posttoday

“มหาปชาบดีเถรีวิทยาลัย”

14 เมษายน 2554

การศึกษาทางเลือกใหม่ของหญิงไทย...สู่สังคมคุณธรรม

การศึกษาทางเลือกใหม่ของหญิงไทย...สู่สังคมคุณธรรม

ในภาวะสังคมปัจจุบันที่มีแต่ความสับสนวุ่นวายและเต็มไปด้วยวัตถุนิยม ผู้คนห่างหายจากธรรม ไร้แนวทางยึดเหนี่ยว มหาปชาบดีเถรีวิทยาลัย คือ คำตอบของการศึกษาทางเลือกที่เกิดขึ้นเพื่อเป็นแนวทางในการนำพาหญิงไทยสู่ชีวิตใหม่ในวิถีแห่งสังคมคุณธรรม

จากแนวคิดของแม่ชีคุณหญิงกนิษฐา วิเชียรเจริญ ที่มุ่งมั่นจะยกระดับแม่ชีไทยให้มีการศึกษา เพื่อให้นักบวชหญิงผู้มีธรรมสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาสังคมไทย  ด้วยความเชื่อที่ว่า “เป็นไปไม่ได้เลยที่แม่ชีหรือฆราวาสหญิงคนใดจะมีบทบาทในการช่วยเหลือสังคมหากขาดซึ่งการศึกษาหรือความรู้เป็นรากฐาน”….ด้วยจุดเริ่มต้นนี้เอง มหาปชาบดีเถรีวิทยาลัย ในพระสังฆราชูปถัมภ์ (มปถ.) หรือ “วิทยาลัยแม่ชี” ภายใต้การบริหารงานของมหาวิทยาลัยราชมกุฎราชวิทยาลัย จึงเกิดขึ้นเพื่อมุ่งยกระดับแม่ชีไทย สู่การสร้างหญิงผู้มีธรรมให้สามารถเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาสังคมไทย

มหาปชาบดีเถรีวิทยาลัย ถือเป็นวิทยาลัยบัณฑิตสตรีวิถีพุทธแห่งแรกของไทย ก่อตั้งมาเป็นเวลากว่า 13 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 โดยสถาบันแม่ชีไทย สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรี และมหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย ซึ่งในช่วงเริ่มต้นได้ใช้บ้านพักฉุกเฉินเป็นที่เรียน หลังจากนั้นมีผู้บริจาคที่ดิน จึงเริ่มมีการสร้างเป็นวิทยาเขตปัจจุบัน ณ ตำบลภูหลวง อำเภอปักธงไชย จังหวัดนครราชสีมา บนพื้นที่อันร่มรื่นขนาดประมาณ 77 ไร่ ซึ่งมีความพร้อมทั้งสถานที่ในการเรียนการสอน หอพักนักศึกษา ตลอดจนอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ

การจัดการศึกษาที่เป็นระบบเพื่อ “เรียนรู้คุณธรรมควบคู่วิชาการ”

มหาปชาบดีเถรีวิทยาลัย มีการจัดการศึกษาที่เป็นระบบเพื่อเป็นการเรียนรู้คุณธรรมควบคู่วิชาการ โดยมีพระเมธีธรรมสารเป็นผู้อำนวยการวิทยาลัยและร่วมบริหารโดยคณะแม่ชี เปิดสอนในระดับปริญญาตรี ด้วยระบบการเรียนการสอนที่มีคุณภาพมาตรฐานเช่นเดียวกับสถาบันการศึกษาอื่น เปิดรับเฉพาะนักศึกษาที่เป็นแม่ชีและสตรีทั่วไปที่จบการศึกษา ป.ธ.5, จบชั้น ม. 6 หรือเทียบเท่า ไม่จำกัดอายุ เข้าศึกษาแบบประจำและไปกลับ โดยผู้สำเร็จการศึกษา จะมีวุฒิเทียบเท่าปริญญาตรี คณะวิชาพุทธศาสนา ขณะนี้มีนักศึกษาประมาณ 80 คน เปิดสอน 2 คณะคือ คณะศึกษาและปรัชญา สาขาวิชาเอกพุทธศาสตร์ และคณะศึกษาศาสตร์ วิชาเอกการสอนภาษาอังกฤษ โดยในปี พ.ศ. 2554 นี้จะเริ่มเปิดรับนักศึกษาใหม่ในคณะศึกษาศาสตร์ วิชาเอกการสอนพระพุทธศาสนา

อีคิวนำไอคิว ฝึกคนให้เป็นคน

จากปรัชญาเริ่มต้นที่เชื่อว่า สังคมดีขึ้นได้ด้วยผู้มีธรรม นอกจากการเรียนการสอนที่เน้นพุทธศาสนาแล้ว การดำเนินชีวิตของเหล่านักศึกษายังเป็นแนววิถีพุทธด้วย เน้นการเรียนรู้และพัฒนาวุฒิภาวะ ทั้งความอดทน การทำงานร่วมกับผู้อื่น และการมีทักษะชีวิตที่จะจัดการกับชีวิตของตนเองทั้งทางกายและทางใจ

นอกเหนือจากกิจวัตรการทำวัตรเช้า-เย็น และเรียนตามปกติแล้ว นักศึกษาทุกคนล้วนมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนชีวิตของวิทยาลัยให้ดำเนินไปอย่างพอเพียงและช่วยเหลือตนเองได้  มีการแต่งตั้งประธานนักศึกษา และแบ่งกลุ่มนักศึกษาออกเป็น 5 กลุ่ม โดยผิดชอบต่อชุมชนวิทยาลัยของตนเอง ได้แก่ กลุ่มบิณฑบาต กลุ่มดูแลรักษาน้ำ กลุ่มอาหาร กลุ่มสันทนาการ และกลุ่มจัดการขยะ ทุกกลุ่มต้องจัดสรรทรัพยากรซึ่งได้รับการมอบจากผู้มีศรัทธาอย่างคุ้มค่าให้มากที่สุด และดูแลระบบนิเวศน์ภายในเพื่อให้วิทยาลัยสะอาดและน่าอยู่

ด้วยการดำเนินชีวิตเช่นนี้เอง นักศึกษาในวัยตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงหญิงกลางคน จึงได้ฝึกตนเองในเรื่องความอดทน การทำงานร่วมกับผู้อื่น การมีจิตสาธารณะ การบริหารจัดการ และธรรมะทุกวัน รวมทั้งการพัฒนาอีคิวและความเป็นมนุษย์ นอกเหนือจากความรู้

การศึกษาทางเลือกใหม่ของหญิงไทย...สู่สังคมคุณธรรม

นักศึกษาที่นี่มาจากหลากหลายพื้นฐานและประสบการณ์ชีวิต จึงมีจำนวนแม่ชีและฆราวาสในสัดส่วนที่เกือบจะเท่ากัน จากจังหวัดใกล้เคียงและกรุงเทพฯ และมีนักศึกษาธรรมทั้งที่เพิ่งจบ ม.6 จนถึงอายุ 60 ปี บางคนผ่านการทำอาชีพมามากมาย และมีฐานะครอบครัวที่ต่างกันไป  บางคนตัดสินใจมาเรียนเอง บางคนผู้ปกครองเห็นด้วย และบางคนผู้ปกครองยังไม่เข้าใจในช่วงเริ่มต้น แต่ทุกคนล้วนเป็นผู้สนใจในธรรมะและพุทธศาสนาทั้งสิ้น

สำหรับศิษย์เก่าที่จบจากวิทยาลัยก็เช่นกัน บางคนยังคงดำเนินไปในเส้นทางธรรมอย่างต่อเนื่อง และมีหลายคนทำงานในทางโลกหลายบทบาท เช่น ครู พนักงานบริษัท ช่วยดูแลครอบครัว หรือกลับมาเป็นอาจารย์สอนที่นี่ อย่างเช่น แม่ชี ดร.ไพเราะทิพยทัศน์ อดีตอาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ปัจจุบันเป็นอาจารย์พิเศษของมหาปชาบดีเถรีวิทยาลัย กล่าวว่า “ในสังคมปัจจุบันมีแต่เรื่องกระแสที่รุนแรงเหลือเกิน การมาเรียนที่นี่จะทำให้เรามีธรรมวินัยที่คอยช่วยกั้นกระแส แล้วออกพ้นจากกระแสด้วยปัญญาธรรม ในโลกโลกาภิวัตน์ไม่มีอะไรต้านกระแสได้เลย นอกจากปัญญาที่ได้จากไตรสิกขา”

แม่ชีจิดาภา ศรีสุข ศิษย์เก่ารุ่นที่ 3 และปัจจุบันเป็นเจ้าหน้าที่มหาปชาบดีเถรีวิทยาลัย เล่าให้ฟังว่า “เข้ามาที่นี่ใหม่ๆไม่รู้อะไรเลย ที่นี่มีปัญหาขาดแคลนน้ำใช้ทั้งในมหาวิทยาลัยและชุมชน บรรดาแม่ชีต่างคิดกันว่าทำอย่างไรนักศึกษาและชาวบ้านจึงจะมีน้ำใช้ จึงเกิดระบบการกรองน้ำสร้างประปาธรรมชาติจากภูเขา แต่น้ำที่ได้ยังไม่พอใช้ จึงออกหาตาน้ำบนเขาที่สูงขึ้นเพื่อสร้างระบบเก็บกัก กรองน้ำ จัดการดูแลเองทั้งระบบ เมื่อถึงตอนนี้ไม่ขาดแคลนแล้ว ซึ่งที่แห่งนี้จะปลูกฝังให้ทุกคนใช้วัตถุดิบธรรมชาติโดยไม่ต้องซื้อ”

คุณลักขณา เงางาม ศิษย์เก่ารุ่นที่ 7 และปัจจุบันทำหน้าที่เป็นครูพี่เลี้ยง โรงเรียนทอสี บอกว่า “ตอนเข้ามาเรียนที่นี่ครั้งแรกไม่ได้บอกแม่ เพราะแม่ไม่เห็นด้วย ซึ่งเมื่อมาเรียนตรงนี้เหมือนได้ 2 เด้ง ได้ทั้งเรียนหนังสือและได้ธรรมะเข้ามาในชีวิต สามารถนำเรื่องอิทธิบาท 4 ไปปรับใช้และแก้ปัญหาในการทำงานได้

ขณะที่แม่จ้อย คุณแม่ของคุณลักขณา กล่าวว่า “ตอนแรกแม่ไม่เห็นด้วย อยากให้เขาแต่งงานมีคนดูแล  ตอนนี้พอลูกจบออกมาได้งานทำ แม่ก็รู้สึกสบายใจ โล่งใจ ที่ลูกมีงานที่ดีทำ” 

นอกจากนี้ ยังมีศิษย์เก่าของที่มหาปชาบดีเถรีวิทยาลัยที่เรียนจบแล้ว และกำลังศึกษาต่อยังสถาบันการศึกษาอื่นเพื่อเพิ่มพูนความรู้ก่อนออกไปสู่สังคมภายนอกและใช้ชีวิตตามวิถีแห่งโลกปัจจุบัน อาทิ แม่ชีประคอง งามชัยภูมิ แม่ชีรัชนี สันทาลุนัย แม่ชีทิพวรรณ เจินยุหะ

มหาปชาบดีเถรีวิทยาลัย จึงเป็นการศึกษาอีกทางเลือกหนึ่งของผู้หญิง ที่ต้องการเรียนทั้งวิชาการ ความรู้ และคุณธรรม  

มหาปชาบดีเถรีวิทยาลัย กำลังเปิดรับสมัครนักศึกษารุ่นใหม่ ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2554 โดยเปิดรับทั้งแม่ชีและฆราวาสหญิงที่จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า จำนวน 200 คน ค่าเรียนเดือนละ 360 บาท สนใจเข้าศึกษา หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ มหาปชาบดีเถรีวิทยาลัย ในสังฆราชูปถัมป์ 95 หมู่ 7 ต.ภูหลวง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา 30150 โทร 044-249398-9 โทรสาร 044-249398

 

“มหาปชาบดีเถรีวิทยาลัย”

 

“มหาปชาบดีเถรีวิทยาลัย”