เทรนด์ท่องเที่ยว 2559 เมืองเล็ก มาแรง
สถิติการท่องเที่ยวปี 2558 มีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังประเทศไทยจำนวน 29.5-29.6 ล้านคน
โดย...กาญจนา อายุวัฒน์ธนชัย
สถิติการท่องเที่ยวปี 2558 มีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังประเทศไทยจำนวน 29.5-29.6 ล้านคน สร้างรายได้ 2.21 ล้านล้านบาท โตขึ้นกว่าปี 2557 เกือบร้อยละ 18 และคาดว่าปี 2559 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะสร้างรายได้ถึง 2.3 ล้านล้านบาท และจะไต่ไปถึง 2.5 ล้านล้านบาทในปี 2560
กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า เป็นผลงานที่น่าพอใจหลังประเทศเจอวิกฤตการระบาดของโรคเมอร์ส เหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ และคดีฆาตกรรมบนเกาะเต่า
ในปี 2559 ทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะเดินหน้าต่อด้วยการสร้างสินค้าท่องเที่ยวใหม่ ด้านการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชูเมืองรองเอาใจคนรุ่นใหม่ที่ค้นหาความแตกต่าง และสกายสแกนเนอร์ชี้ พัทยา เลย ร้อยเอ็ด มีแนวโน้มมาแรงที่สุดในปีวอก
แนวโน้มเที่ยวไทย
กอบกาญจน์ เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวปี 2559 เน้น 3 รูปแบบคือ การท่องเที่ยวเพื่อผู้หญิงวัยทำงาน ซึ่งเริ่มดำเนินงานไปแล้ว รวมทั้ง กีฬาเพื่อการท่องเที่ยว ที่ผ่านมาไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาระดับสากลทั้ง กอล์ฟ เรือใบ ฟุตบอล และวิ่งมาราธอน โดยกีฬาจะนำผู้เข้าร่วมการแข่งขันเดินทางไปเที่ยวต่อ สุดท้ายคือ การท่องเที่ยวระดับบน เน้นนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูงซึ่งยอมจ่ายเงินเพื่อประสบการณ์ไม่เหมือนใคร
โดยในปีนี้ยังยึดจุดขาย “ท่องเที่ยววิถีไทย” ต่อเนื่องจากปีที่แล้ว “เพราะอัตลักษณ์ของไทยทำให้เราแตกต่างจากคนอื่น” กอบกาญจน์ กล่าว
สำหรับตลาดในประเทศ ททท.ออกแคมเปญกระตุ้นให้คนเที่ยวผ่านโครงการ “เมืองต้องห้าม...พลาด PLUS” ต่อเนื่องจากโครงการ “เมืองต้องห้าม...พลาด” เมื่อปีก่อน โดยเพิ่ม 12 เมืองรองเชื่อมโยง
กับ 12 เมืองที่ถูกโปรโมทไปแล้ว เช่น ลำปางเชื่อมโยงลำพูน ตรังเชื่อมโยงสตูล ฯลฯ เพื่อเป็นทางเลือกให้กลุ่มเจนวายได้รู้จักแหล่งท่องเที่ยวใหม่
ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “ปี 2559 ททท.จะผลักดันให้นักท่องเที่ยวเดินทางถี่ขึ้น ซึ่งนอกจากจะได้รับความสุขแล้ว ยังจะช่วยเศรษฐกิจของประเทศ กลุ่มที่ททท.อยากให้เดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย ได้แก่ กลุ่มครอบครัว ผู้สูงอายุ วัยรุ่น คนโสด และคู่รักที่เพิ่งแต่งงาน”
ขณะนี้ประเทศไทยติดอันดับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของโลก จากองค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO) โดยเป้าหมายของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะทำให้ประเทศไทยติด
1 ใน 5 ของโลกในอีก 20 ปีข้างหน้า
พัทยา เลย ร้อยเอ็ด มาแรง
จากการค้นหาข้อมูลผ่าน สกายสแกนเนอร์ ผู้ให้บริการค้นหาตั๋วเครื่องบิน โรงแรม ที่พัก และรถเช่าออนไลน์ผ่านแอพพลิเคชั่น วิเคราะห์ข้อมูลตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ย. 2558 พบว่า 3 จุดหมายปลายทางในประเทศไทย ได้แก่ พัทยา เลย และร้อยเอ็ด ติดอันดับ 10 จุดหมายปลายทางที่จะได้รับความนิยม ขณะที่จุดหมายปลายทางทั่วโลกตลอด 3 ปีที่ผ่านมา พบว่ามี 10 แห่งที่มีอัตราการค้นหาเพิ่มขึ้นและคาดว่าจะมาแรงในปีนี้ ได้แก่ หนานชาง (จีน) โคโลญจ (เยอรมนี) มอสโก(รัสเซีย) พัทยา (ไทย) อีร์คุตสค์ (รัสเซีย) เลย (ไทย) เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (รัสเซีย) ครัสโนยาสค์ (รัสเซีย) เลห์ (อินเดีย) และร้อยเอ็ด (ไทย)
ภพปภา อารีรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด สกายสแกนเนอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า “จากข้อมูลแสดงให้เห็นว่าเมืองเล็กๆ ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น นักท่องเที่ยวไทยสนใจเดินทางไปสถานที่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งด้านวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ รวมถึงต้องการหนีจากเมืองใหญ่และความวุ่นวายในชีวิตประจำวัน”
ด้าน สมฤดี ชาญชัย ผู้อำนวยการภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ททท. กล่าวถึงความน่าสนใจของจ.เลย และร้อยเอ็ด ว่า เลยน่าจะเป็นผลมาจากการเป็น 1 ใน 12 จังหวัดเมืองต้องห้าม...พลาดเมื่อปีที่แล้ว กับสโลแกน เย็นสุด สุขที่เลย ทำให้มีนักท่องเที่ยวค้นหาข้อมูลและเดินทางมาเที่ยวมากขึ้น
“จ.เลย เริ่มเป็นที่รู้จักจากกระแสเชียงคานและภูกระดึงแต่ยังจำกัดอยู่ในกลุ่มเจนวาย และคนส่วนใหญ่ยังรู้สึกว่าไกล แต่ทุกวันนี้มีสายการบินโลวคอสต์เปิดให้บริการ ประกอบกับทาง ททท.เปิดแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ทั้งภูเรือ ภูป่าเปาะ ล่องแม่น้ำโขง และเที่ยวเชื่อมโยงเออีซี ทำให้เลยกลายเป็นจังหวัดที่ไม่เลยผ่านอีกต่อไป”
ส่วน จ.ร้อยเอ็ด สมฤดี กล่าวว่า จังหวัดนี้เติบโตเร็วหลังมีสายการบินบินตรง ทำให้มีการเชื่อมต่อกับจังหวัดใกล้เคียงมากขึ้น ทั้งยังเป็นเมืองศิลปวัฒนธรรมโดยเฉพาะด้านพุทธศาสนาที่สำคัญ
นอกจากนี้ สกายสแกนเนอร์ยังได้สรุปผลการเดินทางที่สำคัญประจำปี 2558 มีหลายประเด็นที่น่าสนใจ อย่างนักท่องเที่ยวชาวไทยนิยมใช้บริการสายการบินที่ให้บริการเต็มรูปแบบมากกว่าสายการบินราคาประหยัด และโตเกียวกับฮ่องกงยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่คนไทยค้นหามากที่สุดในปี 2558 เชื่อว่า ทั้งสองเมืองจะได้รับความนิยมตลอดกาล เนื่องจากใช้เวลาเดินทางไม่นาน มีสถานที่ท่องเที่ยวทั้งทางธรรมชาติและวัฒนธรรม อากาศเย็น และไม่ต้องใช้วีซ่าในการเดินทางเข้าประเทศ
ฮิตเที่ยวผ่านสมาร์ทโฟน
นักท่องเที่ยวยุคมิลเลนเนียลส์มักหาข้อมูลท่องเที่ยว วางแผนการเดินทาง จอง ชำระค่าสินค้ารวมถึงแบ่งปันประสบการณ์ผ่านสมาร์ทโฟน อับฮิราม ชาวด์ดรี รองประธานบริษัท Hotels.com ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (APAC) คาดว่าปี 2559 นี้ จะมีการจองห้องพักผ่านดีไวซ์มากขึ้น เพราะนักท่องเที่ยวต้องการความคล่องตัว ปัจจุบันอุปกรณ์สื่อสารในมือสามารถตอบโจทย์การเดินทางได้ดี
คาดว่า ในปีนี้นักท่องเที่ยวกลุ่มมิลเลนเนียลส์ชาวเอเชียจะใช้จ่ายเกี่ยวกับการเดินทางมากขึ้น 1.6 เท่า หรือสูงถึง 3.4 แสนล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2563
ในปี 2557 สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของค่าเงิน แต่ล่าสุดรายงานจาก UNWTO เผยว่า จำนวนชาวจีนที่เดินทางออกนอกประเทศโตขึ้น ทำให้ญี่ปุ่น ไทย สหรัฐอเมริกา และหลายประเทศในทวีปยุโรปได้รับผลประโยชน์ นอกจากนี้อินเดียก็เป็นอีกตลาดหนึ่งที่กำลังเติบโต
อับฮิราม กล่าวอีกว่า แหล่งท่องเที่ยวที่มาแรงในปีนี้คือ รีโอเดจาเนโร บราซิล “เนื่องจากเป็นสถานที่จัดงานโอลิมปิก 2016 ในเดือน ส.ค.ที่จะถึงนี้ โดยมีแนวโน้มที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบกีฬาและคนทั่วโลกได้เป็นจำนวนมาก”
ในทวีปเอเชีย เขาคาดว่า กัวลาลัมเปอร์ ฮ่องกง กรุงเทพฯ และญี่ปุ่น จะได้รับความนิยมมากขึ้น เหตุหนึ่งเพราะห้องพักมีราคาลดลง ดัชนี HPI ยังแสดงให้เห็นว่าฮ่องกง และประเทศไทย (โดยเฉพาะกรุงเทพฯ) ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ส่วนประเทศญี่ปุ่นจะได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากค่าเงินเยนต่ำลง และองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น ยังเผยด้วยว่า ประเทศญี่ปุ่นต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทยสูงถึง 7 ล้านคนนับตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ย. 2558
ส่วนจุดหมายปลายทางที่คนไทยเดินทางไปมากที่สุดจากการจองห้องพักผ่าน Hotels.com ได้แก่ ญี่ปุ่น สหรัฐ ฮ่องกง สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ ข้อมูลยังระบุว่านักท่องเที่ยวค้นหาที่พักระดับ 1.5 ดาวเพิ่มขึ้นร้อยละ 70 ซึ่งมีนัยสำคัญเกี่ยวกับลักษณะที่พักที่จะได้รับความนิยมในอนาคต