Mensooree Okinawa 1
การเดินทางในครั้งนี้เราจะพาทุกท่านไปเที่ยวยังเกาะสวรรค์ทางใต้สุดของประเทศญี่ปุ่น ยินดีต้อนรับสู่โอกินาวา
เรื่อง พัฒนวีร์
ก่อนอื่นขอกล่าวทักทายทุกท่านด้วยคำว่า Haisai ที่แปลว่า สวัสดีครับ ในภาษาโอกินาวา ส่วนสุภาพสตรีจะใช้คำว่า Haitai หรือ สวัสดีค่ะ ที่เริ่มทักทายกันแบบนี้เพราะการเดินทางในครั้งนี้เราจะพาทุกท่านไปเที่ยวยังเกาะสวรรค์ทางใต้สุดของประเทศญี่ปุ่น จุดหมายปลายทางยอดนิยมที่สุดในหน้าร้อน ดินแดงแห่งชายหาดขาว ทะเลสีเขียวมรกต และท้องฟ้าสีคราม แถมด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของอาณาจักรริวกิว ที่โดดเด่นเฉพาะตัว ผสมประสานรวมความเป็นเอเชีย ญี่ปุ่น และตะวันตก ในยุคหลังสงครามโลกไว้ด้วยกัน ทำให้เกาะเล็กๆ แห่งนี้อัดแน่นไปด้วยความน่าสนใจ ถ้าเช่นนั้นจะรอช้าอยู่ไย Mensooree!! ยินดีต้อนรับสู่โอกินาวาครับ
ทริปนี้เราเดินทางท่องเที่ยวในเกาะใหญ่ของโอกินาวาทั้งหมด 6 วัน ใช้การเดินทาง 2 รูปแบบ โดยในช่วง 4 วันแรก มีผู้ใหญ่ใจดี บริษัท Jumbo Tours เจ้าของ Hiphop Bus ในโอกินาวา ให้ไปถ่ายทำรายการ Japan Origin ที่จะนำเสนอการท่องเที่ยวแบบ One Day Bus Tour เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไปเอง และอีก 2 วันหลัง เราเปลี่ยนไปเช่ารถขับกัน เริ่มต้นเดินทางจากกรุงเทพฯ ถึงโอกินาวา เราใช้บริการของสายการบิน Peach Aviation ซึ่งเป็นสายเดียวที่บินตรง ใช้เวลาบินทั้งหมด 4 ชั่วโมง เราก็มาถึงสนามบิน Naha สนามบินหลักของเกาะโอกินาวาในเวลาเช้าตรู่ หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว ก็เดินทางไปขึ้นรถบัสที่ Kenmin Hiroba ในเมืองนาฮะ เมืองหลักของเกาะโอกินาวา ยืนรอไม่นานรถบัสสีเขียวก็มาจอดเทียบ คุณไกด์ลงมาต้อนรับพวกเราด้วยภาษาอังกฤษที่ฟังง่ายกว่าคนญี่ปุ่นทั่วไป หลังนำสัมภาระเก็บใต้ท้องรถเรียบร้อยก็ขึ้นรถบัส มองไปมีแต่นักท่องเที่ยวหัวดำทั้งชาวญี่ปุ่น ไต้หวัน ฮ่องกง และเวียดนาม พอรถออกคุณไกด์ก็แนะนำให้ทราบกันก่อนว่าจะไปไหนบ้าง ใช้ระยะเวลาเท่าไร หลังจากนั้นก็แจกสติ๊กเกอร์ติดเสื้อเพื่อแสดงตน และน้ำเปล่าคนละขวดแก้กระหาย พร้อมทั้งเครื่องแปลภาษาที่แนะนำรายระเอียดสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งมีภาษาไทยรวมอยู่ด้วย สะดวกมากๆ
รถบัสมุ่งขึ้นตอนเหนือของเกาะมาได้ราวหนึ่งชั่วโมง ก็มาถึงยังสถานที่แรก สวนสับปะรดนาโกะ Nago Pineapple Park ในเมืองนาโกะ ที่มีบรรยากาศแบบ Tropical คุณไกด์นัดหมายเวลาเรียบร้อยก่อนลงเที่ยว ข้อดีของการมากับบัสทัวร์ คือไม่ต้องต่อคิวซื้อตั๋ว คุณไกด์เตรียมไว้แจกให้เราตอนลงเรียบร้อย เดินเข้าไปในอาคารที่เป็นทางเข้าก็จะได้ยินเพลงภาษาญี่ปุ่นน่ารักๆ เปิดคลอรอต้อนรับนักท่องเที่ยว จุดแรกหลังผ่านประตูเข้ามาเป็นจุดขึ้นรถชมสวน โดยใช้รถกอล์ฟสีเหลืองสดมีสับปะรดประดับอยู่ด้านบน ใครที่ขับรถไม่เป็นไม่ต้องกังวลเพราะเป็นรถอัตโนมัติที่จะพาทุกท่านซอกแซกไปยังจุดต่างๆ สวนแห่งนี้ถูกสร้างให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวขนาดเล็ก
สวนสับปะรด
เนื่องจากสับปะรดที่เป็นพืชเศรษฐกิจของโอกินาวาเกิดภาวะล้นตลาด แถมมีการแข่งขันสับปะรดนำเข้าจากต่างประเทศอีกด้วย ในสถานการณ์แบบนี้การแข่งกันลดราคามีแต่สร้างความเสียหาย จึงใช้วิธีสร้างความน่าสนใจเพื่อส่งเสริมความรู้เรื่องสับปะรดท้องถิ่นให้มากขึ้น
เส้นทางของรถกอล์ฟพาเราไปพบหลากหลายพันธุ์ไม้ของป่าร้อนชื้น น้ำตกขนาดใหญ่ นั่งชมเพลินๆ ไปจนสุดทางจะเจอกับไร่สับปะรด รถกอล์ฟพาเราบุกเข้าสู่กลางไร่ จนเห็นต้นสับปะรดได้ในระยะใกล้ วิ่งไปจนสุดทางที่คาเฟ่น่ารักๆ มีของหวานที่ทำจากสับปะรดจำหน่าย ทั้งชูครีม เค้กสับปะรด แต่ที่นิยมที่สุด คือ ซอฟต์ครีมสับปะรดหวานอมเปรี้ยวแสนชื่นใจ จากคาเฟ่เราสามารถเดินออกไปถ่ายรูปกลางไร่สับปะรดได้ด้วย ภายในสวนยังมีร้านขายของฝากที่ทำจากสับปะรด อาทิ ไวน์ น้ำสับปะรด เค้ก ช็อกโกแลต สับปะรดอบแห้ง รวมทั้งสับปะรดสด แต่ที่น่าสนใจที่สุด คือ ถ่านที่ทำจากสับปะรด ช็อปปิ้งเสร็จก็รีบเดินกลับรถบัส เพราะถึงเวลานัดพอดี
ระหว่างเดินทางคุณไกด์ของเราได้หยิบเครื่องดนตรีลักษณะคุ้นตาขึ้นมาแนะนำว่า มันคือ Sanshin หรือพิณสามสาย เครื่องดนตรีพื้นเมืองของโอกินาวา ใครเคยฟังเพลง Nada Sou Sou ก็จะได้ยินเสียงเครื่องดนตรีชนิดนี้ในเพลงด้วย ฟังไกด์เล่าเพลินๆ ครู่เดียวรถบัสก็นำเรามายังสะพานโคริ Kouri Ohashi ที่มีความยาวถึง 1,960 เมตร เชื่อมเกาะใหญ่กับเกาะโคริเข้าด้วยกัน ระหว่างที่วิ่งข้ามสะพานคุณไกด์ได้เซอร์ไพรส์พวกเราด้วยการดีด Sanshin ประกอบการร้องเพลงพื้นเมืองขับกล่อมให้ฟัง ควบคู่ไปกับการชมทัศนียภาพของทะเลที่สวยงามจากสองฝั่งหน้าต่างรถบัสจนสุดทาง ก่อนจะมาจอดให้ลงบริเวณเชิงสะพานด้านเกาะโคริ เพื่อไปเดินเล่นและถ่ายภาพบริเวณหาดทรายสีขาว ซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะให้นักท่องเที่ยวมาทำกิจกรรมทางน้ำได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นนอนอาบแดด ขี่เจ็ตสกี หรือเล่นน้ำ นอกจากความสวยงามของชายหาดและน้ำทะเลแล้ว
เกาะโคริแห่งนี้มียังเรื่องราวที่น่าสนใจมาก คือ สมัยก่อนเกาะแห่งนี้มีชื่อว่า เกาะคุอิ เป็นภาษาดั้งเดิมแปลว่า เกาะแห่งความรัก เนื่องจากตำนานของอดัมกับอีฟในแบบฉบับของโอกินาวาที่เล่าขานกันมาช้านาน เรื่องมีอยู่ว่า ก่อนจะเกิดมนุษยชาติ เทพเจ้าได้ส่งเด็กชายหญิงคู่หนึ่งลงมาจากสวรรค์ โดยไม่มีเสื้อผ้าอาภรณ์ และไม่ต้องออกหาอาหารใดๆ เพราะจะมีฝนโมจิที่เทพเจ้าบันดาลลงมาจากสวรรค์ให้ทุกวัน พวกเขาอาศัยอยู่อย่างมีความสุขเป็นเวลาหลายปี โดยกินเพียงโมจิที่ตกลงมาจากฟ้า แต่เมื่อเวลาผ่านไปเด็กทั้งสองโตขึ้น จึงเริ่มตั้งคำถามว่า ถ้าวันหนึ่งโมจิไม่ตกลงมาจากสวรรค์จะทำเช่นไร พวกเขาจะอดตายหรือไม่ จึงคิดที่จะเก็บสะสมโมจิไว้กิน และทันทีที่ทั้งสองเริ่มสะสม โมจิก็ไม่ตกลงมาจากสวรรค์อีกเลย แม้ว่าทั้งคู่จะอ้อนวอนต่อเทพเจ้าเพียงใดก็ไม่ได้ผล เมื่อไม่มีทางเลือกพวกเขาจึงออกทะเลไปจับปลาและสัตว์น้ำเพื่อประทังชีพ และเริ่มเรียนรู้การใช้ชีวิตมากขึ้น อยู่มาวันหนึ่งทั้งสองได้พบเห็นพะยูนกำลังผสมพันธุ์ในทะเล จึงสังเกตเห็นความแตกต่างระหว่างเพศจึงเกิดความอับอาย พวกเขาเลยหาเปลือกหอยและใบไม้มาปิดบังร่างกายเอาไว้ นอกจากนี้ก็ยังได้เรียนรู้ว่าพะยูนมีจำนวนเพิ่มขึ้นโดยการผสมพันธุ์ ทำให้อดัมกับอีฟแห่งโอกินาวาเลียนแบบจนมีลูกหลานเพิ่มขึ้น และคนโอกินาวา ก็คือ ลูกหลานของทั้งคู่นั่นเอง