ออสเตรเลีย : ความ(ไม่)ลับของเมืองแห่งความสุข
ทุกๆ ปีที่สหประชาชาติทำการจัดอันดับความสุขของผู้คนทั่วโลก
ทุกๆ ปีที่สหประชาชาติทำการจัดอันดับความสุขของผู้คนทั่วโลก ออสเตรเลียเป็นหนึ่งในประเทศที่ติดอันดับว่าเป็นเมืองที่มีความสุขและน่าอยู่ที่สุดในโลกเมืองหนึ่ง ด้วยเหตุนี้เอง ออสเตรเลีย จึงมีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ให้หมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องมาเยี่ยมดินแดนนี้ให้ได้สักครั้งในชีวิต อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก แต่ปัจจัยของความสุขแต่ละประเทศนั้นแตกต่างกันไปไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว ทีมงานโลก 360 องศา จึงได้โอกาสพาทุกท่านไปค้นหาความ (ไม่) ลับของเมืองแห่งความสุข ที่รัฐ South Australia ทางตอนใต้ของประเทศออสเตรเลีย รัฐที่ได้ชื่อว่าเป็นรัฐที่มีพื้นที่แห้งแล้งมากที่สุดของประเทศ แต่ในขณะเดียวกันก็มีมุมที่ชุ่มชื่น ที่เป็นธรรมชาติ ที่สวยงามอยู่ไม่น้อย นอกจากนี้ในบรรดา 6 รัฐ กับอีก 2 ดินแดนของออสเตรเลียนั้น South Australia เป็นรัฐที่มีประชากรอาศัยอยู่น้อยมาก คือมีประมาณ 1.7 ล้านคนเท่านั้น ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 10% ของประชากรทั้งประเทศ และใน 1.7 ล้านคนนั้น กว่า 1.3 ล้านคนอาศัยอยู่ในกรุง Adelaide ซึ่งคิดเป็น 75% ของประชากรทั้งรัฐที่มารวมกันอยู่ที่นี่ จึงทำให้ Adelaide เป็นเมืองหลวงที่มีการกระจุกตัวของผู้คนมากที่สุด
ความที่ตัวเมือง Adelaide นั้น เป็นตัวเมืองที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด จึงสามารถเดินเที่ยวชมเมืองด้วยเท้าได้ แต่ถ้าหากอยากสะดวกสบายและออกไปเที่ยวได้ไกลขึ้น ก็สามารถใช้บริการรถ Tram ได้ รถ Tram ก็คือรถรางนั่นเอง ลักษณะคล้ายๆ กับ รถไฟ แต่จะสั้นและเล็กกว่า ซึ่งเมืองใหญ่ๆ ในออสเตรเลียจะมีรถ Tram อยู่แทบทุกเมืองเพราะประหยัด มีประสิทธิภาพสูง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย การให้บริการรถ Tram นั้นมีอยู่หลายสาย แต่สายที่วิ่งจากใจกลางเมืองไปทางฝั่งใต้ของเมืองนั้น เรียกว่า Free city tram คือ ขึ้นฟรี ไม่ต้องเสียเงิน แม้ว่าจะประหยัดค่ารถไปได้ แต่หลายคนก็อดไม่ได้ ที่ต้องมาเสียทรัพย์ที่ Rundle mall เพราะที่นี่เต็มไปด้วยร้านค้าและสินค้าน่าซื้อมากมายแล้วยังเป็นแหล่งนัดพบของคนเมืองอีกด้วย ดังนั้น เมื่อมาที่นี่นอกจากจะเห็นสินค้าราคาแพง ที่สะท้อนถึงสถานะทางเศรษฐกิจ และการพัฒนาทางสังคมแล้ว ยังจะได้เห็นวิถีชีวิตแบบสบายๆ ของคนที่นี่พร้อมๆ กันไปด้วย
แต่นี่ก็เป็นแค่บางส่วนของภาพวิถีชีวิตคนที่นี่เท่านั้น ถ้าอยากเห็นสีสันอีกแบบหนึ่ง ซึ่งการท่องเที่ยวออสเตรเลียใต้แนะนำไว้ต้องมาที่ “Central Market” เพราะนอกจากจะเป็นศูนย์รวมอาหารการกินที่มีคุณภาพของ South Australia แล้ว ที่นี่ยังมีกลิ่นอายความคลาสสิกของตลาดในร่มอายุกว่า 145 ปี แฝงอยู่อีกด้วย จึงทำให้ใครๆ ก็อยากมากัน และเมื่อได้มาแล้วแน่นอนว่า หลายคนก็คงอยากชิมโน่น ชิมนี่เต็มไปหมด หากใครมีโอกาสมาเยือนให้ลองใช้บริการ Food tour ดูก็ได้ เพราะนอกจากจะได้ลิ้มรสอาหารร้านเด็ดแล้ว ยังได้เรียนรู้เรื่องราวอีกหลายๆ ด้านของ Adelaide ควบคู่กันไปด้วย นอกจากนั้นประเทศออสเตรเลีย ยังขึ้นชื่อว่ามีกาแฟรสชาติอร่อย เหมาะสำหรับคอกาแฟโดยเฉพาะ ที่ Central Market แห่งนี้มีร้านกาแฟดีๆ อยู่หลายร้าน หลังเดินชม เดินชิม อาหารอร่อยๆ จนทั่วแล้ว เลือกร้านกาแฟสักหนึ่งร้าน สั่งกาแฟถ้วยโปรดแล้วก็นั่งจิบไปอย่างช้าๆ ดูความเคลื่อนไหวของสิ่งที่เกิดขึ้นรอบข้าง เพียงแค่ได้ดูวิถีชีวิตของเมืองที่ผู้คนอยู่กันอย่างมีความสุขเท่านี้ ก็พลอยทำให้มีความสุขตามไปด้วยเหมือนกัน ทั้งนี้ คาดว่าในแต่ละปีมีผู้มาเยือนตลาดแห่งนี้ไม่ต่ำกว่า 8 ล้านคน ซึ่งมากกว่าครึ่งก็จะเป็นนักท่องเที่ยวนั่นเอง
เดินถัดมาจาก Central Market แค่นิดเดียว เราสามารถมองเห็นซุ้มประตูสีแดงของ “Adelaide Chinatown” ได้ชัดเจน China town ของที่นี่อาจจะมีขนาดไม่ได้ใหญ่โตมากนัก เมื่อเทียบกับ China town ที่เกิดขึ้นในเมืองอื่นๆ ของโลก แต่ก็มีร้านอาหารหลากหลายให้เลือกมากพอที่จะทำให้ใครหลายคนหายคิดถึงเอเชียไม่ว่าจะเป็นจีน ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย มาเลเซีย เวียดนาม รวมทั้งอาหารไทยเรา ความที่ขนาดพื้นที่ค่อนข้างเล็ก ใครบางคนจึงแอบเแซวว่า นี่น่าจะเรียกว่า Adelaide China Street มากกว่า China town แต่ถึงแม้จะเล็กอย่างไร เมื่อไหร่ที่ใครต้องการข้าวของเครื่องใช้และบรรยากาศของความเป็นเอเชียก็ต้องมาที่นี่เท่านั้นเพราะมีให้ทุกสิ่งให้เลือกสรร
ภายในตัวเมือง Adelaide นั้น ถึงแม้ว่าจะมีคนอาศัยกันอย่างกระจุกตัว แต่บรรยากาศก็ดูไม่แออัด เพราะว่าเป็นเมืองที่ถูกวางผังมาเป็นอย่างดีโดยแม่ทัพ Light ซึ่งในสมัยนั้น มีตำแหน่งเป็น Surveyor-General of South Australia หรือแปลเป็นภาษาไทยว่า “แม่ทัพที่ดูแลการสำรวจ” สาเหตุที่แม่ทัพ Light เลือกตั้งเมืองใหม่ขึ้นที่นี่นั้นเพราะอยู่ใกล้กับทิวเขา Adelaide hills ทำให้มีโอกาสได้รับน้ำฝนจากธรรมชาติมากขึ้น ซึ่งน้ำกิน น้ำใช้ ถือเป็นหัวใจสำคัญที่สุด สำหรับการอาศัยอยู่ในประเทศนี้
การจัดวางกลุ่มอาคารที่อยู่ใจกลางเมือง Adelaide นั้น ถือเป็นการวางผังเมืองที่ดีเยี่ยม โดยจัดให้เป็นบล็อกที่สามารถเชื่อมถึงกันด้วยโครงข่ายถนน และวงแหวนที่มีสวนสาธารณะ ทำให้ไม่มีปัญหาการจราจร แถมยังมีพื้นที่ให้คนออกมาพักผ่อนหย่อนใจและทำกิจกรรมนอกบ้าน ตามรูปแบบวิถีชีวิตของชาวออสเตรเลี่ยนได้ที่ Victoria Square ซึ่งเป็นสวนสาธารณะรูปคล้ายวงรี ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่าย Victoria Square จึงกลายเป็นจุดนัดพบยอดนิยม และเป็นแหล่งจัดกิจกรรมกลางแจ้งของคนเมือง แต่ถ้าใครต้องการพื้นที่สีเขียวที่กว้างกว่านี้ ก็สามารถเดินทางออกไปทิศไหนของเมืองก็ได้ เพราะใจกลางเมือง Adelaide นั้น ถูกล้อมรอบไปด้วยวงแหวนสีเขียวที่เรียกว่า Adelaide Park Lands คือพื้นที่ส่วนที่เป็นสวนสีเขียว เหมาะสำหรับมาพักผ่อนหย่อนใจ มาออกกำลังกาย วันหยุดก็มาปิกนิก มาทำบาร์บีคิวกินกันในสวน ท่ามกลางบรรยากาศที่สบายๆ ไร้มลภาวะ การเดินทางที่สะดวกสบาย เช้า เย็นของทุกวัน สวนสาธารณะแทบทุกที่จึงคลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่มาใช้บริการ ซึ่งมีทั้งคนในพื้นที่และผู้มาเยือนอย่างนักท่องเที่ยวทั่วไป
จากใจกลางเมือง หากเดินทางเรื่อยขึ้นมาทางเหนือของ Adelaide จะพบกับสนามกีฬารูปทรงทันสมัยคือสนามกีฬา Adelaide Oval เป็นสนามกีฬารูปไข่ สามารถจุได้เกินกว่าห้าหมื่นคน ชาวออสเตรเลี่ยนชอบกีฬามากถึงขั้นที่เรียกว่า คลั่งไคล้เลยก็ว่าได้ เรียกว่าถ้าไม่ได้เป็นผู้เล่น ก็ต้องได้เป็นคนดูจนบางทีก็มีการแซวกันเล่นๆ ว่า กีฬาน่าจะเป็นอีกหนึ่งศาสนาของชาวออสเตรเลี่ยนเลย ที่ผ่านมาออสเตรเลียเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาทัวร์นาเมนต์หลายรายการ ไม่ว่าจะเป็น เทนนิส กอล์ฟ การแข่งรถฟอร์มูล่าวัน และการแข่งม้า แต่กีฬายอดนิยมที่สุด ต้องยกให้ Australian Rules Football หรือเรียกสั้นๆ ว่า Footy สาเหตุที่เรียกว่า Australian rules นั้นคงเป็นเพราะว่า รูปแบบ การเล่นและกติกา ถูกคิดค้นและกำหนดโดยออสเตรเลีย ซึ่งจะแตกต่างฟุตบอลในรูปแบบสากลที่เราเรียกว่า Soccer อยู่มาก เช่น ใช้ผู้เล่นทีมละ 18 คน เล่นในสนามรูปวงรี ลูกบอลที่เล่นเป็นทรงคล้ายลูกรักบี้ สามารถใช้ได้ทั้งมือ ทั้งเท้าในการส่งบอล ซึ่งสนามแห่งนี้ก็เป็นสถานที่หลักในการจัดแข่งขัน AFL หรือ Australian Football League นอกจากนั้น ก็ยังใช้เป็นที่แข่งขัน Cricket อีกด้วย และก็อาจจะเป็นเพราะใช้แข่ง Footy และ Cricket เป็นหลัก จึงทำให้สนาม Adelaide Oval มีรูปทรงเป็นวงรี คนส่วนใหญ่ที่มา Adelaide จึงต้องแวะที่นี่ ถ้าไม่ใช่เพื่อมาดูกีฬา ก็จะมาดูสถาปัตยกรรม เพราะสนามกีฬาแห่งนี้ได้ชื่อว่า มีรูปแบบทางสถาปัตยกรรมที่เป็นส่วนผสมของอาคารสมัยใหม่บวกกับกลิ่นอายของสนามกีฬาสมัยเก่าอยู่ร่วมกัน
แม้ว่า Adelaide จะขึ้นชื่อว่าเป็นรัฐที่มีพื้นที่แห้งแล้งมากที่สุดของประเทศ ไม่ได้เป็นเมืองที่น่าเที่ยวที่สุดใน โลก เพราะไม่ได้มีภาพความยิ่งใหญ่ของสิ่งปลูกสร้าง ไม่ได้มีแสงสีมากมาย ไม่มีความตื่นเต้นเร้าใจเหมือนเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมเมืองอื่นๆ ของโลก แต่การที่ผู้คนใน Adelaide ได้มีวิถีชีวิตดีๆ ได้กินอาหารดีๆ ได้อยู่ในพื้นที่ดีๆ ได้ทำกิจกรรมดีๆ ท่ามกลางผู้คนที่มีความชอบเหมือนๆ กัน ใช้ชีวิตสอดคล้องคล้ายคลึงกัน นั่นอาจเพียงพอแล้วที่จะทำให้ชีวิตหนึ่งมีความสุขและแผ่กระจายความสุขนั้นให้ผู้คนรอบข้างมีความสุขตามไปด้วย สิ่งเหล่านี้ วิถีชีวิตเช่นนี้นั่นเอง อาจเป็นความ(ไม่)ลับของผู้คนในเมืองแห่งความสุขที่ส่งผลทำให้ออสเตรเลียเป็นหนึ่งในเมืองที่น่าอยู่มากที่สุดในโลกก็เป็นได้
ติดตามชมเรื่องราวทั้งหมดได้ที่รายการ โลก 360 องศา ทุกวันเสาร์ เวลา 20.55 น. ททบ.5