พระเณรเดือดร้อนหนักน้ำเอ่อท่วมหน้าแล้ง
พระเณรวัดประดู่โลกเชษฐ์เมืองกรุงเก่าเดือดร้อนหนักหลังน้ำล้นตลิ่งเอ่อท่วมหน้าแล้ง
พระเณรวัดประดู่โลกเชษฐ์เมืองกรุงเก่าเดือดร้อนหนักหลังน้ำล้นตลิ่งเอ่อท่วมหน้าแล้ง
พระสงฆ์ที่จำวัดอยู่ที่วัดประคู่โลกเชษฐ์ ม.5 ต.หัวเวียง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยาที่ติดแม่น้ำน้อยและเริ่มมีน้ำล้นตลิ่งตามชุมชนที่ติดแม่น้ำน้อยเดือดร้อนอย่างหนักเนื่องจากผ่านพ้นน้ำท่วมใหญ่ได้ไม่ถึง 3 เดือนกลับต้องผวากับน้ำเอ่อท่วมอีกครั้งหลังจากเขื่อนภูมิพล จ.ตากและเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ เร่งระบายน้ำส่งผลให้น้ำล้นตลิ่งเอ่อท่วมกว่า 200 หลัง ต.บ้านกระทุ่ม และต.หัวเวียง อ.เสนา
พระสมุห์วินัย วิชโย อายุ 49 ปี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดประคู่โลกเชษฐ์ กล่าวว่า นับจากปี 2549 เป็นต้นมาน้ำท่วมวัดและในปี 2554 น้ำท่วมอย่างหนัก พระอุโบสถถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ทางคณะกรรมการวัดจึงบอกบุญชาวบ้านและผู้มีจิตศรัทธาในการหางบประมาณบริจาคมาดำเนินการดีดพระอุโบสถทั้งหลังขึ้นสูง 2.75 เมตรจากฐานเดิม สำหรับการยกดีดนั้นงานรุดหน้าไป 70% แต่หากน้ำเอ่อท่วมนอกฤดูแบบนี้เพราะอาจเป็นอุปสรรค์และส่งผลกระทบต่อการดีดพระอุโบสถทั้งนี้สำหรับน้ำท่วมปี 54 พระสงฆ์เดือนร้อนมากเพราะน้ำท่วมวัดท่วมพื้นกุฏิสงฆ์ ที่ยกใต้ถุนสูงทั้งหมดพระต้องอาศัยในหอสวดมนต์ และข้าวของในวัดเสียหายอย่างมากพระสงฆ์เองก็เดือนร้อน บิณฑบาตไม่ได้ ก็ลำบากเรื่องของกินทั้งอาหารและน้ำ มาในปีนี้ทางวัดจึงเตรียมตัว โดยจัดหาเรือมา 1 ลำ แต่มันเก่าและชำรุดเมื่อน้ำมาก่อนฤดูจึงต้องเร่งดำเนินการซ่อมแซมและยาแนวเพื่อให้พร้อมหากน้ำจะท่วมในช่วงนี้
" อยากให้หน่วยงานภาครัฐได้มีการบริหารจัดการน้ำที่เป็นระบบมากกว่านี้เพราะว่าหากจะเร่งปล่อยน้ำเหนือเขื่อนในหน้าแล้งก็ไม่ควรปล่อยให้น้ำท่วมหรือให้มันล้นตลิ่งเชื่อว่าหากจะปล่อยน้ำเหนือเขื่อนและชาวบ้านไม่เดือนร้อนรัฐบาลน่าจะทำได้ แต่จะทำหรือคำนึงถึงความเดือนร้อนคนท้ายน้ำหรือไม่เท่านั้น"พระสมุห์วินัย กล่าวย้ำ