"ซินแสเข่ง"ฝ่าดวง"ธรรมนัส"รุ่งเสริมส่งรัฐบาลมั่นคง"อนุพงษ์"ร่วง

เมื่อวันที่ 7 กันยายน นายชนม์ทรรศน์ ฤทัยผ่อง หรือ ซินแสเข่ง ผู้อำนวยการสถาบันโหราศาสตร์พยากรณ์แห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์หลังอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ให้จับตาตำแหน่งรมว.มหาดไทยอาจมีการเปลี่ยนแปลงโยกย้ายสลับสับตำแหน่งสำคัญ โดย พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เกิดวันจันทร์ที่ 10 ต.ค. 2492 พื้นฐานดวงอาจมีเหตุขัดใจบ้างกับผู้นำ ความคิดอ่านสวนทางกัน รอบอายุปีนี้ตกดวงเข้าเคราะห์ ถึงเดือนมีนาคม 65 อาจมีเรื่องให้หงุดหงิด ไม่สบายใจ และไม่ได้ดั่งใจที่คาดหวัง ทั้งที่ดวงชะตาตกดวงมีผู้ใหญ่อุปภัมถ์ แต่ในดวงชะตาตนเองมีอุปสรรคอาจเจอเหตุเรื่องเบียดเบียนให้เดือดเนื้อร้อนใจ

อย่าไรก็ตาม ดวงของนักการเมืองที่มาแรงแซงโค้งอนาคตไกลมีโอกาศขึ้นแถวหน้าเป็นโอกาศของ รอ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ร.อ.ธรรมนัสเกิดวันพุธที่ 18 ส.ค.2508 เมื่อผูกดวงกันแล้วเป็นดาวคู่มิตรสมพงษ์ด้วยกันทั้งคู่ ทั้ง พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา แต่ดวงที่แข็งแกร่งแซงโค้งเป็นราศีดาวพุธของ ร.อ.ธรรมนัสจึงทำให้ตกดวงอิทธิฤทธิ์เสริมดวง เสริมดวงชะตาได้ดวงเสริมราศีที่ถือเป็นตัวแทน ด้วยมันสมอง ปฏิภาณไหวพริบ ความเฉลี่ยวฉลาด มีดวงผู้นำ ใจใหญ่ ไม่ยอมคน ถือเป็นดาวอิทธิพล ส่งผลให้ได้รับการสนับสนุน ตำแหน่งหน้าที่การงานได้สำเร็จ แต่ต้องระวังจุดอับดวงเป็นอุปสรรค หากกระทำการสร้างความสับสนหรือเอาเรื่องราวมาทำร้ายจิตใจตนเองให้เป็นอุปสรรค จะทำให้ไม่ประสพความสำเร็จในหน้าที่การเมือง เหมือนคุณหญิง สุดารัตน เกยุราพันธุ์ ที่ไปไม่ถึงดวงดาว

ซินแสเข่ง กล่าวเพิ่มเติมถึงการวิเคราะห์ดวงคู่สมพงษ์ ร.อ.ธรรมนัส ซึ่งสามารถร่วมงานแก้ไขเพราะเป็นดาวคู่มิตร เมื่อผูกดวงแล้วเป็นเสมือนเก้าอี้สามขาที่จะเสริมดวงรัฐบาล ลุงตู่ และบิ๊กป้อม ให้มีความมั่นคงมากขึ้นในการบริหารงาน หากได้แก้จุดอุปสรรคในดวงชะตาที่ทำให้เป็นอุปสรรคทางการเมืองหรือสร้างศัตรู รู้จักถอยหลังบ้าง ระวังรอบปี 65 ตกดวงศัตรูจากผู้ไม่หวังดี ยุแหย่สร้างความขัดแย้ง อิจฉาริษยา ที่จะสร้างความสับสนไม่ไว้วางใจ แตกแยกให้เกิดขึ้น ทำอะไรต้องฟังหูไว้หู

ซินแสเข่ง กล่าวว่า ฮวงจุ้ยอาคารพรรคพลังประชารัฐที่เป็นกองบัญชาการของพรรคสร้างอาคารทับจุดเสีย ทิศทางไม่มีดวง และตำแหน่งวางศาลพระพรหมไม่ถูกจุด ไม่มีพลังทำให้มีอุปสรรคตลอดเวลา ด้วยศาสตร์แห่งฮวงจุ้ยหลักดาว 9 ดวง “เก๋าแช” สร้างจุดเปลี่ยนไร้กำลังอำนาจในการต่อเสริมและเสริมบารมีพรรคก่อให้เกิดอุปสรรคและความขัดแย้งเกิดขึ้น เปรียบเสมือนกับกองบัญชาการบริหารหน่วยรบที่จะต้องมีกำลังในการต่อสู้เพื่อให้ชนะข้าศึก

ทั้งนี้ ตามหลักของศาสตร์แห่งฮวงจุ้ย อาคารเป็นการเสริมบุคคลที่อยู่อาศัย ซึ่งการดูอาคารว่า มีดวงมากน้อยจะต้องดูตามตำแหน่งทิศทาง ตั้งแต่ 0 % คือไม่มีดวงเลย และ 20 30 40 60 70 และมีดวงมากที่สุดคือ 100 % แต่ตำแหน่งอาคารทิศทางที่ตั้งของพรรคพลังประชารัฐ อยู่ในตำแหน่งทิศทางที่มีดวงน้อยมาก หรือแทบไม่มีกำลัง คนจีนเรียกว่า “บ่อลัก” มีเปอร์เซ็นต์ของอาคารมีแค่ 20 - 30% ดวงของอาคารในการอยู่อาศัย ส่งผลให้ผู้อยู่อาศัยต้องเหน็ดเหนื่อยในการบริหารงาน ไม่ได้ดั่งใจที่คาดหวัง ถ้าอาคารมีดวงถึงแม้นคนดวงตกมาอยู่อาศัยก็จะดวงดี

“ อาคารที่ไม่มีพลังจะเกิดผลกระทบคนในพรรคคือ จะมีแต่เรื่องให้เดือดร้อน แตกแยก เพราะสร้างอาคารทับตำแหน่งจุดเสีย หรือที่เหง๋ากุ๋ย หรือที่ 5 ผี หรือที่เจ้าที่อยู่ในอาคาร ต้องระวังจะก่อให้เกิดปัญหาความขัดแย้ง แตกแยกวุ่นวายให้เกิดขึ้น ส่วนตำแหน่งวางศาลพระพรหมไม่อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องอ่อนกำลังไม่ถูกจุดด้วยเหตุนี้ หากต้องการหวังให้สิ่งศักดิ์สิทธิช่วยและคุ้มครอง ท่านก็คงบอกว่า ท่านก็ไม่มีแรงที่จะช่วยคุ้มครองปกปักรักษาและป้องกันอันตราย หรือสิ่งชั่วร้ายทั้งหลายทั้งปวงเพื่อที่จะแก้อาคารให้ดีขึ้น ทางแก้ต้องเปลี่ยนที่ทำการพรรคใหม่“นายชนม์ทรรศน์กล่าว