Great Harbour ท่าเรือแห่งความอร่อยสุดพรีเมียม

 

 

Great Harbour รวบรวมทีมงานและเชฟฝีมือดีที่คร่ำหวอดในวงการอาหารมามากกว่า 30 ปี เพื่อสร้างสรรค์เมนูต่างๆ ให้สายบุฟเฟ่ต์ได้เต็มอิ่มกับ 6 สเตชั่น 4 สัญชาติคือ ยุโรป ญี่ปุ่น จีน และไทย โดยคัดสรรเมนูไฮไลต์อันเป็นซิกเนอเจอร์ของประเทศต่างๆ มานำเสนอตามคอนเซ็ปต์ “Great Harbour ท่าเรือแห่งความอร่อย” ให้คนรักบุฟเฟ่ต์ได้มาลองชิม

หวัง หวู่ เฉิง ผู้บริหารและหัวหน้าเชฟชาวไต้หวัน ให้เกียรติพาชมรอบร้าน พร้อมกับแนะนำอาหารแต่ละสเตชั่นให้เรารู้จักและอยากชิมขึ้นมาเลยละ

 

 

“ขอเริ่มต้นที่ สเตชั่น Western Food สเตชั่นนี้มีอาหารหลากหลาย ทั้งอิตาเลียน ฝรั่งเศส เม็กซิกัน สำหรับคนชอบเนื้อ ไม่ว่าจะเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อหมู ควรมาตรงนี้ เพราะมีเมนูน่าสนใจมากมาย เช่น เปปเปอโรนี ซาลามี่ วางคู่กับชีสหลายแบบ พร้อมด้วยเมนูค็อกเทลอย่างไข่ออนเซ็นน้ำมันทรัฟเฟิล สลัดไก่ควีนัว สลัดมันหวาน สลัดไส้กรอกเยอรมัน มินิครัวซองต์ และค็อกเทลกุ้ง ซึ่งกินคู่กับแฮมแล้วเข้ากันสุดๆ นอกจากนี้ยังมีสลัดผักสดๆ กับน้ำสลัด 6 แบบ พร้อมทั้งท็อปปิ้งอย่างเบคอนกรอบ ลูกเกด วอลนัท และอีกหลายอย่าง ให้ได้เลือกเพิ่มความอร่อยให้สลัดจานโปรดของคุณด้วย”

 

 

ส่วนโซนของอบและย่างก็มี แฮมอบน้ำผึ้ง ขาแกะอบสมุนไพร พร้อมซอสหลายชนิด อาทิ ซอสสับปะรด ซอสเห็ด และซอสเรดไวน์ พร้อมไซด์ดิชอย่างเฟรนช์ฟราย เห็ดย่าง กระเทียมย่าง มันฝรั่งบด ฯลฯ ที่บอกเลยว่า ทั้งแฮม และขาแกะอบสมุนไพร อร่อยสุดๆ เคล็ดลับคือ แฮมควรทานกับซอสสับปะรด และขาแกะควรทานกับซอสเรดไวน์จะได้รสชาติที่อร่อยเป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังมี ซี่โครงหมูซอสบาร์บีคิว ซึ่งเชฟบอกว่าคนไทยนิยมมาก เป็นอีกเมนูที่ต้องทำเพิ่มตลอดทั้งวัน รวมถึง สตูว์เนื้อ ที่เนื้อนุ่มละลายในปาก ปิดท้ายด้วย ซุปเห็ดทรัฟเฟิลหอมๆ ที่ตักกี่ครั้งก็ไม่เคยพอ

 

 

สเตชั่นอาหารญี่ปุ่น “มีทั้งซูชิหลากหลายเมนู เช่น หอยปีกนก ปลาซาบะ แซลมอน ปลาไหล ที่พิเศษสุดๆ คือ ซูชิเนื้อวากิวนิกิริ บอกเลยว่าเนื้อนุ่ม อร่อย มาพร้อมซอสเทริยากิสูตรเฉพาะของร้าน ฟินสุดๆ เลยทีเดียว เขยิบมาไม่ไกลจะเจอซูชิและปลาดิบวางเรียงรายให้เลือกเต็มไปหมด ตรงนี้มีเชฟยืนแล่ปลาและปั้นซูชิสดๆ ให้ดูกันตรงนั้น มีซาชิมิตัวท็อปอย่างแซลมอนนำเข้าจากนอร์เวย์ ทูน่า ปลาซาบะ ปลาช่อนทะเล และที่เป็นอีกไฮไลต์ของสเตชั่นนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นซีฟู้ดขวัญใจลูกค้า Great Harbour อย่าง หอยนางรมสดจากสุราษฎร์ฯ กุ้งออนไอซ์ หอยแมลงภู่ และกุ้งแม่น้ำเผา ที่เชฟย่างให้แบบไม่อั้น เมื่อพูดถึงอาหารญี่ปุ่น เมนูที่ขาดไม่ได้ก็คือ เทมปุระ มีทั้ง เทมปุระกุ้ง เทมปุระผัก และไก่คาราเกะ ซึ่ง Great Harbour ให้เชฟยืนทอดโชว์กันสดๆ ทำให้เราได้กินร้อนๆ และเติมเทมปุระใหม่ตลอดเวลา”

 

 

สเตชั่นอาหารจีน เมนูยอดนิยมหนีไม่พ้นเครปเป็ดย่าง รับรองว่าอร่อยจริง หนังข้างนอกกรอบ เนื้อเป็ดนุ่ม เชฟเล่าให้ฟังว่า “กว่าจะเสิร์ฟเป็ดย่างแต่ละตัวได้ ต้องใช้เวลาทำทั้งหมดเกือบ 3 วันเต็ม! ซึ่งเชฟจะคอยดูอยู่ตลอด จึงมั่นใจได้ว่าเป็ดย่างที่นี่อร่อยจริง ได้รสต้นตำรับแท้ๆ แน่นอน นอกจากนี้ยังมีหมูแดง กุนเชียง ติ่มซำ และซาลาเปาร้อนๆ ผัดหมี่ซัวฮ่องกง ขาหมูตุ๋น ปลากระพงซอสเต้าซี่ ตบท้ายความอร่อยด้วยซุปหมาล่าที่เชฟทำกันแบบถ้วยต่อถ้วยเลยทีเดียว ฯลฯ ซาลาเปาร้อนๆ ผัดหมี่ซัวฮ่องกง ขาหมูตุ๋น ปลากระพงซอสเต้าซี่ ตบท้ายความอร่อยด้วยซุปหมาล่าที่เชฟทำกันแบบถ้วยต่อถ้วยเลยทีเดียว”  

 

 

ต่อด้วย สเตชั่น Pizza & Teppanyaki ที่ได้รับความนิยมมากอีกสเตชั่น โดยจะมีเมนูพาสต้า อย่างคาโบนาร่าที่เราคุ้นเคย และที่แซ่บสุดๆก็คงต้องยกให้กับสปาเก็ตตี้เส้นดำสไปซี่ซีฟู้ด พร้อมทั้งสเต็กต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสเต็กหมู สเต็กแซลมอน และสเต็กเนื้อซอสทรัฟเฟิล และยังมีเมนูพิเศษคือ ทาโก้ เมนูยอดนิยมจากเม็กซิโกอีก 

 

 

ส่วนสเตชั่นที่น่าจะคุ้นปากคนไทยที่สุดคือ สเตชั่น Asian Food ที่เชฟเน้นเสิร์ฟอาหารไทย เพื่อให้นักท่อง เที่ยวได้มีโอกาสลิ้มลองอาหารไทยยอดนิยมอย่าง ต้มยำกุ้ง ส้มตำ ไก่ทอด ไส้กรอกอีสาน เปาะเปี๊ยะทอด มัสมั่น ยำเนื้อ และปิดท้ายด้วยเมนูพิเศษที่ต้องมาลองให้ได้สักครั้งคือ ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวากิว แผ่นใหญ่ ให้ได้เต็มอิ่มกับความอร่อย ซึ่งหากใครไม่ทานเนื้อ ทางร้านก็มีเมนูก๋วยเตี๋ยวหมูสไลด์ให้เลือกอีกด้วย ใครพาเพื่อนชาวต่างชาติมา อย่าลืมนำทางมาสเตชั่นนี้

 

 

ปิดท้ายที่ สเตชั่นน้ำดื่ม ผลไม้ และของหวาน ที่เชฟบอกว่า เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของร้านโดยจะมีเครื่องดื่มให้เลือกทั้ง น้ำผลไม้รวม ชาเขียวมะลิ และชานมไข่มุก ซอฟดริงก์ต่างๆ อีกทั้งยังมีเครื่องทำกาแฟที่เลือกได้เลยว่าอยากได้เมนูไหน ทั้งคาปูชิโน เอสเปรสโซ่ หรือแม้แต่ชาร้อน ส่วนของหวานก็มีทั้งขนมไทยและเบเกอร์รี่ต่างๆ และน้ำแข็งไส ซึ่งไฮไลต์ที่ทุกคนไม่ควรพลาดคือครอฟเฟิล ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ตอนนี้ โดยเชฟจะทำให้ร้อนๆ แล้วเราสามารถตักท็อปปิ้งได้เองตามชอบ ไม่ว่าจะเป็นแยมสตรอเบอร์รี่ น้ำผึ้ง ครีมสด หรือฟรุตสลัด ส่วนสาวๆ ที่ชอบเค้กก็มีให้เลือกเต็มตู้ โดยจะเน้นเป็นเมนูเค้กสไตล์ฝรั่งเศส มาการอง และอีกหลากหลายเมนู

 

 

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งจากกว่า 80 เมนูเท่านั้น Great Harbour ยังมีอีกหลายเมนูให้ทุกคนมาพิสูจน์ด้วยตัวเอง ที่ชั้น 6 ไอคอนสยาม ซึ่งนอกจากอาหารจะอร่อยแล้ว พนักงานทุกคนและเชฟในทุกสเตชั่นยังบริการดีเยี่ยม พร้อมตอบทุกคำถาม รวมถึงแนะนำเมนูต่างๆ 

 

 

Great Harbour สาขาแรกในเมืองไทยแห่งนี้ มีพื้นที่กว้างขวางถึง 2,000 ตร.ม.ร้านอยู่ที่ชั้น 6 ไอคอนสยาม เปิดให้บริการทุกวัน วันละ 2 รอบคือ 12.00–14.30 น. และ 17.30–21.00 น. ในช่วงเทศกาลจะเปิดให้บริการตลอดทั้งวัน ตั้งแต่ 12.00–21.00 น. อัพเดตข้อมูลได้ที่ Facebook : Great Harbour หรือ Line : @harbour