คนดังตามอักษรย่อที่ปังที่สุดแห่งยุค L G B T Q I A N +
เปิดที่มาตัวอักษรย่อที่โด่งดังที่สุดแห่งศตวรรษนี้ LGBTQIAN+ .. และคนดัง เซเลบริตี้ คนไหนคือตัวแทนของตัวอักษรตัวใด?
ก่อนอื่นคำว่า LGBTQIAN+ เริ่มต้นมีเพียงตัวอักษรแค่ 4 คำคือ LGBT ถูกคิดขึ้นมาใช้ตั้งแต่ปี 1988 ในสหรัฐอเมริกาเป็นที่แรก หลังจากที่ใช้คำว่า Gay (เกย์) หรือ Homosexual มานานกว่า 20 ปี หลังจากนั้นก็เกิดกระบวนการเคลื่อนไหวมาโดยตลอด เพราะมีคนอีกหลายหลายกลุ่มอย่าง ‘ไบเซ็กชวล’ หรือ ‘ทรานส์เจนเดอร์’ ที่ไม่ถูกนับรวมในความหมายของคำว่าเกย์ และมีปัญหาในการพัฒนาตัวตนของพวกเขา หรือการยอมรับในทางกฎหมายในอนาคต จึงได้มีการใช้คำว่า LGBT แทนตั้งแต่ปี 1988 อย่างไรก็ตามได้มีการเรียกร้องเพิ่มเติมจนถึงปัจจุบันได้พัฒนาจนกลายเป็น LGBTQIAN+ เพื่อครอบคลุมทุกเฉดสีความหลากหลายทางเพศมากที่สุด
L = Lesbian
L ย่อมาจากคำว่าเลสเบี้ยน หมายถึงผู้หญิงที่มีความรักต่อผู้หญิงด้วยกัน คนดังที่ออกมาเปิดตัวกับเรื่องนี้ที่หลายคนรู้จักคือ Ellen DeGeneres (เอลเลน ดีเจนเนอเรส ) เจ้าของรายการ The Ellen Degeneres Show ที่เอาเป็นว่าทุกคนในอเมริกาต้องเคยดูและกลับไปพร้อมพลังบวกเสมอ
เอลเลนเกิดในครอบครัวของคนขายประกันและนักพูด ถูกเลี้ยงตามหลักศาสนา Christian Scientist ที่เชื่อเรื่องการไม่พึ่งหมอหรือทานยา แต่เธอก็หยุดการนับถือไปหลังจากที่พ่อแม่เลิกรากันตอนอายุ 13 ปี เอลเลนเติบโตมาในฐานะเดี่ยวไมโครโฟน แม้เธอจะได้รับคำยกย่องว่าเป็นบุคคลที่ตลกที่สุดของอเมริกาในปี 1982 แต่มุขตลกของเธอไม่เคย ‘บุลลี่’ หรือหยาบคายต่อใครเลย
ในปี 1997 เอเลนรับบทนำในซิตคอม Ellen ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามในตอนหนึ่งของซีรีย์ เอลเลนประกาศว่าตนเองเป็นเลสเบี้ยนต่อหน้าคนชมทางบ้านกว่า 42 ล้านคน ด้วยประโยคที่ว่า ‘Susan, I’m Gay’ และกลายเป็นชนวนปฏิวัติวงการ ณ ขณะนั้นเลยทีเดียว เพราะยังไม่เคยมีคนดังคนไหนกล้าออกมาเปิดเผยในเรื่องนี้ แต่เธอกล้าที่จะเอาอาชีพของเธอมาเสี่ยง .. ผลลัพธ์คือแม้เธอจะได้รับโอกาสเป็นนักแสดงนำในซีรีย์คนแรกที่มาจากกลุ่ม LGBTQIAN+ และฮือฮาถึงขั้นได้ขึ้นปกนิตยสาร TIME แต่เธอถูกโจมตีหนักจนกระทับถึงซีรีย์ของเธอทุกเรื่องให้โดนยกเลิกไป
อย่างไรก็ตามเอลเลนกลับมาอีกครั้งในรายการทอล์คโชว์ของตนเองในปี 2003 และพิสูจน์ผลงานด้วยการชนะรางวัล Daytime Emmy ถึง 59 ครั้ง มีคน Subscribe มากกว่า 22.5 ล้านคน เธอและแฟนสาวของเธอ Portia de Rossi ขึ้นชื่อว่าเป็นคู่รักที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคู่หนึ่ง และเป็นตัวอย่างที่ดีของการทำให้สังคมเข้าใจความสัมพันธ์แบบเลสเบี้ยน
G = Gay
G ย่อมาจากคำว่า เกย์ ซึ่งหมายถึงผู้ชายที่มีความรักต่อผู้ชายด้วยกัน อาจจะไม่กำหนดว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องเป็นฝ่ายรับหรือรุกเท่านั้นแต่อาจจะเป็นได้ทั้งสองในการมีเพศสัมพันธ์ คนดังที่เป็นที่รู้จักและออกมาพูดเรื่องนี้คือ Tim Cook (ทิม คุก) CEO ของบริษัท Apple นั่นเอง โดยเขาได้เขียนบทความให้กับสำนักข่าวบลูกเบิร์ก ในบทความ Tim Cook Speaks Up ในปี 2014 เพื่อบอกตัวตนของเขา แม้ว่าคนที่ทำงานร่วมกันกับเขาจำนวนไม่น้อยที่รู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้วเพราะเขาไม่เคยปกปิดรสนิยมทางเพศของตนเอง โดยเชื่อว่าเขาใช้ช่วงเวลาที่รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังผลักดันการสมรสเท่าเทียม เป็นโอกาสที่จะช่วยผลักดันให้คนที่มีปัญหาเพศสภาพและเพื่อให้สังคมยอมรับมากขึ้น หลังจากนั้นเขาก็ยังออกมายืนยันตัวตนของตัวเองในการให้สัมภาษณ์กับนักข่าว CNN พร้อมระบุว่า สิ่งที่เขาเป็นคือของขวัญอันยิ่งใหญ่ที่พระเจ้าประทานให้ .. ทิม คุก กลายเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ผู้บริหารองค์กรระดับสูงอีกหลายคนต่างทยอยเปิดตัวกันมากมาย
อีกคนหนึ่งที่อยากพูดถึงคือ Troye Sivan (ทรอย ซีวาน) ศิลปินชาวออสเตรเลียที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากและได้รับการขนามนามว่า ‘ผู้ทรงอิทธิพลที่สร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้คน’
ทรอย ซีวาน เป็นศิลปินที่สามารถทำผลงานติดท็อป Billboard ชาร์ต ในช่วงปี 2013 เขาประกาศผ่านช่องยูทูปส่วนตัวระบุว่าเขามีสิ่งที่อยากแชร์นั่นคือ เขาเป็นเกย์ แม้จะฟังดูแปลกๆ ที่ประกาศสู่โลกโซเชียล แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องน่าอาย ซึ่งก่อนหน้านั้น 3 ปีเขาได้เปิดตัวกับครอบครัวของเขา.. และเหตุการณ์นี้ทำให้เขาถูกยกย่องว่าเป็น 1 ใน 25 วัยรุ่นผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกจากนิตยสาร TIME
ซีวานใช้ตัวตนของเขาขับเคลื่อนผลงานเพลงของตนเอง ไม่ว่าจะผ่านมิวสิกวิดิโอ อย่างเพลง Heaven ที่ใช้ภาพประวัติศาสตร์การต่อสู้ของ LGBTQIAN+ มาใช้ในการเล่าเรื่อง ไปจนถึงการแต่งหน้าและแต่งตัว ซึ่งมันยิ่งขับการเล่าเรื่องราวผ่านบทเพลงของเขาได้เป็นอย่างดี เช่นเดียวกับ Ellen การออกมาเปิดตัวของทรอย ซีวานในช่วงนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ค่อยได้เห็นในวงการเพลงป๊อบ ที่เน้นฐานแฟนคลับจำนวนมากๆ และศิลปินมักจะต้องปกปิดตัวตนของตัวเอง แต่สิ่งที่เขาทำกลับตรงกันข้ามและใช้มันในการสร้างเอกลักษณ์ของการเป็นศิลปินในแบบฉบับของตัวเอง
B = Bisexual
B ย่อมาจากไบเซ็กชวล หรือบุคคลที่สามารถมีความรักได้ทั้งเพศชายและหญิง ซึ่งคนดังที่ออกมาเปิดตัวคนหนึ่งที่ต้องพูดถึงคือ Miley Cyrus (ไมลีย์ ไซลัส) ... ไมลีย์ได้ออกมาเปิดเผยถึงประเด็นเรื่องเพศของเธอว่าเธอรู้ว่าตนเองเป็นไบเซ็กชวลในตอนอายุ 14 ไมลีย์เคยให้สัมภาษณ์ลงในนิตยสารฉบับหนึ่ง ในขณะที่เธอแสดงเรื่อง Hannah Montana บอกว่าเธอมักจะถูกดึงดูดทั้งกับเพศหญิงและเพศชาย เธอคิดว่าเพศสภาพของเธอนั้นหลากหลาย และเป็นได้ทั้งชายและหญิง และไม่ต้องการคู่ครองเป็นแค่เฉพาะหญิงหรือชายเท่านั้น และเธอก็เคยมีความสัมพันธ์ที่จริงจังกับเพศหญิงที่ไม่ได้ออกสู่สาธารณะ
นอกจากนี้ไมลีย์ยังได้ตั้งมูลนิธิ Happy Hippie Foundation ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรเพื่อที่จะเรียกร้องในประเด็นคนไร้บ้านและเด็กวัยรุ่นที่เป็น LGBTQIAN+
T = Transgender
T ย่อมาจากทรานส์เจนเดอร์ หรือผู้ที่ได้รับการแปลงเพศตามที่ต้องการ ทรานส์เจนเดอร์คือบุคคลที่รู้สึกพอใจกับอัตลักษณ์ทางเพศที่ตรงข้ามกับเพศกำเนิดของตนเอง เป็นได้ทั้งในกรณี ผู้หญิงข้ามเพศ คือผู้หญิงที่ได้รับการแปลงเพศมาจากชาย และผู้ชายข้ามเพศ คือ ผู้ชายที่ได้รับการแปลงเพศมาจากเพศหญิง นักแสดงที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งที่เป็นทราน์เจนเดอร์ คือ Elliot Page (อิลเลียต เพจ ) นักแสดงนำแจ้งเกิดจากภาพยนตร์ Juno ซึ่งได้รับการเข้าชิงออสการ์
นักแสดงแคนาดาคนนี้ได้ออกมาเปิดเผยตนเองในปี 2020 ว่าเธอเป็นทรานส์เจนเดอร์ในโซเชียลมีเดียของตนเอง เพื่อที่จะเปิดเผยเพศสภาพของตนและขอบคุณกำลังใจจากคนที่อยู่รอบข้าง ‘ผมรักที่ตัวเองเป็นทรานส์เจนเดอร์ .... โดยสำหรับชาวทรานส์เจนเดอร์ทุกคนที่ต้องเจอเรื่องการล่วงละเมิด ความเกลียดชัง การโดนเหยียดหยาม และโดนขู่ที่จะถูกทำร้ายทุกวัน ผมเห็นคุณ ผมรักคุณ และผมก็จะทำทุกทางให้สามารถทำให้โลกนี้ดีขึ้น’ โดยเพจได้ออกมาเล่าถึงเหตุการณ์ที่โดนนักแสดงชาย ที่ไม่เชื่อเรื่องความหลากหลายทางเพศ พยายามที่จะเข้าหาเธอในปี 2014 บอกว่าเขาจะมีเซ็กส์กับเพจ เพื่อให้เพจรู้ว่าเพจไม่ใช่ทรานส์ ซึ่งเพจให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์นี้เพื่อย้ำว่าการเป็นทรานส์ โดยที่คนรอบข้างไม่ยอมรับนั้นเจ็บปวดเพียงใด
Q = Queer
Q ย่อมาจากเควียร์ ซึ่งหมายถึงบุคคลที่มีความรักโดยไร้กฎเกณฑ์ทางเพศ เป็นคำเรียกกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศที่อยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์ใดๆ โดยส่วนใหญ่บางคนที่จัดตัวเองอยู่ในหมวดหมู่อื่นก็อาจจะมีความเควียร์ร่วมด้วยได้ เพราะเควียร์เน้นไปที่ความรักซึ่งไร้กฎเกณฑ์
อย่างเช่น Demi Lovato (เดมี โลวาโต) นักร้องชื่อดังที่แม้จะเคยหมั้นกับผู้ชายมาแล้ว แต่เธอก็ออกเปิดเผยตัวเองว่าเป็นเควียร์ ด้วยความรู้สึกทางเพศที่หลากหลาย หลังจากที่เคยประสบปัญหากับการหาตัวตน และปฏิเสธตัวตนของตัวเอง หลังจากที่เธอล้มการหมั้นหมาย เธอออกมายอมรับว่าเธอรู้สึกมีแรงดึงดูดกับผู้หญิงมากกว่า ส่วนกับผู้ชายจะเป็นไปในเชิงของมิตรภาพมากกว่าความโรแมนติก
I=Intersex
I ย่อมาจากอินเตอร์เซ็กส์ คือบุคคลที่เกิดมามีลักษณะทางกายภาพโดยมีอวัยวะสืบพันธุ์ของทั้งสองเพศ จึงไม่สามารถระบุเพศของตัวเองได้อย่างชัดเจน คนหนึ่งที่อยากจะพูดถึงคือ Small Luk ชาวฮ่องกง ซึ่งเป็นอินเตอร์เซ็กส์คนแรกที่ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ในฮ่องกง เธอใช้ชีวิตเป็นผู้ชายในวัย 36 ปีแต่หลังจากการเปิดตัวเธอจึงเลือกที่จะใช้ชีวิตแบบผู้หญิง เธอเป็นลูกคนแรกและป่วยเป็นภาวะ Androgen insensitivity syndrome คือเป็นชายที่ฮอร์โมนเพศชายไม่สามารถออกฤทธิ์ได้ เธอผ่านการผ่าตัดมากกว่า 20 ครั้ง จนอายุ 13 ปีเธอจึงปฏิเสธการรักษาทั้งหมด
เมื่อเธอโตขึ้นเธอก็มีหน้าอกเป็นผู้หญิง มีประจำเดือน เธอจึงตัดสินใจเข้าผ่าตัดเพื่อนำอวัยวะเพศชายออกไปและอยู่แบบผู้หญิง ซึ่งนอกจากจะต้องเจ็บปวดกับการผ่าตัด เธอก็ต้องเจอกับการบุลลี่ในหลายรูปแบบมาตลอดชีวิต จนเธอเรียนจบแพทย์แผนจีนและเปิดคลินิกของตนเอง เธอจึงเริ่มตั้งองค์กร Beyond Borders-knowing and concerns intersex เพื่อให้สังคมได้เข้าใจและสนับสนุนสิทธิของบุคคลที่เป็นอินเตอร์เซ็กส์ และหยุดการบังคับให้เด็กที่เป็นอินเตอร์เซ็กส์เข้ารับการผ่าตัดโดยปราศจากการเข้ารับการปรึกษาที่เหมาะสม
A = Asexual
A หรือ เอเซ็กส์ชวล คือไม่มีแรงดึงดูดทางเพศกับผู้อื่น คือไม่ปราถนาจะมีความสัมพันธ์ทางกายกับใคร ซึ่งอาจจะสามารถแบ่งย่อยลงไปอีก 3 ระดับคือ ระดับที่ไม่มีแรงดึงดูดทางเพศต่อบุคคลอื่นเลย ระดับที่อาจเกิดแรงดึงดูดแค่ปีละครั้งสองครั้งแล้วหายไป และระดับที่แรงดึงดูดทางเพศที่จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเริ่มมีความสัมพันธ์ทางใจ ซึ่งอาจไม่ได้อยู่ในรูปแบบรักโรแมนติกแต่เป็นในมุมมิตรภาพมากกว่า
คนหนึ่งที่อยากจะแนะนำให้ทุกคนรู้จักคือ ไอแซค นิวตัน นักวิทยาศาสตร์ระดับตำนาน นิวตันไม่เคยแต่งงานและไม่เคยมีความสัมพันธ์โรแมนติกใดๆ มีนักเขียนที่พูดถึงเขาไว้ว่านิวตันเกลียดผู้หญิง และกลัวการมีเซ็กส์ ซึ่งนักประวัติศาสตร์ระบุว่านิวตันน่าจะมีภาวะ Asexual
N = Non-Binary
N ย่อมาจากผู้ที่ไม่ต้องการระบุเพศของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง และมีความลื่นไหลของอัตลักษณ์ทางเพศที่สามารถเปลี่ยนไปมาได้ คนดังที่ออกมาเปิดเผยว่าตัวเองเป็น Non-Binary คือ Bella ramsey (เบลลา แรมซี่) นักแสดงนำจากซีรีย์ชื่อดัง The Last of Us เบลล่าเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงเป็นอย่างมาก และในปี 2023 นี้เองเธอได้ให้สัมภาษณ์ว่าเพศสภาพของตัวเองนั้นมีความหลากหลายมาก และต้องการจะระบุว่าเป็น Non-binary เธอให้สัมภาษณ์ไว้ว่าอยากให้คนมองเธอเป็นบุคคลคนหนึ่ง มากกว่าการมองตามเพศสภาพ ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่แคร์เลย
อีกคนหนึ่งที่ออกมาพูดอย่างชัดเจนคือ Sam Smith (แซม สมิธ) ในปี 2017 เขาใด้ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร The Sunday Times ไว้ว่า เป็นผู้หญิงเท่าๆกับที่เป็นผู้ชาย