ของขวัญลวดลายไทย ส่งความสุขรับปี 2561
ของขวัญสุดพิเศษที่เก๋ไก๋ได้ใจคนรับ สุขใจผู้ให้ ที่มีลวดลายไทยแท้แต่โบราณ ไร้ซึ่งความเชย กระเป๋ายี่ห้อโจแบ็ค (Jo’s bag)
ของขวัญสุดพิเศษกลุ่มแฟชั่น ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าไม่ซ้ำใคร หรือเครื่องประดับชิ้นเล็กๆ แต่เก๋ไก๋ได้ใจคนรับ สุขใจผู้ให้ เป็นตัวเลือกอันดับแรกๆ ในการเลือกเฟ้นหาของขวัญชิ้นสุดพิเศษ ช่วงรับปีใหม่ ปีจอ 2561 นับถอยหลังใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว ได้เวลาซื้อของขวัญกันแล้ว
ปีนี้ขอแนะนำชิ้นเด็ด ของขวัญลวดลายไทยแท้แต่โบราณ ไร้ซึ่งความเชย กระเป๋ายี่ห้อโจแบ็ค (Jo’s bag) ครีเอตลดทอนลายผ้าไหมมัดย้อมอีสาน เป็นกระเป๋าคลัตช์ทันสมัย อีกยี่ห้อ ทอฟ้าคราม ได้แรงบันดาลใจจากภาชนะเซรามิก นำลายมาออกแบบเป็นเครื่องประดับชิ้นเล็กๆ ให้เลือกความเป็นไทยเป็นของขวัญ ถูกใจผู้รับทุกรุ่นทุกวัย
เลือกกระเป๋าเป็นของขวัญ
สุทธิรัตน์ แก้วอาภรณ์ เจ้าของแบรนด์กระเป๋า โจแบ็ค (Jo’s bag) คลุกคลีอยู่กับผ้าไทยสวยๆ ทั่วประเทศ ด้วยหน้าที่ภัณฑารักษ์ ประจำพิพิธภัณฑ์ผ้า ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ กระเป๋ายี่ห้อนี้ก็ถือกำเนิดจากของขวัญ เมื่อปี 2557 โดยทำเป็นของขวัญปีใหม่ 24 ใบ มอบแด่คนรักใคร่ใกล้ตัว ตั้งใจให้เป็นงานอดิเรก แต่กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้น ใครเห็นก็อยากได้เป็นเจ้าของ
“ผมใช้กระเป๋าดีไซน์เอง นำผ้าปักชาวไทยภูเขามาตัดเย็บเป็นกระเป๋าใส่ไอแพดมินิ แล้วเมื่อมีคำชื่นชมและเรียกร้องมากขึ้นเรื่อยๆ จึงทำขายทีเดียว 300 ใบ ปรากฏว่าขายดีมาก ขายทางเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม แล้วเปิดร้านที่เจเจมอลล์ และได้วางในโซน Exotique พารากอน ซึ่งการมีหน้าร้านทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น รวมถึงมีลูกค้าต่างชาติจำนวนมากด้วยครับ”
สุทธิรัตน์ เล่าย้อนจุดเริ่มต้น และถ้าปีที่ผ่านๆ มา กระเป๋ารุ่นที่ชื่อว่า ”มหารานี” ขายดิบขายดี ในแบบที่ว่าแทบไม่มีเหลือโชว์หน้าร้าน ปีนี้คือปีของกระเป๋าเป้สะพายหลัง ตัดเย็บจากผ้าย้อมครามสกลนคร กระเป๋างานแฮนด์เมดใบใหม่ล่าสุด
เจ้าของแบรนด์และเป็นผู้ออกแบบ มั่นใจจะสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้วงการผ้าไหมไทยได้ ไม่แพ้กระเป๋ารุ่นพี่แน่นอน
“ปีใหม่เริ่มต้นที่สีสดใส ผ้าคือของสะสมมีหลายรูปแบบจากทั่วประเทศ หลายๆ ลายก็นำมาขยายแพตเทิร์น ลายผ้าโบราณสร้างโทนสีขึ้นมาใหม่ อย่างเช่น กระเป๋าผ้าไหมมัดหมี่รุ่นแรก นำมาออกแบบเส้นใยฝ้ายสีเมทัลลิก เป็นผ้าที่สั่งทำขึ้นใหม่ให้ชาวบ้านทอ ลายผ้าของกระเป๋าโจแบ็คมีความโมเดิร์น แต่ก็ไม่ได้ทิ้งความเป็นไทยและฝีมือชาวบ้านดั้งเดิม
ในขณะที่บางลายมีความลงตัวอยู่แล้ว เช่น ผ้าลายเกล็ดเต่า ลวดลายเป็นตารางสี่เหลี่ยมเล็ก ผ้าทำกระเป๋ามีหลายแบบครับ ผ้าปักชาวไทยภูเขา ผ้าไหมมัดหมี่จากอีสาน ผ้าฝ้ายจากภาคเหนือและภาคใต้ สั่งทอหมู่บ้านทั่วประเทศ ทุกผืนมาจากโครงการศิลปาชีพของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
โจแบ็คออกแบบกระเป๋าลายพราง ใบนี้ถูกใจนักท่องเที่ยวชาวจีนและญี่ปุ่น กระเป๋าใบล่าสุดเป้ผ้าย้อมครามสกลนคร กำลังเป็นไอเท็มขายดีมากครับ ก็ถูกใจนักท่องเที่ยวต่างชาติสองชาตินี้อีก ชาวจีน ญี่ปุ่น ชอบมาก ซื้อกลับประเทศไปคนละหลายๆ ใบ”
กระเป๋าโจแบ็ค มีให้เลือกตั้งแต่กระเป๋าสตางค์ คลัตช์ กระเป๋าถือใบเล็กขนาด 9 นิ้ว ไปจนถึง 16 นิ้ว สนนราคา 1,000-9,500 บาท เป็นกระเป๋าที่เจ้าของแบรนด์ให้นิยามว่าเป็น “กระเป๋านักการทูต” เนื่องจากทุกครั้งที่ถือออกงาน ต้องมีคนเข้ามาซักถามเจรจาว่าด้วยเรื่องกระเป๋าทุกครั้งไป
“ใครถือคนก็เข้ามาถามว่ากระเป๋าอะไร นี่คือผ้าอะไร แหล่งที่มาจากไหน เป็นเสน่ห์งานไทยๆ ให้พูดถึงกันปากต่อปาก เน้นถือโชว์ลายผ้าสวยๆ ก็เป็นความเตะตานะครับ อย่างเช่น คลัตช์งานปักบนใยกัญชง ของชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง สีสดใส
คลัตช์ตัดขอบหนังสีดำ น้ำตาล เสริมลายผ้าไหมมัดหมี่เพิ่มความเท่ รูปทรงเรขาคณิตในรุ่น นิว คลัตช์ และ ล็อต คลัตช์ ปรับใส่สายสะพายเป็นกระเป๋าใบเล็ก ใส่เข้ากับเสื้อผ้าได้หลายลุค
กระเป๋าสะพายข้างทรงสี่เหลี่ยม โชว์ลายผ้าปักชาวเขาสำหรับหนุ่มๆ ให้อารมณ์ ดิบ เท่ แมตช์หนังสีเงินคู่กับผ้าไหมมัดหมี่สีม่วงลายหมากจับล้อม กระเป๋าโท้ตใบนี้ก็ยอดนิยมเห็นลายผ้าชัดเจน เช่น ซันนี่ แบ็ก ที่ใช้หนังสีสด เหลือง น้ำเงิน ขาว ชมพู เย็บเข้ากับผ้ามัดหมี่ ผ้าม้งพิมพ์ลาย หรือผ้าขิดไหมลายโบราณ สีและลายผ้าเด่นอยู่แล้ว เสริมกันให้เด่นมากขึ้นอีก”
คลัตช์ผ้าไทยเย็บมือทุกใบ และสิ่งที่ผู้ออกแบบภาคภูมิใจที่สุด ก็คือเรื่องคุณภาพอายุการใช้งานยาว กระเป๋าผ้าไทยน้ำหนักเบา เนื้อผ้าอัดโฟม เคลือบวัสดุกันน้ำและฝุ่นได้ ทำความสะอาดง่ายเพียงใช้แค่ทิชชู่เปียก ถ้าเปื้อนมากส่งร้านซักแห้งได้ ซิปต้องลื่นกันสนิม มีสายสะพายให้ทุกใบ
“กระเป๋าผ้าทอมือในประเทศ ในขณะที่วัสดุกระเป๋าในแต่ละรุ่น ส่วนใหญ่สั่งจากต่างประเทศ อย่างเช่น หนัง หมุด ล็อก ต้องเลือกวัสดุที่มีคุณภาพ ทำกระเป๋าที่มีคุณภาพ”กระเป๋าทุกใบแนบการ์ดใบเล็กบอกที่มาของลายผ้า เรื่องนี้คืออีกหนึ่งของแรงบันดาลใจ สุทธิรัตน์ เล่าว่าประทับใจจากร้านขายของที่ระลึก ในพิพิธภัณฑ์ในต่างประเทศ อย่างเช่น เดอะ เม็ท ที่นิวยอร์ก ( The Metropolitan Museum of Art) ทำให้อยากนำเสนอสินค้าสื่อศิลปะไทย พร้อมประวัติศาสตร์ศิลปะไปพร้อมกันแบบนั้นบ้าง
“ทำไมนักท่องเที่ยวถึงยอมจ่ายเงิน ซื้อของที่ระลึกราคาสูง ก็เพราะว่าคอนเทนต์มันน่าสนใจ กระเป๋าผ้าไทยก็มีเรื่องราวอยู่ที่ผ้าทุกๆ ผืน ลวดลายไม่มีซ้ำกันเลยนะครับ”
ปีใหม่นี้ใครยังหาของขวัญถูกใจไม่ได้ ลองสร้างความประทับใจ เลือกความเป็นไทย ซื้อกระเป๋าโจแบ็คไปเป็นของขวัญ หรือของฝาก ก็เหมาะควร
ต่างหูทอฟ้าคราม ได้ใจสาวทุกวัย
ไอเดียนำลายครามเซรามิก ดีไซน์เป็นต่างหูรูปทรงแก้วชา จาน ชาม แหวนตราไก่ และเสื้อลายครามเก๋ไก๋ไม่ซ้ำใคร ซึ่งใครจะคาดคิดลายเก่าแก่ของไทยแท้แต่โบราณ จะได้ใจวัยรุ่นขนาดนี้ ก็เพราะคนคิดคือนักออกแบบรุ่นเยาว์ อารียา บุญช่วยแล้ว เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าและเครื่องประดับ “ทอฟ้าคราม” ซึ่งมีที่มาจากโปรเจกต์วิชา Thai art for visual ศิลปะไทยเพื่อการออกแบบนิเทศศิลป์ ภาควิชาออกแบบนิเทศศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
จากหัวข้อ “ออกแบบของที่ระลึกของชุมชนท่องเที่ยวไทย” กลายเป็นเครื่องประดับชิ้นเล็กน่ารักมากมาย อารียาได้แรงบันดาลใจจากเครื่องภาชนะกระเบื้อง ชนิดเขียนลายเป็นสี เครื่องเบญจรงค์ และเครื่องลายคราม เอกลักษณ์ลายสับปะรด ลายพรรณพฤกษา นำมาออกแบบให้ร่วมสมัยมากขึ้น เป็นของที่ระลึกท้องถิ่นแสดงอัตลักษณ์ของชุมชนดอนไก่ดี จ.สมุทรสาคร
“ตอนทำโปรเจกต์วาดเป็นแบบกราฟฟิก ก็ยังไม่ได้เป็นเครื่องประดับจริงค่ะ จนได้คัดเลือกและรับเงินทุนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้ทำเป็นสินค้าจริงขายในงานเทศกาลศิลปะสร้างแรงบันดาลใจ (Art Inspired) ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ช่วงปีใหม่ ก็ขายดีมาก ขายหมดทุกชิ้น คนซื้อเป็นของขวัญรับปี 2560ของไม่แพงด้วยค่ะ ต่างหูราคา 200-300 บาท ส่วนเสื้อผ้าฝ้ายย้อมครามราคา 990 บาท ซึ่งการที่เราเป็นนักออกแบบ ทำของออกมาก็ตั้งราคาไม่เป็นค่ะ (หัวเราะ) จึงขอคำปรึกษาอาจารย์ที่สอนการตลาด ก็คำนวณราคาให้จากต้นทุน ราคาสมเหตุสมผลก็เลยขายดีมากค่ะ
สินค้าเราก็ไม่เหมือนใครด้วยค่ะ ที่เป็นเซรามิก ดูมีคุณค่ากว่าต่างหูแก้วหรือพลาสติก วัสดุที่เลือกก็ใช้เงินแท้ทั้งหมด ต่างหูก็จะใช้ดินเบากว่า และราคาแพงกว่าที่ทำภาชนะเซรามิก เพื่อทอนน้ำหนัก เซรามิกเขียนมือทุกชิ้น ซึ่งคำว่าแฮนด์เมดก็คือความพิเศษ ตั้งใจทำเป็นชิ้นพิเศษ เพื่อเป็นของขวัญด้วยค่ะ”
สินค้าแฟชั่นของทอฟ้าคราม มีให้เลือกทั้งเสื้อ ผ้าคลุมไหล่ลายคราม ต่างหู-แหวนเซรามิกลายคราม ต่างหู-แหวนเซรามิกลายชามตราไก่ อารียา บอกว่า ไม่มีหน้าร้าน ขายผ่านอินสตาแกรม Torfahkram และเน้นช่วงปลายปี ปีนี้ขายในเทศกาลของขวัญ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว งาน Gift Fest by Thailand Bestbuys ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
“การออกบูธขายของ ชาวต่างชาติก็มาเป็นลูกค้าเราเยอะมาก เมื่อเดือน มี.ค. ก็ได้ไปออกบูธที่สถานทูตอินเดีย ชาวเอเชียชอบเครื่องประดับของเรา จีน ญี่ปุ่น เกาหลี คือลูกค้าที่ซื้อเยอะมากค่ะ ลูกค้าของเราเป็นวัยรุ่นนะคะ ไม่ใช่ว่าลวดลายไทยๆ แล้วจะแค่กลุ่มผู้ใหญ่เท่านั้น ทั้งเสื้อผ้า ผ้าคลุมไหล่ ต่างหู มีคนช็อปปิ้งทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ ความที่สีสันไม่ฉูดฉาด ใส่ง่าย ใช้ง่ายค่ะ
แฟชั่นไทยต้องไม่ไทยจ๋า ลายไทยมีเสน่ห์อยู่แล้ว แค่ปรับประยุกต์ลดทอนความเยอะ ลายใหญ่ๆ อีกนิดหน่อยก็สวยแล้วค่ะ”
อารียา บอกว่า ปีต่อไปก็จะครีเอตของใหม่ๆ มานำเสนออีก ตอนนี้มีโปรเจกต์กระเป๋าพิมพ์ลายบนหนังแท้ หรือเครื่องเงินที่ขึ้นรูปสวยๆ ได้มากมายอีกหลายๆ แบบ ของขวัญไทยแท้มีเสน่ห์เหลือใจ