จากปาก น้องเพลง เชื่อไม่ได้โดนแกล้ง หลังถูกถอดจากเพลงละคร

เพลง ชนม์ทิดา เปิดใจครั้งแรกหลังถูกถอดจากเพลงละครเพลิงบุญ เชื่อนางเอกดังไม่ได้สั่งเปลี่ยนตัว ยันทุกฝ่ายต้องการความเหมาะสมและดีที่สุด

กลายเป็นประเด็นดราม่ามาแรง เมื่อมีข่าวเม้าท์สนั่นเมื่อ เพลง ชนม์ทิดา ลูกสาวสุดที่รักของดีว่าตัวแม่ ตู่ นันทิดา ถูกปลดไม่ให้ร้องเพลง "ทำกับฉันได้ลง" เพลงประกอบละครเรื่อง เพลิงบุญ โดยที่ไม่ทราบสาเหตุ 

งานนี้ถูกจับตามองเพราะละครเรื่องดังกล่าวมีนางเอก เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ รับบทนำ โดนร่างแหเข้าไปเกี่ยวข้องกลายเป็นคนออกคำสั่งเป็นที่เรียบร้อย

ล่าสุด น้องเพลง ชนม์ทิดา ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนเป็นครั้งแรกถึงกรณีดราม่าในงานบวงสรวงละคร "ความรักครั้งสุดท้าย" ว่า...

"อย่างที่ทราบข่าวนะคะ เพลงของเพลงได้ย้ายไปอยู่เรื่องอื่นแทน ซึ่งตอนแรกที่ติดต่อมาเพลงทราบแค่ว่าเป็นเพลงละครช่อง 3 และมี พี่หนึ่ง ณรงค์วิทย์ เป็นคนแต่ง ซึ่งเพลงเองก็เคยร้องเพลงประกอบละครช่อง 3 มาแล้วด้วย เพลงก็เลยมองว่าครั้งนี้ก็ถือเป็นหนึ่งโอกาสของเรา แต่ก็มาทราบเรื่องที่หลังค่ะ

ก่อนหน้านี้น่าจะเป็นเรื่องของที่เมเนอเจอร์และทางนั้นเขาคุยกันและอาจจะมีข้อมูลที่ตกหล่นมากกว่า เราก็เลยมาทราบทีหลังว่าเป็นเรื่องไหน ซึ่งตอนที่เพลงร้องเพลงนี้ก็เพิ่งทราบชื่อดาราที่เล่นเรื่องนั้น และพล็อตตอนที่เพลงเข้าห้องอัดแล้วนะคะ

สำหรับในวันที่เพลงเข้าไปอัดนะคะ เพลงรู้สึกว่าเพลงทำหน้าที่ของเพลงแล้วที่ได้รับแล้ว เพลงถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครนั้น แค่นั้นเองค่ะ เหมือนเพลงแค่ไปทำงานไม่คิดว่าจะเกิดดราม่า เพราะอย่างแรกเลยเพลงรู้สึกว่าเรื่องมันผ่านมาค่อนข้างนานแล้ว

หลังจากที่รู้ว่าเพลงเราถูกถอด พี่หนึ่งเป็นคนโทรหาเพลงเองเลยค่ะ พี่เขาก็ขอโทษบอกว่าทางผู้ใหญ่มองว่าน่าจะนำเพลงของเพลงไปใช้กับอีกเรื่องหนึ่งมากกว่าในด้านของความเหมาะสม ทั้งนี้ทั้งนั้นเพลงเชื่อว่ามันเป็นการที่ทุกคนอยากให้งานออกมาดีที่สุดค่ะ ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่ทราบว่าเพลงที่เราร้องจะไปอยู่ในตรงไหน

ณ ตอนนั้นเราก็ไม่เสียใจนะคะ เราโอเคตั้งแต่แรกแล้ว เพราะรู้สึกว่าคนทำงานทุกคนก็ต้องอยากให้งานออกมาดีที่สุด ส่วนพี่จ๋าผู้จัดละครก็บอกว่าขอโทษจริงๆ และก็โทรมาขอโทษคุณแม่

อย่างดราม่านางเอกดังสั่งให้เปลี่ยนตัวเรา ก็คงไม่ใช่หรอกค่ะ เพราะที่เพลงคุยกับผู้ใหญ่ก็มีแค่เรื่องความเหมาะของละคร และความสบายใจของทุกฝ่ายเท่านั้นเองหนูว่ามันเป็นแค่การทำงาน  ซึ่งเพลงไม่ได้รู้สึกว่าเราโดนแกล้งหรือโดนรังแกหรอก เรื่องโอกาสจะได้ร่วมงานกันก็เป็นเรื่องของอนาคตเนอะ"