ทฤษฎีกาแฟร้อน Coffee Theory ศาสตร์องค์รวมแห่งความสำเร็จ
โดย ภก.ดร.จันทรชัย ถวิลพิพัฒน์กุล สถาบันอินทรานส์ Hipot – การปฏิรูปศักยภาพมนุษย์อย่างบูรณาการ ศาสตร์ชีวิตองค์รวมเพื่อความมั่นคงยั่งยืน
เพราะโลกไม่แน่นอน อ่อนไหว ซับซ้อน คลุมเครือ เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ หุ่นยนต์ เอไอ ก้าวหน้าในอัตราเร่ง นำมาซึ่งความท้าทายต่อการปรับตัวขององค์กรธุรกิจเพื่อความอยู่รอดอย่างยั่งยืน
ความท้าทายในการแก้ปัญหาการดำเนินไปของโลกทุกวันนี้คือการแก้ปัญหา ปัญหามีทั้งใหม่เก่าเข้ามาตลอดเวลา แต่การแก้ปัญหา เรามักเจอความท้าทายต่อไปนี้
1. เวลาจะแก้ปัญหา คิดทีไรก็ได้แต่แนวทางเก่าๆ คิดวนเวียนเหมือนติดอยู่ใน “กับดักกรอบความคิดเดิมๆ” ไม่สามารถตีทะลุออกนอกกรอบได้
2. ไม่เข้าใจว่าทำไมในขณะที่กำลังจัดการกับปัญหาหนึ่งๆ แม้มันยังไม่เรียบร้อยดีเลย มันก็มีปัญหาอื่นๆ แทรกและพ่วงติดเข้ามาทุกครั้ง ทำไมปัญหามันไม่จบซักที ทำไมแก้แล้วมันไม่สุด มันมีปัญหาต่อยอดไปเรื่อยๆ
3. เวลามีปัญหาเข้ามา ทำไมแก้ปัญหาไม่ตก คิดไม่ได้ เหมือนคิดไม่เป็น หาทางออกไม่เจอ ไม่รู้ว่าอะไรสำคัญ จับประเด็นไม่ได้ เชื่อมโยงก็ไม่เป็น ไม่เป็นลำดับชั้น คิดสับสน วนไปมา การแก้ปัญหาจึงไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลง องค์กรก็ล้าหลัง ขาดความสามารถด้านการแข่งขัน
4. เวลาแก้ปัญหา คิดทีไรมันก็ได้แต่แนวทางแบบเดิมๆ ซ้ำๆ ไม่มีอะไรแตกต่าง ไม่มีอะไรใหม่ขาดทางเลือกที่หลากหลาย ไม่สามารถพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ๆ จึงขาดนวัตกรรมที่มีคุณค่าเชิงเศรษฐกิจ ไม่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กรได้
5. องค์กรไม่เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ ขาดการเชื่อมโยง การถ่ายทอด และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ขาดการต่อยอดองค์ความรู้ เพราะการทำงานยังแยกส่วน ไม่สามารถสื่อสารให้เข้าใจในสาระสำคัญได้ เพราะมองภาพคนละเป้าหมาย จึงไม่สอดคล้องไปในแนวเดียวกัน ไม่เป็นเอกภาพหนึ่งเดียว
ทางออกการแก้ปัญหาต้องใช้ปัญญา ความรู้ กระบวนการเรียนรู้ แล้วเราจะสร้างปัญญา และความคิดที่แตกต่างขึ้นมาได้อย่างไร ปัญหาที่กล่าวมาข้างต้นนั้น โดยรวมแล้วเป็นเพราะขาดมุมมองเชิงระบบ แล้วมุมมองเชิงระบบคืออะไร การทำความเข้าใจในเรื่องนี้ ผมขอเสนอ ทฤษฎีกาแฟร้อน หรือ Coffee Theory
เวลาท่านจะทานกาแฟร้อน โดยมาตรฐานก็มีผงกาแฟ ครีม น้ำตาล และน้ำร้อน แล้วท่านสงสัยไหมว่า ทำไมท่านไม่ทานทีละอย่าง แต่ท่านต้องนำองค์ประกอบทั้งสี่มาผสมมาชง มาคนให้เข้ากันก่อนแล้วจึงดื่ม
เมื่อพิจารณาถึงกาแฟร้อนที่ชงเสร็จแล้ว จะเห็นว่ามันมีความเป็นหนึ่งเดียว คือหนึ่งถ้วย ในความเป็นหนึ่งเดียวนั้น มันต้องมีองค์ประกอบ ก็คือผงกาแฟ ครีม น้ำตาล และน้ำร้อน องค์ประกอบทั้งสี่ต้องเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน ในขณะที่มันเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน ในขณะนั้นเอง มันได้ผุดกำเนิดขึ้นเป็นสิ่งใหม่ ได้เป็นภาวะองค์รวมใหม่ที่สูงกว่าเดิม ภาวะใหม่ที่ว่านี้สามารถแสดงศักยภาพ ในรูปของความหอมและรสชาติที่แตกต่างจากองค์ประกอบเดิม และคุณสมบัติเหล่านี้เองที่เป็นตัวกำหนดคุณค่าและสะท้อนออกมาในรูปของราคาและมูลค่าที่สูงขึ้น และเราเรียกส่วนต่างนั้นว่ากำไร
และไม่ว่าเราจะพิจารณาอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ นาฬิกา คอมพิวเตอร์ ปากกา แม้แต่สิ่งมีชีวิตทุกชนิด หรือข้าวของเครื่องใช้ทุกประเภท หรือแม้แต่ตัวความรู้ ปัญญา กระบวนการเรียนรู้เราพบว่าสรรพสิ่งรอบตัว ไม่ว่าอะไรก็ตามทั้งรูปและนาม ต่างล้วนมีคุณสมบัติร่วมกัน เช่นเดียวกับความเป็นกาแฟร้อน กล่าวคือ มันมีภาวะของความเป็นองค์รวมที่สะท้อนออกมาจากความเป็นระบบ และขอเรียกแนวคิดนี้ว่า ทฤษฎีกาแฟร้อน หรือ Coffee Theory โดยมีคุณสมบัติสำคัญ 6 ประการคือ
1. ความเป็นหนึ่งเดียว
2. องค์ประกอบ
3. การเชื่อมโยง
4. การผุดกำเนิด
5. ศักยภาพที่แตกต่าง
6. คุณค่าและความหมาย
ทฤษฎีกาแฟร้อนจึงให้ความหมายที่เข้าใจง่ายถึงธรรมชาติของสรรพสิ่งว่าคืออะไร โลกเรานี้มันมีธรรมชาติเป็นอย่างไร แล้วเราจะนำเอาความเข้าใจในธรรมชาติดังกล่าวไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตประจำวันได้อย่างไร
สรรพสิ่งคือระบบ ระบบมีธรรมชาติของความเป็นองค์รวมที่ผุดขึ้นจากการเชื่อมโยงขององค์ประกอบ ภาวะใหม่ที่เกิดขึ้นนี้สามารถแสดงศักยภาพหรือคุณสมบัติที่แตกต่างจากองค์ประกอบเดิมได้อย่างมีคุณค่าและความหมาย
ที่สำคัญคุณสมบัติทั้ง 6 ประการนี้ใช้อธิบายสรรพสิ่งรอบตัว ทั้งในระดับอะตอมและที่เล็กกว่า รวมทั้งในระดับจักรวาลและที่ใหญ่กว่า เพราะทั้งหมดนี้ล้วนมีธรรมชาติของความเป็นองค์รวมทั้ง 6 นี้เช่นเดียวกัน
ดังนั้น การพัฒนาใดๆ เพื่อมุ่งสู่ความสำเร็จจึงจำเป็นต้องเข้าใจถึงธรรมชาติทั้ง 6 นี้ตามทฤษฎีกาแฟร้อน ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาปัญญา องค์ความรู้ กระบวนการเรียนรู้ การสร้างทางเลือกในการแก้ปัญหา การพัฒนาความคิดที่แตกต่างที่แปลกใหม่ รวมทั้งการคิดค้นนวัตกรรมที่มีคุณค่าเชิงเศรษฐกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่เทคโนโลยีเอไอ หุ่นยนต์ คอมพิวเตอร์ที่พัฒนาไปไกลอย่างก้าวกระโดด
โดยสรุป ปัญหาคือความท้าทาย การแก้ปัญหาต้องใช้ปัญญา ทฤษฎีกาแฟร้อนช่วยให้เราเข้าใจในความหมายของมุมมองเชิงระบบ อันเป็นฐานรากสำคัญของการยกระดับองค์กรให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้เพื่อความสำเร็จอย่างยั่งยืน
ทฤษฎีกาแฟร้อนจึงเป็นศาสตร์องค์รวมแห่งความสำเร็จ