‘สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์’ ฮับการแพทย์แห่งภาคตะวันออก
ทําไมต้องไปสร้างโรงพยาบาลใหญ่โต ห่างไกลจากกรุงเทพฯ ไกลความเจริญเสียขนาดนั้น?!! เป็นคำถามตามมาติดๆ ทันที ที่มูลนิธิรามาธิบดี ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
เรื่อง ชุติมา สุวรรณเพิ่ม
ทําไมต้องไปสร้างโรงพยาบาลใหญ่โต ห่างไกลจากกรุงเทพฯ ไกลความเจริญเสียขนาดนั้น?!! เป็นคำถามตามมาติดๆ ทันที ที่มูลนิธิรามาธิบดี ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จัดงานแถลงข่าวแสดงความพร้อมการให้บริการ สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ จ.สมุทรปราการ บนพื้นที่กว่า 300 ไร่ โรงพยาบาลขนาด 400 เตียง แห่งใหม่และใหญ่ที่สุดในสมุทรปราการ
เปิดตัวพร้อมกับหนังโฆษณาประชาสัมพันธ์ทางโทรทัศน์ ของมูลนิธิรามาธิบดีฯ ประจำปี 2561 เพื่อหารายได้สมทบทุนโครงการจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ โดยมี ศ.นพ.ปิยะมิตร ศรีธรา คณบดีคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี และประธานคณะกรรมการบริหารมูลนิธิรามาธิบดีฯ นพ.ไพโรจน์ บุญคงชื่น ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ พรรณสิรี คุณากรไพบูลย์ศิริ ผู้จัดการมูลนิธิรามาธิบดีฯ ร่วมแถลงเผยบทบาทของสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ ในฐานะของการเป็นต้นแบบของสถาบันการแพทย์ในอนาคต
พากลุ่มสื่อมวลชนนำชมหอผู้ป่วยในศูนย์รังสีวินิจฉัย แผนกเวชศาสตร์ฟื้นฟู ซึ่งประกอบด้วย ห้องหุ่นยนต์ฝึกเดิน ห้องธาราบำบัด โชว์นวัตกรรมการแพทย์ล้ำทันสมัย
คนป่วยไข้ภาคตะวันออกไม่ต้องเข้ากรุงแล้ว
ความเป็นมาของสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล หัวเรือใหญ่ ศ.นพ.ปิยะมิตร ศรีธรา คณบดีคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี และประธานคณะกรรมการบริหารมูลนิธิรามาธิบดีฯ กล่าวว่า ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่มีพระราชประสงค์ให้มีสถานพยาบาลหรือโรงพยาบาลของรัฐขนาดใหญ่ระดับโรงเรียนแพทย์ขึ้นที่ จ.สมุทรปราการ
ปลายปีที่ผ่านมา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานในพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ
“พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระราชประสงค์ให้มีสถานพยาบาล หรือโรงพยาบาลของรัฐขนาดใหญ่ระดับโรงเรียนแพทย์ สร้างขึ้นที่ จ.สมุทรปราการ เพื่อตรวจรักษาประชาชนบริเวณจังหวัดนี้ ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่มาจากต่างจังหวัด เพื่อประกอบอาชีพในโรงงานอุตสาหกรรมที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ตลอดจนถึงประชาชนในบริเวณใกล้เคียงรวมถึงจังหวัดชายฝั่งตะวันออก ตั้งแต่ จ.ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี และสระแก้ว ล้วนเป็นย่านเมืองนิคมอุตสาหกรรมหลายๆ จังหวัด
เนื่องจากในปัจจุบันโรงพยาบาลส่วนใหญ่ในสมุทรปราการเป็นโรงพยาบาลเอกชน ประชาชนซึ่งมีรายได้น้อยก็ไม่สามารถเข้าถึงบริการของโรงพยาบาลเอกชนเหล่านี้ได้”
ศ.นพ.ปิยะมิตร หัวเรือใหญ่อธิบายถึงจุดเริ่มต้นฯ และกล่าวต่อไปว่า ที่นี่เป็นต้นแบบการสาธารณสุขของไทย ทั้งในด้านการตรวจรักษา และการผลิตบัณฑิตทางสาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์หลากหลายสาขา เพื่อเป็นผู้นำความเปลี่ยนแปลงด้านการวิจัย จะมีการสร้างงานวิจัยที่มีคุณภาพ มุ่งเป้าเพื่อแก้ไขปัญหาสาธารณสุขของประเทศอย่างตรงจุด
“ในปีนี้ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี และมูลนิธิรามาธิบดีฯ จะผสานกำลังอย่างเข้มแข็ง และมุ่งมั่นในการพัฒนาศักยภาพ เพื่อเป็นกำลังหลักสำคัญในการพัฒนาประเทศด้านการสาธารณสุขต่อไป”
นพ.ไพโรจน์ บุญคงชื่น ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ แนะนำภายในสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ ประกอบด้วย โรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ ศาลาประชาคม ศูนย์การเรียนรู้ อาคารปฏิบัติการและวิจัย อาคารนันทนาการ กลุ่มหอพัก และอาคารจอดรถ
โรงพยาบาลขนาดใหญ่มีจำนวนเตียงที่รองรับผู้ป่วยในได้มากถึง 460 เตียง เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณผู้ป่วยในแต่ละปี ซึ่งประมาณการจำนวนผู้ป่วยนอกไว้ที่ 1 ล้านราย และผู้ป่วยใน 1.7 หมื่นราย/ปี
“ปัจจุบันเปิดให้บริการในส่วนของคลินิกผู้ป่วยนอกในเวลาปกติ คลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ เวชศาสตร์ฟื้นฟู หอผู้ป่วยใน โดยจะเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในเดือน มิ.ย.นี้
ภายในแผนกเวชศาสตร์ฟื้นฟู มีไฮไลต์อย่าง สระธาราบำบัด ทางเลือกในการรักษาทางกายภาพบำบัดด้วยระบบน้ำและเทคโนโลยีล่าสุด เช่น เครื่องออกกำลังกายในน้ำ (Strider) ระบบกระแสน้ำ (Jet Stream) เพื่อช่วยในการออกกำลังกายและผ่อนคลายกล้ามเนื้อ มีเครื่องช่วยพยุงตัวในน้ำ ราวคู่ขนานสำหรับฝึกเดิน (Parallel Bar) และอุปกรณ์สำหรับออกกำลังกายในน้ำ โดยมีนักกายภาพบำบัดเป็นผู้ให้การรักษา ควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด และหุ่นยนต์ฝึกเดิน (G-EO system) นวัตกรรมใหม่ในการฝึกผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านกล้ามเนื้ออ่อนแรง โรคอัมพฤต อัมพาต หรือผู้ที่มีปัญหาทางด้านการเดิน เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เร็วขึ้น
โรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ ได้รับการพัฒนาการรักษาให้เป็นแบบบูรณาการ คือ ยึดผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง โดยให้แพทย์หลายสาขาที่เกี่ยวข้องในกลุ่มโรคออกตรวจในเวลาเดียวกัน เพื่อผู้ป่วยจะไม่ต้องพบแพทย์หลายวัน เช่น โรคเบาหวาน มักจะมีโรคอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น โรคไตวาย โรคหลอดเลือดหัวใจ สมองตีบ ฯลฯ
มีนักโภชนาการพร้อมให้คำปรึกษาด้านอาหาร นอกจากนี้ ยังสามารถส่งตัวผู้ป่วยที่ต้องการการรักษาที่ซับซ้อนมากขึ้นมาที่โรงพยาบาลรามาธิบดี พญาไท
ไม่เพียงเป็นความหวังและที่พึ่งพิงใหม่ของประชาชนในด้านการรักษา สถาบันจักรีนฤบดินทร์ยังเป็นโรงเรียนสำหรับนักศึกษาแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ในหลักสูตรต่างๆ ได้แก่ แพทยศาสตรบัณฑิต พยาบาลศาสตรบัณฑิต และวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาความผิดปกติของการสื่อความหมาย ซึ่งเป็นเพียงหลักสูตรเดียวในประเทศไทยที่มีในโรงเรียนแพทย์
โดยความพร้อมจะเริ่มเปิดสอนอย่างเต็มรูปแบบในปี 2564 คาดว่าจะสามารถผลิตบัณฑิตแพทย์ได้ปีละ 212 คน บัณฑิตพยาบาลปีละ 250 คน และบัณฑิตในสาขาความผิดปกติของการสื่อความหมายปีละ 50 คน”
ทุกคนมีส่วนร่วมต่อชีวิตคนไข้ได้
ศูนย์กลางการระดมทุนเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มีมาเป็นเวลากว่า 49 ปีแล้ว จึงขาดคนทำงานคนนี้ไปไม่ได้ พรรณสิรี คุณากรไพบูลย์ศิริ ผู้จัดการมูลนิธิรามาธิบดีฯ เผยในปีนี้มีโฆษณาประชาสัมพันธ์ทางโทรทัศน์ชุดใหม่ และมีกิจกรรมระดมทุนของมูลนิธิรามาธิบดีฯ ตลอดทั้งปี เพื่อหารายได้สมทบทุนการจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์
นักแสดงจิตอาสาไม่เลือกสังกัด ไม่เลือกค่าย ธงไชย แมคอินไตย์ สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว แอน ทองประสม อรรคพันธ์ นะมาตร์ ฝนทิพย์ วัชรตระกูล โดยมีผู้กำกับมิวสิควิดีโอแถวหน้าของเมืองไทย ดล ผดุงวิเชียร กำกับโฆษณาประชาสัมพันธ์ชุด “อุปกรณ์ทางการแพทย์” แสดงโดยขวัญใจมหาชน พี่เบิร์ด ธงไชย เผยแพร่ผ่านทางหน้าจอทีวี เว็บไซต์ และยูทูบ ของมูลนิธิรามาธิบดีฯ
“คลิกไปชมกันได้แล้วนะคะ หนังที่พี่เบิร์ดแสดงกับมูลนิธิรามาธิบดีฯ เรามุ่งหวังให้คนไทยได้มีส่วนร่วมในการบริจาคเงินจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ สำหรับใช้เพื่อการตรวจ วินิจฉัย และรักษาโรคต่างๆ เช่น กล้องส่องตรวจปอดและหลอดลม เครื่องเอกซเรย์ระบบดิจิทัลต่างๆ ซึ่งต้องใช้งบประมาณอีกกว่า 1,400 ล้านบาทเลยค่ะ โดยเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์เหล่านี้ เป็นปัจจัยสำคัญในการส่งเสริมการรักษาพยาบาลให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดแก่ผู้ป่วย
การจัดกิจกรรมระดมทุนในรูปแบบต่างๆ จึงมีตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นการร่วมบริจาคเงินสมทบทุนในกิจกรรม ใช้ชื่อว่า ‘Happy Give Day ให้วันเกิดต่อชีวิตคนนับล้าน’ ปีนี้จัดงานไปเมื่อวันศุกร์ที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่ลานบีทีเอส หน้าศูนย์การค้าสยามสแควร์วัน ชวนส่งต่อแนวคิดให้วันเกิดในปีนี้พิเศษกว่าทุกๆ ปี มีส่วนร่วมต่อลมหายใจให้กับผู้ป่วย ผ่านการสนับสนุนของที่ระลึกประจำเดือนเกิด เสื้อยืด กระเป๋า ผ้าพันคอ ที่ได้ลายเส้นจาก 12 นักวาดภาพประกอบและศิลปินจิตอาสาของไทย
ตามด้วยผลงานดีไซน์คอลเลกชั่น‘ไทย ไทย’ ของ 4 ศิลปินจิตอาสา ม.ล.จิราธรจิรประวัติ สมนึก คลังนอก ภัทรีดา-นวลตองประสานทอง สร้างสรรค์ความพิเศษสำหรับคู่รักในวันแต่งงาน กับของที่ระลึกแบบไม่ซ้ำใคร และส่งท้ายปลายปี กับการรวมตัวกันของไทยดีไซเนอร์ ผลิตของที่ระลึก ซึ่งมีกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากปีที่ผ่านๆ มาค่ะ”
พรรณสิรี ฝากไว้ว่าเดือน มิ.ย.นี้ จะมีภาพยนตร์ประชาสัมพันธ์ชุด “ต่อชีวิต” สร้างสรรค์ขึ้นโดย ธนญชัย ศรศรีวิชัยผู้กำกับโฆษณาระดับโลก บอกเล่าเรื่องราวที่สะท้อนแนวคิดสำคัญของการสร้างโรงพยาบาล สร้างหมอ เพื่อต่อชีวิตผู้คนอีกหลายล้านคนที่รอความหวังในการรักษา
นักแสดงจิตอาสา ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ มีร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการประชาสัมพันธ์ เพื่อระดมทุนกับมูลนิธิรามาธิบดีฯ นางเอกทำมาเป็นเวลา 10 ปีแล้ว เผยความรู้สึกปลาบปลื้มยินดีที่มีโอกาส ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ได้มาเยือนสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์
“แอฟร่วมเป็นหนึ่งในนักแสดงจิตอาสาในไวรัล คลิป ถ่ายทอดเหตุการณ์จากชีวิตจริงของผู้ป่วยที่รอดชีวิตด้วยความช่วยเหลือของบุคลากรทางการแพทย์ และอุปกรณ์การแพทย์ที่ได้มาจากเงินบริจาคผ่านมูลนิธิรามาธิบดีฯ ซึ่งเราไม่มีทางรู้เลยว่า เงินเหล่านั้นจะช่วยต่อชีวิตผู้อื่นในอนาคต ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือและต่อลมหายใจได้ ด้วยการร่วมบริจาคตามกำลังที่เรามี เพียงคนละเล็ก คนละน้อยนะคะ แต่เมื่อรวมกันหลายๆ คน ก็จะเป็นพลังการให้ที่ยิ่งใหญ่แล้วค่ะ”
สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ใช้งบประมาณการก่อสร้างทั้งสิ้น 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งแม้ว่าจะได้รับการสนับสนุนงบประมาณส่วนหนึ่งจากรัฐบาล รวมทั้งเงินบริจาคผ่านมูลนิธิรามาธิบดีฯ เป็นจำนวนมาก แต่ยังคงไม่เพียงพอต่อการจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์เฉพาะทาง ที่มีเทคโนโลยีทางการรักษาอันทันสมัย และมีราคาสูงให้เพียงพอต่อการรองรับผู้ป่วยที่จะเข้ามารับบริการรักษาพยาบาลจำนวนมากได้
การบริจาคผ่านมูลนิธิรามาธิบดีฯ สมทบทุนเพื่อสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ โรงพยาบาลรามาธิบดีแห่งใหม่โดยสามารถบริจาคได้ที่บัญชีมูลนิธิรามาธิบดีฯ ธนาคารไทยพาณิชย์ บัญชีกระแสรายวัน สาขารามาธิบดี เลขที่บัญชี 026-3-05216-3 ธนาคารกรุงเทพ บัญชีกระแสรายวัน สาขาศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตน์ (รพ.รามาธิบดี) เลขที่บัญชี 090-3-50015-5 เข้าชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ramafoundation.or.th หรือโทร. 02-201-1111
จากประโยคเชิญชวนระดมเงินบริจาคปีที่ผ่านมา “คำว่าให้...ไม่สิ้นสุด” และสำหรับปีนี้ “แม้ไม่ใช่หมอ แต่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการต่อชีวิต...ให้ผู้ป่วยได้อีกหลายล้านคน” เราทุกคนก็เป็นผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงในระบบสุขภาพของประเทศไทยได้