'เซีย' คืนชีวิตให้เพลงที่ถูกทิ้ง
อาทิตย์ที่ผ่านมา ชื่อของ “เซีย” ปรากฏเป็นข่าวในหน้าบันเทิง หลังจากเธอมีเพลงฮิตอันดับ 1 บนชาร์ต
โดย...เพ็ญแข สร้อยทอง
อาทิตย์ที่ผ่านมา ชื่อของ “เซีย” ปรากฏเป็นข่าวในหน้าบันเทิง หลังจากเธอมีเพลงฮิตอันดับ 1 บนชาร์ตความนิยมครั้งแรกในชีวิต ขณะอายุได้ 40 ปี โดยทางบิลบอร์ดเองก็ได้บันทึกไว้ว่า ผู้หญิงวัย 40 ปี ซึ่งมีซิงเกิ้ลฮิตติดอันดับ 1 ในบิลบอร์ดฮอต100 ครั้งสุดท้ายนั้นเกิดขึ้นเมื่อ 16 ปีที่แล้ว โดย มาดอนนา ซึ่งขณะนั้นอายุได้ 42 ปี กับเพลง Music
เซีย เฟอร์เลอร์ หรือที่รู้จักกันในนาม "เซีย" นักร้องนักแต่งเพลงจากเมืองแอดิเลด ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งมาทำงานและโด่งดังมีชื่อเสียงอยู่ที่อังกฤษ เธออยู่ในวงการนี้มาตั้งแต่ปลายทศวรรษ 1990 เซียแต่งเพลงให้กับศิลปินหลากหลาย ก่อนจะมีอัลบั้มส่วนตัวชุดแรกในปี 2002
เซียเป็นเจ้าของเพลงฮิต อาทิ Chandelier, Elastic Heart และ Cheap Thrills เสียงร้องของเธอเคยปรากฏในงานของ เดวิด เกตตา, ฟลอ ไรดา และอื่นๆ อีกมากมาย เธอยังเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเพลงดังของหลายศิลปิน ไม่ว่าจะ ริอานนา, บียอนเซ, ริตา โอรา, บริตนีย์ สเปียร์ส เป็นต้น
ปีที่แล้วนับเป็นอีกหนึ่งปีทองของ เซีย ด้วยเพลง Chandelier งานจากอัลบั้ม 1000 Forms of Fear ทำให้เซียได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่ หลากหลายสาขา รวมทั้งเพลงแห่งปีและบันทึกเสียงแห่งปี
ปีนี้เซียก็กลับมาพร้อมกับอัลบั้มชุดที่ 7-This Is Acting ซึ่งออกวางขายเมื่อต้นปี คอนเซ็ปต์ของอัลบั้มนี้น่าสนใจตรงที่นำเอาบทเพลงซึ่งศิลปินดังปฏิเสธที่จะร้องมารวมเข้าด้วยกัน โดยชื่ออัลบั้มบอกเป็นนัยว่า เวลาเขียนเพลงให้กับลูกค้า เซียก็ต้อง "แสดง" เพื่อที่จะเข้าถึงความเป็นคนคนนั้นด้วย
และไม่รู้ว่า ตอนนี้ ริอานนา จะเสียดายหรือเปล่าที่ปฏิเสธเพลง Cheap Thrills เพราะเมื่อเซียมาร้องและตัดออกมาเป็นซิงเกิ้ลที่ 2 ของอัลบั้ม เพลงนี้ก็ขึ้นไปถึงอันดับ 1 และฮิตไปทั่วโลก
นอกจาก ริอานนา แล้ว อะเดล เองก็ไม่ยอมร้อง Alive ซึ่งกลายมาเป็นอีกหนึ่งเพลงน่าฟังของอัลบั้มนี้ ด้วยทั้งเจ็บปวดและทรงพลัง เพลงนี้ถูกตัดออกมาเป็นซิงเกิ้ลแรกของอัลบั้ม เป็นเพลงโชว์พลังเสียงร้องของเซียได้อย่างดี มีหนึ่งเพลงที่เซียบอกว่า เธอแต่งให้กับตัวเอง นั่นคือ One Million Bullets แทร็กนี้เป็นเพลงหม่นที่ต้องฟังซ้ำๆ
สำหรับเพลงเปิดอัลบั้มชื่อว่า Bird Set Free เซียแต่งเพื่อหนัง Pitch Perfect 2 แต่ก็ไม่ถูกเลือกไปใช้ ต่อมาเธอก็ชงให้ ริอานนา รวมทั้ง อะเดล นำไปร้อง ทว่าไม่มีใครสนใจ เพลงนี้เป็นเพลงแห่งการปลดปล่อยเป็นอิสระ เนื้อหานั้นยังบอกเล่าความเป็นเซียในฐานะนักแต่งเพลงได้ด้วย "I found myself in my melodies ... I'll shout it out like a bird set free."
อัลบั้มนี้มี เกรก เคอร์สติน ซึ่งเคยทำงานกับอะเดลมาช่วยโปรดิวซ์ ด้วยเพลงในอัลบั้มนี้แรกเริ่มตั้งใจแต่งให้กับศิลปินหลากหลายคน ทำให้บทเพลงมีความหลากหลายลีลา แต่ทุกเพลงทุกแทร็กก็รวมกันอยู่ได้อย่างไม่เคอะเขิน ด้วยมีแก่นเป็น “บัลลาด” และอารมณ์สีสันออกไปทาง “ดาร์ก” ถ้าหากไม่มีเพลงที่ชวนให้ออกไปเต้นรำอย่าง Move Your Body (ว่ากันว่าเขียนให้ชากิรา) รวมทั้ง Unstoppable, Reaper และ Cheap Thrills อัลบั้มนี้ก็คงหม่นหมองเกินไปจริงๆ ส่วนของดนตรีและการเรียบเรียงนั้นออกจะซับซ้อนและเยอะไปอยู่บ้าง บางเพลงฟังแล้วก็รู้สึกว่า มีคนปฏิเสธเพลงอย่างนี้ได้ยังไงนะ?
นอกจากมีอัลบั้มนี้แล้ว ปีนี้เพลงของเซียก็ไปรวมอยู่ในซาวด์แทร็กประกอบหนัง Finding Dory ไม่เพียงเท่านั้น เซียยังข้ามฟากไปทำงานหนังอีกครั้งด้วยการพากย์เสียงในหนัง My Little Pony : The Movie ซึ่งนำแอนิเมชั่นปี 1986 มาสร้างใหม่
และไม่นานหลังจากนี้ เซีย จะออกทัวร์ครั้งแรกในรอบ 5 ปี โดยมีสาวน้อย แม็ดดี ซีเกลอร์ นางเอกเอ็มวีของเธอร่วมด้วย หลายคนเข้าใจว่าเด็กผู้หญิงคนนี้เป็นเซีย เพราะเห็นแต่หน้าน้องในมิวสิควิดีโอ (และปกซีดี) ขณะที่หน้าของเจ้าของเพลงเจ้าของเสียงที่แท้จริงนั้นมักจะถูกปกปิดด้วยวิกผมและถุงกระดาษ!
เซียได้ชื่อว่าเป็นคนที่ค่อนข้างขี้อายและไม่อยากอยู่หน้ากล้องเอามากๆ เธอไม่อยากโชว์หน้าตาทางสื่อ แม้แต่ไปงานใหญ่อย่างแกรมมี่ก็ไม่มีใครได้เห็นหน้าของเธอ เซียบอกว่า เธอไม่อยากจะเป็นคนดัง หรือถูกจดจำได้ "ฉันไม่อยากจะถูกวิจารณ์เรื่องหน้าตา ฉันแต่งเพลงป๊อปให้กับป๊อปสตาร์มาหลายปีแล้ว และฉันก็เป็นเพื่อนกับพวกเขาหลายคน ฉันรู้ฉันเห็นว่า ชีวิตพวกเขาเป็นยังไง นั่นเป็นอะไรที่ฉันไม่ต้องการ"
แต่ไม่ว่าเราจะเห็นหรือไม่เห็นหน้าเธอ เซียก็เป็น "มืออาชีพ" ที่เปี่ยมด้วยพรสวรรค์และฝีมืออย่างยากที่จะปฏิเสธ
ความสามารถทางด้านการแต่งเพลง รวมทั้งเสียงร้องงดงามทำให้ศิลปินมากมายอยากทำงานร่วมกันกับ เซีย เธอเป็นคนเขียนเนื้อเพลงด้วยภาษาที่สวยงาม และเขียนเพลงเร็วมากๆ เธอเคยให้สัมภาษณ์ว่า Diamonds เพลงดังของริอานนานั้น เธอเขียนด้วยวิธีการ "เบรนสตรอม" กับคนในทีม และทำเพลงนั้นออกมาสำเร็จในเวลาเพียง 14 นาทีเท่านั้น!
สำหรับ This Is Acting แม้จะเป็นอัลบั้มรวมเพลงที่ถูกทิ้ง! แต่ทั้งหมดไม่ใช่สิ่งที่น่ารังเกียจ เพราะล้วนเป็นของที่ยังใช้การได้ดี สามารถนำมารีไซเคิล ทำให้มีชีวิตขึ้นใหม่อีกครั้ง