ส้มตำไก่ย่าง อาชีพข้างทางสร้างชีวิต
ต้นทุนชีวิตในกรุงเทพมหานครสูงลิ่ว รายได้ไม่พอกับค่าใช้จ่าย ทำให้สองสามี-ภรรยาชาว จ.สุรินทร์ ต้องหันหลังให้กับกรุงเทพมหานคร
โดย...นพรัตน์ กิ่งแก้ว
ต้นทุนชีวิตในกรุงเทพมหานครสูงลิ่ว รายได้ไม่พอกับค่าใช้จ่าย ทำให้สองสามี-ภรรยาชาว จ.สุรินทร์ ต้องหันหลังให้กับกรุงเทพมหานคร มาตั้งต้นชีวิตใหม่บั้นปลายชีวิตที่ถิ่นบ้านเกิดเพราะอยู่เมืองหลวงมานานกว่า 20 ปี ไม่มีอะไรดีขึ้น แถมยังไม่มีเก็บเงิน มีแต่พอได้กินพอใช้เดือนชนเดือน แต่พอกลับมาเปิดร้านขายอาหารอีสานชื่อร้านไก่ย่างวิเชียรบุรี ตั้งอยู่เลียบทางรถไฟหลังที่ว่าการอำเภอศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ กลับทำให้ชีวิตดีขึ้นผิดหูผิดตา จนมีเงินปลูกบ้านหลังใหม่ ไถ่นาที่จำนองกลับมาจากนายทุนได้
เสถียร เทพวงศ์ษา อายุ 48 ปี เจ้าของร้านไก่ย่างวิเชียรบุรี บอกว่า ก่อนที่จะมาเปิดร้านขายไก่ย่างส้มตำ เมื่อก่อนก็อพยพจากถิ่นบ้านเกิดไปอยู่กรุงเทพฯ มานานกว่า 20 ปี แต่ชีวิตก็ไม่ดีขึ้นตามที่หวังไว้ จึงชวนครอบครัวกลับมาบ้านเกิดเพื่อปักหลักเปิดร้านขายอาหารอีสานเล็กๆ ในช่วงบั้นปลายชีวิต โดยไม่หวังว่าจะต้องร่ำรวย ขอให้มีกินมีใช้ก็พอแล้ว โดยเปิดเป็นร้านเพิงหลังคา สังกะสี โต๊ะม้าหิน โต๊ะไม้ เก้าอี้พลาสติก แบบนั่งสบาย ท่ามกลางอากาศปลอดโปร่ง
เมื่อเปิดได้ไม่นานปรากฏว่ามีลูกค้ามาอุดหนุนอย่างต่อเนื่อง มีทั้งข้าราชการที่ทำงานในที่ว่าการอำเภอศีขรภูมิ ตลอดทั้งข้าราชการต่างๆ ในอำเภอ เปิดขายตั้งแต่ 10.00-14.00 น. ของทุกวัน ที่ร้านก็จะมีอาหารหลักๆ ก็คือ ไก่ย่าง ข้าวเหนียว ส้มตำ และอาจจะมีเสริมเป็นบางวันคือ ปลานิลเผา ตัวละ 100 บาท 20 ตัว และปลาดุกตัวละ 35-40 บาท 20 ตัว ส่วนไก่ที่นำมาย่างนั้น จะสั่งมาวันต่อวัน วันละ 30-50 ตัว จากนั้นก็จะมาแยกออกเป็นชิ้นส่วนแยก ปีก ขา คอ ตับ กึ๋น เนื้อสันใน ซึ่งจะทำใส่ไม้ ไม้ละ 10 บาท ส่วนตัวไก่ย่างจะขายในราคาตัวละ 130 บาททุกตัว ไก่ย่างทุกตัวจะมีน้ำหนัก 1.4 กิโลกรัม
ขณะที่อาหารเมนูประเภทส้มตำต้องยกให้ภรรยาคู่ชีวิต วิรัตนา ปุยะสันต์ เป็นคนปรุง ซึ่งมีสารพัดตำที่ลูกค้าอยากรับประทาน อาทิ ตำผสม ครกละ 30 บาท ตำลาว ครกละ 30 บาท ตำแตง ครกละ 30 บาท ตำซั่ว ครกละ 30 บาท ตำถั่ว ครกละ 35 บาท ตำป่า ครกละ 35 บาท ตำหมูยอ ครกละ 35 บาท ตำไทย ครกละ 30 บาท และตำไทยไข่เค็ม ครกละ 40 บาท
อาชีพเปิดร้านขายอาหารอีสานตามข้างทาง เป็นอีกอาชีพหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม หากขยันอดทนรับรองไม่มีจน