แบทแมน เพียงชายคนนี้ ไม่ใช่ผู้วิเศษ

โดย...ปณิฏา

เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 1989 ทิม เบอร์ตัน เป็นผู้ปลุกชีวิตของแบทแมน (Batman) ซูเปอร์ฮีโร่ชื่อดังแห่งดีซี คอมิกส์ ให้มาโลดแล่นบนแผ่นฟิล์มเป็นครั้งแรก หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีเพียงเวอร์ชั่นซีรี่ส์ทางทีวีเท่านั้น ที่อาศัยคนมาแสดงเป็นแบทแมน

สำหรับหนัง Batman (1989) ทิม เบอร์ตัน เลือกให้ ไมเคิล คีตัน เป็นผู้รับบทเจ้าชายแห่งความมืด แบทแมน โดยวายร้ายของเรื่องในตอนนี้เป็นทีของแจ๊ก เนเปียร์ หรือโจ๊กเกอร์ เวอร์ชั่น แจ็ค นิโคลสัน ขณะที่สาวสวยในเรื่องที่เข้ามาพัวพันและมีส่วนเกี่ยวข้องกับแบทแมนและชายหลังหน้ากาก อย่างมหาเศรษฐี บรูซ เวย์น คือนักข่าวสาว วิคกี้ เวล ที่รับบทโดยคิม บาซิงเกอร์

เรื่องราวเริ่มต้นที่นายกเทศมนตรีเมืองกอตแทม สั่งให้นายอำเภอและผู้บัญชาการตำรวจ ช่วยกับปราบปรามอาชญากรรมในเมือง เพื่อเตรียมพร้อมต่อการฉลองครบรอบ 200 ปี ขณะที่อเล็กซานเดอร์ น็อกซ์ และวิคกี้ เวล 2 ผู้นักข่าวกำลังสนใจในแบทแมน ผู้ทำตัวเป็นศาลเตี้ยคอยขจัดเหล่าร้ายก่อนทางการจะสาวไปถึงตัวเสียอีก

ในปฐมบทของภาพยนตร์แบทแมน เราได้รู้ถึงต้นกำเนิดของของโจ๊กเกอร์ ซึ่งคือ แจ๊ก เนเปียร์ ที่รอดตายจากอุบัติเหตุสารเคมีรั่วไหลได้ราวปาฏิหาริย์ ทว่ารูปลักษณ์ของเขาไม่เหมือนเดิมคือสีผิวซีดขาว ผมกลายเป็นสีเขียว ขณะที่ใบหน้าประทับรอยยิ้มกว้างสีแดงเอาไว้แบบถาวร

 

มนุษย์ค้างคาว หรือแบทแมน (Batman) ติดอันดับ 1 ในโผล่าสุดของซูเปอร์ฮีโร่ยอดนิยม ได้รับการสร้างสรรค์คาแรกเตอร์โดย บ๊อบ เคน และสร้างสรรค์เรื่องราวโดย บิล ฟิงเกอร์ ปรากฏตัวครั้งแรกในหนังสือการ์ตูนชุด Detective Comics ฉบับที่ 27 ซึ่งออกตีพิมพ์ในเดือน พ.ค. 1939

แรกเริ่มเดิมที บ๊อบ ตั้งชื่อคาแรกเตอร์นี้ว่าแบท-แมน (Bat-Man) ก่อนจะเขียนให้ง่ายขึ้นด้วยการนำไฮเฟ่นออก นอกจากนี้มนุษย์ค้างคาวยังได้รับสมญามือปราบใต้ผ้าคลุม (The Caped Crusader) อัศวินแห่งความมืด (The Dark Knight) และยอดนักสืบของโลก (The World’s Greatest Detective) อีกด้วย

หลังพ่อแม่ของเขาถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตา บรูซก็ประกาศกร้าวว่าจะต้องแก้แค้นให้ได้ ทั้งสาบานจะเป็นปฏิปักษ์กับอาชญากรรมทุกรูปแบบ จากวันนั้นเขาจึงฝึกฝนตัวเองทั้งร่างกาย จิตใจ และศาสตร์ความรู้ต่างๆ พร้อมทั้งออกแบบชุดธีมค้างคาวเอาไว้ เพื่อต่อกรกับอาชญากรโดยเฉพาะ


แบทแมนรุ่นออริจินัลในการ์ตูนภาพ เขาปฏิบัติการในเมืองกอตแทมโดยมีผู้ช่วยอย่าง โรบิน และพ่อบ้านของเขาเอง อัลเฟรด เพนนีเวิร์ธ รวมทั้ง นายตำรวจ จิม กอร์ดอน แถมบางครั้งยังมี แบทเกิร์ล เข้ามาช่วยด้วย วายร้ายนอกจาก โจ๊กเกอร์ แล้วยังมีมนุษย์เพนกวิน จอมโจรสองหน้ารัสอัลกูล พอยซั่นไอวี และแคตวูแมน ฯลฯ


คาแรกเตอร์แบทแมนได้รับความนิยมแทบจะทันทีที่ออกตีพิมพ์ จนในไม่ช้าก็ดังแล้วแยกวงมาเป็นหนังสือการ์ตูนที่พะหัว Batman เองในปี 1940 ความนิยมในตัวมนุษย์ค้างคาวยังคงมีมาอย่างต่อเนื่องกระทั่งปลายทศวรรษที่ 1960 กับซีรี่ส์ Batman ทางโทรทัศน์ จนกระทั่งถึงหนังเรื่อง Batman ที่มีผู้กำกับหลายท่านสนใจในการนำเอามาตีความในหนังของพวกเขา

 

นอกเหนือจาก ทิม เบอร์ตัน ผู้เบิกโรงคนแรกกับ Batman (1989) และ Batman Returns (1992) แล้ว ยังมีโจเอล ชูมักเคอร์ ที่สร้างสรรค์ออกมา 2 เรื่องเช่นกัน คือ Batman Forever (1995) ที่ให้วาล คิลเมอร์ รับบทเจ้าชายแห่งความมืด และยังกำกับ Batman & Robin (1997) ที่เปลี่ยนมาใช้งานจอร์จ คลูนีย์ แทน โดยโจเอลต้องยกเลิกแผน Batman Unchained ของเขา เนื่องจากแบทแมนเรื่องที่ 2 ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร

อีก 2 โปรเจกต์ที่ไม่เป็นความจริง ได้แก่ Batman : Year One ของดาร์เรน แอโรนอฟสกี กับ Batman vs. Superman โดยวูล์ฟกัง เพเทอร์เซน แฟนมนุษย์ค้างคาวำได้ฟินอีกครั้งในปี 2005 กับไตรภาคแบทแมนโดย คริสโตเฟอร์ โนแลน ที่ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูงด้านรายได้ ตั้งแต่ Batman Begins ที่ให้คริสเตียน เบล มารับบทบุรุษใต้หน้ากาก ตามต่อด้วย The Dark Knight (2008) และ The Dark Knight Rises (2012) ขณะที่เจ้าของบทบาทแบทแมนรายล่าสุดคือ เบน เอฟเฟล็ก ใน Batman v Superman : Dawn of Justice (2016) ที่เพิ่งเข้าฉายไปไม่นานกำกับโดย แซค สไนเดอร์

ในเวอร์ชั่นภาพยนตร์ได้พยายามมอบอีกมิติด้านอารมณ์ความรู้สึก เน้นจิตใจ ความเป็นมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดา (ที่ไม่ธรรมดา) ของแบทแมน ขณะที่หนังสือการ์ตูนหรือในซีรี่ส์ทางโทรทัศน์ อาจจะเน้นการวางแผนต่อกร แอ็กชั่นการต่อสู้กับวายร้ายรายต่างๆ มากกว่า

นั่นคือเสน่ห์ของมนุษย์ค้างคาวอยู่ตรงความแตกต่างจากซูเปอร์ฮีโร่รายอื่นๆ อย่าง ซูเปอร์แมน สไปเดอร์แมน ตรงที่เขาไม่ได้มีพลังวิเศษใดๆ เป็นเพียงคนธรรมดาที่ได้รับการฝึกฝนด้านศิลปะการต่อสู้ และฝึกมาให้ชาญฉลาด อาศัยความสามารถในการสืบสวนล้วงลึกเรื่องราวขั้นเทพ รวมทั้ง นำเงินมหาศาลที่ได้จากมรดกของพ่อแม่มาพัฒนาเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่จะช่วยทุ่นแรงในการปราบปรามเหล่าร้าย

เจ้าชายแห่งความมืด แสดงให้เห็นว่าสมองและจิตใจของมนุษย์นี่แหละคือพลังวิเศษสุดที่จะช่วยโลก แบทแมนกำลังบอกเราว่า ทุกคนที่มีโอกาสก็สามารถทำความดี แล้วทุ่มเทพลังกาย พลังสมองของพวกเขา เพื่อที่จะทำให้สังคมที่ฟอนเฟะ เริ่มมองเห็นอนาคตที่สดใสขึ้นได้

เมื่อแบทแมน หรือบรูซ เวย์น ที่มีความตั้งใจจริงทำได้... ใครๆ ก็ทำได้