กวีโฟล์กปี 2000 ลอรา มาร์ลิง
เป็นอีกหนึ่งศิลปินหญิงผู้เยี่ยมยอดจากฝั่งอังกฤษ แม้จะทำงานในวงการเพลงมานาน
โดย เพ็ญแข สร้อยทอง
เป็นอีกหนึ่งศิลปินหญิงผู้เยี่ยมยอดจากฝั่งอังกฤษ แม้จะทำงานในวงการเพลงมานาน และนำเสนอผลงานมาไม่น้อย แต่ชื่อเสียงของ ลอรา มาร์ลิง ก็ยังคงเป็นที่รู้จักเฉพาะกลุ่มค่อนข้างมาก และเพลงของเธอก็ไม่อาจจะเรียกได้ว่าเป็น “คอมเมอร์เชียล มิวสิค” แต่เชื่อสิ ... ผู้หญิงคนนี้น่าทำความรู้จัก และงานของเธอก็ควรค่าแก่การมอบเวลาให้
ผลงานเดี่ยว 6 ชุดของ ลอรา ที่สร้างสรรค์ออกมาในเวลา 10 ปี ทั้งหมดได้การตอบรับอย่างดีเยี่ยม โดยถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลสำคัญๆ ของอังกฤษมาตลอด โดยอัลบั้มชุดที่ 3 - Rambling Man ทำให้เธอเป็นเจ้าของรางวัลบริตอะวอร์ดส สาขาศิลปินหญิงเดี่ยวอังกฤษยอดเยี่ยม และรางวัลศิลปินเดี่ยวยอดเยี่ยมจาก เอ็นเอ็มอี อะวอร์ดส ประจำปี 2011 และด้วยงานชุดล่าสุด Semper Femina เธอก็มีชื่อเข้าชิงทั้งแกรมมี่อะวอร์ดส สาขาอัลบั้มโฟล์กยอดเยี่ยม บริตอะวอร์ดสสาขาศิลปินหญิงเดี่ยวอังกฤษยอดเยี่ยม ถึงแม้จะพลาดรางวัลไป แต่นี่ก็แสดงถึงการยอมรับและยกย่อง
ลอรา มาร์ลิง วัย 28 ปี เธอเวียนว่ายในวงการดนตรีอังกฤษมาตั้งแต่เป็นวัยรุ่น เคยทำงานร่วมกับหลายวงดนตรี รวมทั้ง โนอาห์ แอนด์ เดอะ เวล, มัมฟอร์ด แอนด์ ซันส์ ฯลฯ ก่อนจะมีอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกออกมาในปี 2008
หญิงสาวมีความสามารถทั้งทางด้านการร้อง แต่งเพลง และเล่นดนตรีได้หลากหลายชิ้น ความสามารถรวมทั้งรสนิยมทางด้านดนตรีของ ลอรา นั้นก็ต้องให้เครดิตกับคุณพ่อคือ เซอร์ ชาร์ลส วิลเลียม ซอเมอร์เซ็ต มาร์ลิง ซึ่งเป็นเจ้าของห้องบันทึกเสียง และคุณแม่ซึ่งเป็นครูสอนดนตรี
ลอราเรียนกีตาร์ตั้งแต่ยังเป็นเด็กๆ คุณพ่อแนะนำให้เธอรู้จักกับดนตรีโฟล์กตั้งแต่ยังเล็ก ซึ่งมันก็ยังคงไหลเวียนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเธอมาจนถึงวันนี้ ครั้งหนึ่งลอราเคยให้สัมภาษณ์ว่า การได้เรียนรู้และซึมซาบเรื่องดนตรีจากคุณพ่อนั้นมีทั้งแง่บวกและแง่ลบ อย่างหนึ่งคือ เธอไม่มีพื้นที่ว่างสำหรับดนตรีตามเทรนด์หรือตามวัยเหมือนเพื่อนๆ ลอรา เคยบอกกับสื่อว่า ชีวิตเธอนั้นฟังเพลงที่เกิดในระหว่างปี 1969-1972 เท่านั้น!
ตอนเด็กๆ ลอราเรียนในโรงเรียนเคร่งศาสนาที่เรดดิ้ง เธอรู้สึกว่าตัวเองแปลกแยก ไม่เข้าพวกเท่าไร ตอนอายุ 16 ปีหลังสอบจนได้รับวุฒิการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เธอก็เข้าลอนดอนไปอยู่กับพี่สาว และก้าวเดินเข้าสู่วงการเพลง เคลื่อนไหวทำงานไปกับแนวทางดนตรีที่เหล่านักวิจารณ์เรียกว่า “นู-โฟล์ก”
งานของ ลอรา มาร์ลิง ได้รับคำชื่นชมเสมอ แต่ก็ไม่ได้เปรี้ยงปร้างหรือเป็นที่นิยมกว้างขวางนัก กระทั่งอัลบั้มเดี่ยวชุดที่ 3 - A Creature I Don’t Know ที่ออกมาในปี 2011 ซึ่งขึ้นไปสูงถึงอันดับ 4 ในชาร์ตเพลงอังกฤษ ปีต่อมาเธอก็ได้เดินทางไปแสดงที่สหรัฐในฐานะศิลปินเดี่ยว งานชุดต่อมา Once I Was an Eagle ก็ยังคงได้รับการต้อนรับอย่างดี
ลอรา มาร์ลิง เป็นศิลปินที่มีความเฉพาะตัวอย่างสูง เธอทำงานโดยไม่มีเทรนด์ดนตรีใดๆ กำหนด ทุกๆ เพลงของเธอออกมาจากประสบการณ์ซึ่งสั่งสมมา รวมทั้งความคิดสร้างสรรค์ และจินตนาการ
ชีวิตส่วนตัวนั้นเธอก็เป็นคนที่เก็บเนื้อเก็บตัว ไม่วิสาสะกับใครถ้าไม่จำเป็น “แต่ ... ฉันก็รักผู้คนนะ” ลอราให้สัมภาษณ์และโปรโมทงานเพลงตัวเองค่อนข้างน้อย เธอเห็นว่า มันเป็นอันตรายสำหรับศิลปินที่จะต้องไปนั่งวิเคราะห์ตัวเองกับคนอื่นอยู่ตลอดเวลา ถ้าหากอยากรู้จักเธอก็ให้ไปฟังเพลง ซึ่งลอราจะแต่งเพลงเป็นกิจวัตรประจำวัน ระหว่างอัลบั้มเธอจะฝึกฝนกีตาร์อย่างเข้มข้นเป็นเวลา 2-3 เดือนเสมอ ที่ผ่านมาก็มีช่วงเวลาหนึ่งซึ่งลอราเลิกทำงานดนตรี หันไปเป็นครูสอนโยคะ และเคยเดินทางไปใช้ชีวิตที่อเมริกา ช่วงนั้นเหมือนกับการไปเปิดโลกใหม่ๆ ได้ทบทวนครุ่นคิด ก่อนจะกลับมาเพื่อทำในสิ่งที่เธอทำได้ดีที่สุดอีกครั้ง
Semper Femina อัลบั้มชุดที่ 6 ซึ่งถูกเสนอชื่อเข้าชิงแกรมมี่ และหลายสำนักยกย่องให้เป็นหนึ่งในงานเพลงที่ดีที่สุดของปี 2017 งานชิ้นนี้พิสูจน์ว่า เธอคือหนึ่งในศิลปินอังกฤษซึ่งมีความสามารถ เธอมีทั้งพรสวรรค์และพรแสวง มีศิลปะและการฝึกฝนผสมผสานอยู่ในตัว ซึ่งน่าเสียดายที่เธออาจจะเป็นที่รู้จักน้อยไปสักหน่อย แต่ก็นั่นล่ะ เหตุหนึ่งเพราะว่าดนตรีของเธอก็เฉพาะกลุ่มค่อนข้างมาก
ที่ผ่านมา ลอรา มาร์ลิง นำเสนอบทเพลงอะคูสติกโฟล์กอารมณ์เนิบๆ เรียบง่าย ไม่ฉูดฉาดนัก แต่กับผลงานชุดล่าสุด เธอได้ก้าวล่วงเข้าสู่ขอบเขตใหม่ มีซาวด์และสไตล์ซึ่งต่างออกไป แต่ไม่ละทิ้งความเรียบง่ายและโฟล์กที่ยังเป็นหัวใจในการสร้างสรรค์งานของลอราเสมอมา ชุดนี้เธอได้เพิ่มรสชาติของแจ๊ซและร็อกเข้าไป เสียงร้องของเธอยังไพเราะและอ่อนไหว เสียงกีตาร์ของเธอเปี่ยมด้วยความมั่นใจ จากที่กีตาร์เคยเป็นนางเอกก็มีกลอง-เบสเข้ามาแบ่งสัดส่วนความโดดเด่น โดยที่มีเครื่องสายอื่นๆ มาปรุงแต่งให้กลมกล่อม หลายเพลงมีเมโลดี้ที่ติดหูจนไม่อาจจะละไปสนใจอย่างอื่นได้
อัลบั้มนี้บรรจุ 9 เพลง โดยในแบบ DeluxeEdition มี Live Version แถมมาอีก 9 แทร็ก ฟังกันอิ่ม บทเพลงเหล่านี้คือ วิธีที่เธอมองและรู้สึกเกี่ยวกับผู้หญิง ชื่ออัลบั้ม Semper Femina มาจากท่อนตอนหนึ่งของบทกวี Aeneid โดย เวอร์จิล กวีชาวโรมโบราณ ซึ่งแปลว่า “ผู้หญิงที่ไม่แน่นอนและมีความเปลี่ยนแปลงได้” บทเพลงมีกลิ่นอายย้อนยุค ส่วนใหญ่เป็นบัลลาด เล่าเรื่องความเหงา การสำนึกในตัวเอง ความสัมพันธ์ เพศ และความเป็นผู้หญิง เต็มด้วยอารมณ์ มีทั้งนุ่มนวลอ่อนหวาน แต่เมื่อถึงเวลาก็แสดงความแกร่งแรงกล้าออกมาได้ ลีลาการเขียนเพลงของ ลอรา นั้นก็ไม่ต่างกับการร่ายบทกวี เธอเหมือนกับเป็น นีล ยัง หรือ โจนิ มิทเชลล์ แห่งปี 2000
เช่นที่บอกแล้วว่า ลอรา มาร์ลิง คือ หนึ่งในศิลปินอังกฤษที่มีความสามารถ และด้วยอัลบั้ม Semper Femina นี้อาจจะพูดได้ว่า เธอได้ก้าวขึ้นมาสู่จุดสูงสุดแห่งการนำเสนอพลังแห่งการสร้างสรรค์ออกมาเป็นบทเพลง