posttoday

เสน่ห์ผ้าทอไทย แฟชั่นที่ลงตัว

31 ตุลาคม 2561

จากการมองเห็นคุณค่าของฝีมือความประณีตของคนไทยกับเอกลักษณ์ความเป็นไทยที่ไม่แพ้ชาติใดในโลก จึงทำให้เกิดโครงการ Thailand Cotton Day

เรื่อง อณุสรา ทองอุไร ภาพ สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม

จากการมองเห็นคุณค่าของฝีมือความประณีตของคนไทยกับเอกลักษณ์ความเป็นไทยที่ไม่แพ้ชาติใดในโลก จึงทำให้เกิดโครงการ Thailand Cotton Day โครงการผ้าทออีสานสู่สากล หรือ The Wonder of Weaving หรือเรียกสั้นๆ ว่า ว้าว...อีสาน “W.o.W E-Sarn” โดยเป็นความร่วมมือกันระหว่างกรมการพัฒนาชุมชนและสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ISMED) ที่เล็งเห็นมนต์เสน่ห์บนผืนผ้าของผ้าทอไทย ที่ไม่แพ้ชาติใดในโลก

บวกกับลวดลายการออกแบบบนผืนผ้าที่ลงตัว กับสีสันที่สวยงามพร้อมกับเอกลักษณ์วัฒนธรรมของชาวอีสาน ช่วยทำให้ผ้าทออีสานของไทยมีเสน่ห์ที่หาตัวจับได้ยาก และจะเห็นได้จากปัจจุบันที่เหล่าดีไซเนอร์แบรนด์ดังระดับโลกลงลุยพื้นที่ เสาะหาผ้าทอไทยกันถึงหลังบ้านสาวอีสานเพื่อหาผ้าออกคอลเลกชั่นใหม่ที่ไม่เหมือนใครออกโชว์สู่สายตาชาวโลก

ปัจจุบันนี้เริ่มมีเหล่าดีไซเนอร์แบรนด์ดังระดับโลก นำความเป็นไทยไปประยุกต์ออกแบบกับคอลเลกชั่นใหม่สู่สายตาชาวโลกอาทิ แบรนด์กระเป๋า Balenciaga ที่ออกแบบกระเป๋าคล้ายถุงกระสอบสีรุ้งของไทยเรา หรือแบรนด์ Marni ที่ออกแบบคอลเลกชั่นกระเป๋าลายกระสอบไทย หรือจะเป็นเดรสสไตล์ม้ง ด้วยซิลลูเอทและสีสันสดใสจากแบรนด์ Eponine London บวกกับดีเทลสไตล์ชาวเขาเผ่าม้ง ไทยอินเทรนด์ฮิตติดลมบน ที่เรียกว่า ฮิตติดลมบนกันเลยทีเดียว หรือแม้แต่ดารา Blogger ไทยก็ยังหันมานิยมแต่งตัวด้วยผ้าไทยกันจำนวนไม่น้อย

เพื่อให้เสน่ห์ผ้าทอไทยเป็นที่รู้จักแพร่หลายแก่สายตาชาวโลกมากยิ่งขึ้น จึงได้มีการจัดโครงการดังกล่าวขึ้น เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการโอท็อปจำนวน 500 ราย จาก 20 จังหวัดทั่วอีสาน ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีชื่อเสียงในการผลิตผ้าไหม ผ้าฝ้าย ผ้าทอมือชั้นยอดของประเทศไทย และยังสามารถส่งออกผ้าทอร่วมสมัยของไทยไปยังต่างประเทศต่างๆ มากมาย นำมาพัฒนาประยุกต์ให้สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้นเข้ากับรูปแบบที่ทันสมัย ที่มีเสน่ห์ของความเป็นสากลมากยิ่งขึ้น แต่ยังคงเอกลักษณ์ของความเป็นผ้าทออีสานได้อย่างงดงาม กับการสร้างสรรค์คุณค่าใหม่ ที่เพิ่มคุณค่าให้กับผ้าทอไทยให้เพิ่มมูลค่าของสินค้าได้อย่างดี กลายเป็นผลงาน 500 คอลเลกชั่นขึ้นมา

ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย ของใช้ในบ้าน ของตกแต่งบ้าน ของฝาก ของที่ระลึกจากผ้าฝ้าย นำการจัดแสดง Cotton House โชว์ผ้าทอ ผ้าฝ้ายร่วมสมัยนานาชนิด เสื้อผ้าแฟชั่น มีทั้ง Street Style ถึงแนว Modern ของใช้ในบ้านมากมาย ที่มีสไตล์สวยงามแตกต่างจากรูปแบบเดิม ที่ไม่ว่าจะนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน หรือนำไปเป็นของฝากแก่ชาวต่างชาติ หรือแม้แต่นำมาตกแต่งบ้านก็สามารถสร้างความโดดเด่นได้แบบไม่ซ้ำใคร และบ่งบอกถึงความสวยงามและความประณีตผ่านฝีมือคนไทยสะท้อนสู่ลวดลายผ้าทอไทยร่วมสมัยที่บอกเหล่าถึงเอกลักษณ์ของความเป็นไทยได้เป็นอย่างดี

เสน่ห์ผ้าทอไทย แฟชั่นที่ลงตัว

นิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า “พร้อมปั้นฝ้ายไทย Cotton Thailand สู่ตลาดโลกขับเคลื่อนงานตามแนวนโยบายการพัฒนาของรัฐบาล สร้างเศรษฐกิจฐานราก สร้างปรากฏการณ์ใหม่พลิกโฉมผ้าทออีสานสู่สากล”

โครงการนี้จึงมีความสำคัญที่จะเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญตอบสนองโครงการไทยนิยมยั่งยืน ทางกรมจึงได้วางทิศทาง หรือ Road Map การพัฒนาสำหรับสินค้ากลุ่มผ้าฝ้าย ไว้เป็น 3 ระยะ คือช่วงที่หนึ่ง เป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพ ดีไซน์ร่วมสมัย ได้มาตรฐานและเป็นที่ยอมรับของตลาดทุกระดับ ช่วงที่สอง การขยายไปสู่การพัฒนาทั้งซัพพลายเชน ผู้ผลิตฝั่งต้นน้ำและกลางน้ำ และช่วงที่สาม การเชื่อมโยงฝั่งต้นน้ำตั้งแต่การปลูก การผลิตเส้นฝ้ายเชื่อมโยงมาถึงกลางน้ำ ผู้ผลิต ผู้แปรรูป รวมทั้งฝั่งตลาดผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ รวมไปถึงการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์คอตตอนไทยแลนด์ สำหรับผู้ชื่นชอบฝ้ายไทยสามารถพบกับคอลเลกชั่นใหม่ๆ My Fai My Style ได้ที่บ้านฝ้าย สุขสยาม ศูนย์การค้าไอคอนสยามในปลายปีนี้ ส่วนทางออนไลน์จะทำแคมเปญ “ของนี้…ต้องจอง”

เพื่อตอกย้ำจากกระแสตอบรับจากมหานครเมืองเซี่ยงไฮ้ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นปารีสแห่งตะวันออก ที่ทางกรมการพัฒนาชุมชนร่วมกับหอการค้าไทยในจีน นำทัพผู้ประกอบการโอท็อปไปทดสอบตลาด เมื่อวันที่ 1-5 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี พร้อมยังได้รับคำชื่นชมจากนักออกแบบชั้นแนวหน้าของประเทศจีน คุณหยี่ เฉิง (Ji Cheng) กับ Collection ใหม่ที่ผลิตขึ้นมา ผู้ประกอบการบางรายยังถูกทาบทามให้มาแสดงแฟชั่นโชว์ชั้นสูงของเมืองเซี่ยงไฮ้ ที่เรียกว่าจะเข้าไปสู่เวทีระดับนี้ได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีเดียว

เสน่ห์ผ้าทอไทย แฟชั่นที่ลงตัว

จากการสร้างคุณค่าให้ผ้าทอไทยในครั้งนี้ นอกจากจะเพิ่มเสน่ห์ เพิ่มโอกาส และเพิ่มคุณค่าให้ผ้าทอไทยแล้ว ยังเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์ฝ้ายไทยสูงขึ้นอีกด้วย และจะเห็นได้ว่านอกจากจะมีคุณค่ามากขึ้นแล้ว ผ้าฝ้ายยังสามารถใช้ได้ทุกวาระทุกโอกาส ดูแลรักษาง่าย ใส่สบาย และยังสามารถนำมาดัดแปลง ออกแบบเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้ ที่เพิ่มโอกาสในการโปรโมทผ้าทอไทย และโอกาสในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นอีกด้วย

คราวนี้คงจะได้เห็นผ้าทอร่วมสมัยของไทย โบยบินสู่เวทีแฟชั่นระดับโลกที่จะทำให้ชาวต่างชาติรู้จักผ้าทอไทยและประเทศไทยได้เป็นอย่างดี หรือเราอาจจะได้เห็นดีไซเนอร์ระดับโลกนำผ้าทอของไทย ได้ไปออกแบบเสื้อผ้าบนเวทีระดับโลกในอนาคตข้างหน้าก็เป็นได้ เอกลักษณ์ความเป็นไทยกับฝีมือคนไทยนั้น นอกจากจะมีเสน่ห์แล้วยังไม่แพ้ชาติใดในโลก สาวไทยจะได้มีเสื้อผ้าที่ผลิตจากผ้าทอติดไว้ในตู้เสื้อผ้าต้อนรับเทรนด์ใหม่ที่กำลังจะมาแรงในอนาคตอันใกล้นี้

นุ่น-ศิรพันธ์ วัฒนจินดา นักแสดงสาวที่ชอบสวมใส่ผ้าฝ้ายไทยอยู่เสมอ บอกว่าเธอเกิดและเติบโตมาทางภาคเหนือ คุณแม่คุณป้า คุณน้า คุณยายล้วนใส่ผ้าไทยในชีวิตประจำวันเห็นแล้วก็รู้สึกชอบและผูกพันมาตั้งแต่เด็กๆ

“ทำให้นุ่นใส่ผ้าไทยมาตลอด แต่นุ่นจะพยายามมามิกซ์แอนด์แมตช์ให้เข้ากับการแต่งกายหรือการไปงานของเราในแต่ละวัน ซึ่งคนมักจะชมว่าสวยทุกครั้ง (ยิ้ม) ที่คิดว่าใส่ผ้าไทยแล้วแก่นุ่นว่าไม่จริงอยู่ที่เราเลือกมากกว่า แล้วผ้าทอผ้าฝ้ายของไทยช่วงหลังๆ มานี้ ทั้งลวดลาย การออกแบบและคุณภาพมีความสวยงามทันสมัยขึ้นมาก อีกทั้งยังใส่สบายเหมาะกับอากาศของประเทศร้อนอย่างบ้านเรา

เสน่ห์ผ้าทอไทย แฟชั่นที่ลงตัว

ที่สำคัญได้ส่งเสริมสินค้าไทย ใช้ของไทยเงินหมุนเวียนอยู่ในประเทศไทยช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของชุมชนให้ดีขึ้นด้วยแถมช่วยกันคงเอกลักษณ์ความเป็นไทย รักษาคุณค่าทางวัฒนธรรมเอาไว้ การทอผ้าแต่ละผืนมีเรื่องราวมีความเป็นมา เป็นงานแฮนด์เมดอย่างแท้จริง อยากให้เปิดใจแล้วหันมาใส่ผ้าฝ้ายไทยกันบ้างนะคะ”

บุญเพ็ญ พรหมดงเดช แบรนด์เส้นไหมใบหม่อน จาก จ.อำนาจเจริญ ทอผ้าเป็นผืนจากผ้าฝ้ายมัดหมี่ย้อมโคลน บอกว่าทางจังหวัดให้โอกาสแนะนำเสนอชื่อเข้าร่วมโครงการและอยากพัฒนากลุ่มของเราที่เริ่มจากศูนย์เพื่อจะให้ได้รู้ว่าเราทำผ้าไหมพื้นบ้านแต่เราสามารถทำ
ผ้าฝ้ายได้ไม่น้อยหน้าผ้าไหมเลย โครงการนี้ช่วยต่อยอดให้ได้รู้เรื่องผ้า การตลาด สี เทรนด์ ทุกอย่างผสมผสานว่าตลาดต้องการแบบไหน

เสน่ห์ผ้าทอไทย แฟชั่นที่ลงตัว

ด้าน อุไร สัจจะไพบูลย์ แบรนด์ hattra จาก จ.อุดรธานี กลุ่มผ้าฝ้ายและไหมที่เป็นกรีนโปรดักต์ระดับดีเยี่ยมแห่งที่ 5 ของประเทศไทย และเป็นศูนย์เรียนรู้ผ้าทอมือที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแห่ง 7 ของประเทศไทย หันมาให้ความสำคัญกับขั้นตอนการผลิตเพราะคิดว่าเทรนด์แฟชั่นต้องใช้สีธรรมชาติ เมื่อได้มาทำผู้ผลิตก็สุขภาพดีกว่าเดิม เลยมาสนใจทำกรีนโปรดักต์ เป็นการใส่ใจการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และอยากทำตลาดต่างประเทศ ตลาดจีนซึ่งได้ไปรู้มาว่าเป็นตลาดที่ใหญ่มาก แค่มุ่งมั่นจะทำให้ดี ถูกใจตลาด มันคุ้มค่าโดย
ไม่ต้องขวนขวายที่อื่น เป็นตลาดคนรุ่นใหม่ ออกแบบผ้าให้เป็นร่วมสมัยและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นแนวกรีนโปรดักต์ ซื่อสัตย์กับลูกค้าและงานที่ทำ

ลัดดาวัลย์ วรประเสริฐ แบรนด์ ผ้าทอแสงบูรพา จาก จ.อุดรธานี เป็นผ้าย้อมครามจากฝ้ายผสมใยฟีราเจนจากเกล็ดปลาทะเลมาผสมกับฝ้าย ทำให้ผ้านุ่ม เวลาสวมใส่จะไม่ระคายผิวและสามารถกันแสงยูวี นำเอาไม้ที่อยู่ในป่ามาทำเป็นสี ฝ้ายก็ปลูกจากในอ่างเก็บน้ำเพื่อนำมาใช้ทำให้ในกลุ่มมีรายได้และช่วยเหลือตัวเองได้อย่างยั่งยืน เป้าหมายต่อไปอยากขยายไปถึงสากล

ถึงเวลามาใส่ผ้าทอผ้าฝ้ายของไทยกัน แล้วคุณมีติดตู้เสื้อผ้าแล้วหรือยัง?