posttoday

ทบ.ย้ำไร้การข่าวลอบฆ่าทักษิณ

06 พฤศจิกายน 2555

กองทัพบก ย้ำ ไร้การข่าวลอบฆ่า ทักษิณ ยันไม่พบสิ่งผิดปกติ ชี้ จับอาวุธท่าขี้เหล็กไม่เชื่อมโยง"แม่สอด"

กองทัพบก ย้ำ ไร้การข่าวลอบฆ่า ทักษิณ ยันไม่พบสิ่งผิดปกติ ชี้ จับอาวุธท่าขี้เหล็กไม่เชื่อมโยง"แม่สอด"

เมื่อเวลา 13.30 น. ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก แถลงถึงกรณีที่มีการจับกุมอาวุธสงครามบริเวณจ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่าโดยมีการจับตาว่า เชื่อมโยงกับการลอบสังหารพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาได้มีการจับอาวุธตามแนวชายแดนได้ 2 เหตุการณ์ โดยเหตุการณ์แรก เรายังไม่ได้รับคำยืนยันอย่างเป็นทางการ เพราะเป็นเพียงข่าวสารที่ปรากฎตามสื่อว่า มีการตรวจจับอาวุธได้ที่จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ซึ่งทางกองทัพภาคที่ 3 กำลังดำเนินการอยู่ แต่ยังไม่ได้รับรายงานใดๆ ส่วนเหตุการณ์ที่ 2 คือ การจับอาวุธสงครามได้ที่อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งทั้งสองเหตุการณ์ต่างสถานที่ เพราะอ.แม่สอดอยู่ฝั่งตะวันตก ส่วนจ.ท่าขี้เหล็กอยู่ทางเหนือ บางครั้งอาจมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ซึ่งทั้งสองหตุการณ์ไม่ได้มีความเชื่อมโยงกัน สำหรับสถานการณ์ตามแนวชายแดน ทางกองทัพบกมี 7 กองกำลังดูแลตามแนวชายแดนอยู่นั้น ส่วนใหญ่ปัญหาหลักคือ ยาเสพติด อาวุธสงคราม และการบุกรุกทำลายป่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เหตุการณ์แรก เพราะในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา ทางกองกำลังได้ประสานงานกับทางตำรวจ มีการตรวจจับอาวุธสงครามได้หลายคดี

“ในขอบเขตความรับผิดชอบของกองทัพบกยังไม่มีการรายงานว่า การจับอาวุธสงครามดังกล่าวเชื่อมโยงกับการลอบสังหารพ.ต.ท.ทักษิณ และยังไม่พบสิ่งผิดปกติในลักษณะดังกล่าวแต่ทางกองทัพภาคที่ 3 ก็ได้มีการหาข้อมูล แต่ในระดับสูงอย่างสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) รัฐบาล และร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนรายกรัฐมนตรีอาจมีช่องทางอื่นในการประเมินสถานการณ์ด้านการข่าว สำหรับขอบเขตความรับผิดชอบของกองทัพบก ถ้าอยู่ตามแนวชายแดน ทั้งทหารและตำรวจสามารถร่วมกันดูแลได้ ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยผบ.ทบ.เคยมีนโยบายให้เข้มงวดกวดขันในการกระทำผิดกฎหมายและให้ดูที่มาที่ไป โดยร่วมมือกับตำรวจ ซึ่งประมาณ 2 เดือนก่อนหน้านี้เคยจับกุมอาวุธสงครามได้ที่อ.แม่สายได้จำนวนมากกว่าครั้งนี้อีก อย่างไรก็ตามกองทัพบกไม่ได้มองว่า เรื่องดังกล่าวจะเป็นเรื่องการเมืองหรือไม่ แต่ข้อมูลในเรื่องของความมั่นคงเราต้องดูแลในขอบเขตที่รับผิดชอบ ซึ่งงานทางด้านการข่าวไม่สามารถปฏิเสธข้อมูลใดๆได้เลย ซึ่งทันทีที่เรามีข้อมูลใดก็ตามต้องพยายามสืบค้นว่า น่าจะมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน และจะประมาทต่อข้อมูลข่าวสารนั้นไม่ได้”พ.อ.วินธัย กล่าว