นับถอยหลังปีหน้า ประกาศกฎหมายคุมขนส่งสินค้า แก้ปัญหาต่างชาติทุ่มตลาด
ขนส่งต่างชาติแข่งเดือด ได้เวลาแก้กฎหมาย 100 ปี ไปรษณีย์ หวังควบคุมคุณภาพทั้งระบบ เอกชนทุกรายต้องมีใบอนุญาต และมีบทลงโทษหากทำผิดกฎหมาย แก้ปัญหาทุ่มตลาด แต่ไม่คุมคุณภาพ พร้อมตั้งหน่วยงานกลางกำกับดูแลโดยเฉพาะ คาดร่างกฎหมายเสร็จปีหน้า
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงอยู่ระหว่างการยกร่างพระราชบัญญัติไปรษณีย์ 2477 ใหม่ ให้มีความทันสมัย จากเดิมที่ประเทศไทยมีพระราชบัญญัติไปรษณีย์ พ.ศ. 2477 ซึ่งบังคับใช้มามากกว่า 100 ปี และเป็นการบังคับใช้เฉพาะบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เท่านั้น ขณะที่การแข่งขันในประเทศไทยมีผู้ให้บริการโลจิสติกส์ จำนวนมาก โดยเฉพาะการเข้ามาของบริษัทต่างชาติ ทำให้ไม่สามารถควบคุมคุณภาพ และการแข่งขันทุ่มตลาดได้อย่างเหมาะสม เพราะไม่มีกฎหมาย และไม่มีการออกใบอนุญาต ตามกฎหมาย
ด้านนายดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไปรษณีย์ไทย กล่าวว่า ขณะนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวอยู่ระหว่างการแก้ไข โดยกระทรวงได้จ้างมหาวิทยาลัยในประเทศไทยเป็นผู้จัดทำ มีรูปแบบกฎหมายที่ใช้งานแล้วมากกว่า 5 ประเทศ ทั้งในเอเชีย ยุโรป และ ออสเตรเลีย เพื่อเป็นต้นแบบและนำมาปรับใช้ให้เข้ากับประเทศไทย คาดว่าร่างดังกล่าวจะเสร็จภายในปีหน้า เพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมายด้านโลจิสติกส์ ต่อไป
กฎหมายดังกล่าว จะทำให้มีระบบการออกใบอนุญาตของผู้ให้บริการ ทำให้สามารถควบคุมคุณภาพ และการทุ่มตลาดของต่างชาติทั้งบริษัทขนส่งเอง และการแข่งขันส่งของเองของแพลตฟอร์ม อีคอมเมิร์ซ ได้ เนื่องจากบริษัทต่างมีต้นทุนที่ไม่เท่ากัน การทุ่มตลาดจึงกระทบต่อภาพรวมของการแข่งขัน รวมถึงคุณภาพในการส่งสินค้า ปัญหาคลังระเบิด สินค้าส่งไม่ถึงมือ ของหาย จะหมดไป กฎหมายจะมีมาตรการการลงโทษตามลำดับขั้น เช่น ปรับ หรือ พักใบอนุญาต เป็นต้น รวมถึงจะมีการกำหนดหน่วยงานกลางในการกำกับดูและด้วย
กฎหมายที่มีความล้าสมัย ทำให้ไปรษณีย์ไทยแข่งขันลำบาก เพราะที่ผ่านมากฎหมายไปรษณีย์มีผลบังคับใช้เฉพาะไปรณีย์ไทย โดยปัจจุบันไปรษณีย์ไทยอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงดีอีแล้วยังอยู่ภายใต้การตรวจสอบของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กระทรวงการคลัง ตามพระราชบัญญัติทุนรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2542 มหาชน อีกทั้งยังมีคณะกรรมการกิจการไปรษณีย์ ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงดีอี เป็นประธานกรรมการ , ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นกรรมการ , เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เป็นกรรมการ , บุคคลซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้มีผลงานหรือเคยปฏิบัติงานที่แสดงให้เห็นถึงการเป็นผู้มีความรู้ ความเข้าใจ และมีความเชี่ยวชาญด้านไปรษณีย์