีไม่ถึงที่สุด ก้าวหน้าไปไกลแต่ไม่ถึงสูงสุดของโลก แต่ประเทศที่จะเด่นและเด่นจนประเทศอื่นตามไม่ทันคือ สิงคโปร์
เมียนมาแม้ช่วงแรกจะวุ่นวาย แต่เมื่อเข้าสู่ยุค 9 ไปได้ในระยะหนึ่งแล้ว เมียนมาจะไต่ขึ้นมาใกล้ในระดับการเป็นผู้นำในเออีซี แต่ยังคงตามหลังประเทศไทย เวียดนามจะมีความขัดแย้งทางการเมืองและเศรษฐกิจจะชะงักงันในระดับหนึ่ง แต่จะสามารถกลับมาได้ ส่วนกัมพูชา ในปี 2559 จะถูกโดดเดี่ยว บูรไนจะมีการเปลี่ยนแปลง แต่ฐานะการเงินจะดีขึ้น ขณะที่ สปป.ลาว จะเหมือนเวียดนามที่ตกในดาวขุนโจร ส่วนมาเลเซียจะมีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาก และจะเป็นผู้นำในเรื่องของนวัตกรรมใหม่ๆ ส่วนอินโดนีเชียซึ่งหวังไว้มากกับการเปิดเออีซี แต่สุดท้ายจะผิดหวัง
ทำเลหรือประเทศไม่ได้เป็นประเด็นหรือปัจจัยหลักของความสำเร็จ เพราะการเข้าไปทำธุรกิจจะสำเร็จได้หรือไม่นั้น จะต้องมีธุรกิจและแผนธุรกิจ รวมถึงจังหวะเวลา โอกาส และสำคัญที่สุดคือในเรื่องของเงินทุน เรื่องของคน วิธีการ และสินค้าที่จะทำด้วย เพราะถ้าหากผู้คิดทำธุรกิจมีองค์ประกอบที่กล่าวมาเหมาะสมก็จะประสบความสำเร็จได้
“การออกไปสู่สนามการค้าก็เปรียบเหมือนการเข้าสู่สนามรบ ที่ผู้นำจะต้องมี 3 รู้ เป็นองค์ประกอบหลัก คือ รู้ประชา ในทางการค้า คือต้องรู้ว่ากลุ่มลูกค้าเป็นใคร รู้กำลังทหาร ทางการค้าคือจะต้องรู้ว่ากำลังการผลิตเป็นอย่างไร และ รู้การคลัง คือจะต้องรู้ฐานะทางการเงินของตัวเองว่าจะเป็นอย่างไร เพียงพอแค่ไหนในการที่จะออกไปซึ่งเมื่อเรารู้และเข้าใจตัวเองดีแล้ว ก็มีความพร้อมที่จะออกไป”
ในยุค 9 ธุรกิจที่มีทุนน้อยจะลำบาก ส่วนทุนหนาก็สามารถไปได้ แต่แม้ว่าบางธุรกิจจะมีทุนน้อยแต่ถ้ารู้เหตุของเป้าก็จะทำให้สำเร็จได้ ซึ่งคำว่ารู้เหตุของเป้าคือ การจะทำอะไรหากต้องการให้สำเร็จก็จะต้องหาจุดขายที่โดดเด่น หาจุดดึงดูดที่แน่ชัด เช่น สมมติขายก๋วยเตี๋ยวเหมือนคนอื่น แต่จะทำอย่างไรให้ก๋วยเตี๋ยวมีความโดดเด่นและชนะใจคนกิน
และถ้าเราคิดได้มันก็คือเหตุของเป้านั้นเอง
สำหรับธุรกิจและอาชีพเด่นในยุค 9 ประกอบด้วยนักวิชาการ พลังงาน โดยเฉพาะพลังงานแปรรูป นวัตกรรมเรื่องแปรรูปและเรื่องของหุ่นยนต์จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ซึ่งหากจะเกาะกระแสธุรกิจที่จะเด่นก็สามารถนำมาเป็นแนวทางได้
แต่การทำธุรกิจจะสำเร็จนั้นจะต้องรู้เหตุของเป้าและคนจะประสบความสำเร็จได้จะต้องเป็นในลักษณะวีรบุรุษสร้างสถานการณ์ ไม่ใช่สถานการณ์สร้างวีรบุรุษเหมือนอดีตแล้ว ดังนั้นใครอยากสำเร็จต้องคิดและต้องทำในสิ่งที่เราเป็นผู้สร้างและคิดให้ก้าวไปข้างหน้า
สำหรับยุคที่ 8 ซึ่งจะสิ้นสุดปี 2559 นั้น เป็นธาตุดิน ราคาที่ดินจะพุ่งสูง สถานการณ์สร้างวีรบุรุษวีรบุรุษเหนือวีรบุรุษ ออกศึกต้องมี 3 รู้ที่ลงตัวคือรู้แรก ประชา ทหาร และการคลัง รู้ที่สอง รู้เขา รู้เรารู้ไม่คาคคิด และรู้ที่สาม กาลเวลา ภูมิประเทศ และเป้าหมาย
เมื่อเข้าสู่ยุคที่ 9 สนามการค้าเหมือนสนามรบ ใครมาก็เป็นวีรบุรุษ แต่จะสำเร็จหรือไม่ วีรบุรุษเหนือวีรบุรุษ
อาจารย์กล่าวว่า ยุคที่ 8 และยุคที่ 9 นั้น การดำเนินชีวิตหรือทำธุรกิจจะคิดเหมือนกันไม่ได้ เพราะยุคสมัยที่ต่างกัน ศาสตร์ของฮวงจุ้ยนั้นมีวิวัฒนาการตลอดเวลา หลักฮวงจุ้ยจึงจะใช้กับชีวิตปัจจุบันได้ฮวงจุ้ยต้องปรับให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนยุคปัจจุบันและร่วมสมัยเสมอ ยุค 9 จึงต้องคิดมากขึ้น ทำมากขึ้น จะดีมากขึ้น ต้องพัฒนาให้สอดคล้อง
“คนในยุคอดีตทำงานเก็บเงิน แต่ยุคปัจจุบันกลับทำงานและใช้เงิน ดังนั้นศาสตร์แห่งฮวงจุ้ยต้องปรับเปลี่ยนให้ทันโลก ดังคำกล่าวที่ว่า 3 ปีเรียนจบ 10 ปีเรียนครบ ตลอดชีวิตเรียนไม่หมด”
ฮวงจุ้ยเป็นการค้นคว้าโดยนักปราชญ์ชาวจีน โดยใช้กั้วแบ่งยุคต่างๆ หลักแห่งฮวงจุ้ย คือ หลักความจริง 3 อย่าง คือ โอกาส ทำเล และผู้บริโภค ที่มองเห็น รู้ได้ และใช้สามัญสำนึกคาดเดาได้ และการค้าจะสำเร็จต้องประกอบด้วยความเหมาะสมทั้งกาลเวลา ทำเล และความพร้อม
ศาสตร์แห่งฮวงจุ้ยไม่ใช่เรื่องที่งมงายแต่เพียงเพื่อรู้ หากอยู่ในทำเลดี แต่ธุรกิจไม่ดี เวลาไม่เหมาะสมโอกาสไม่ใช่ ความสำเร็จก็ไม่เดินทางมาหา