ปูยันไม่ยื้อกม.นิรโทษรอกฤษฎีกาสรุป

นายกฯ ปัด สนธยา เข้าพบ ปม กำนันเป๊าะ ยันไม่ยื้อกม.นิรโทษกรรม รอกฤษฎีกาสรุป ไม่เอื้อทักษิณ โยนมั่นคง ดู เคอร์ฟิวใต้

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายสนธยา คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เข้าพบว่า ไม่ได้เป็นการเข้าพบเป็นการส่วนตัว แต่เป็นเพียงการพารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมของสาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสเดินทางมาร่วมงานเทศกาลตรุษจีนในประเทศไทย ทั้งนี้ ยืนยันว่า ฝ่ายการเมืองไม่ได้เข้ามาแทรกแซงการจับกุมนายสมชาย คุณปลื้ม หรือกำนันเป๊าะ รวมทั้งไม่ได้ให้สิทธิ์พิเศษให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอน

นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวถึงการประกาศเคอร์ฟิว ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ให้หน่วยงานความมั่นคงพิจารณาในเรื่องนี้ โดยต้องดูพื้นที่ที่มีความถี่ในการเกิดเหตุ พิจารณาว่าใช้ความรุนแรงมากน้อยแค่ไหน และที่สำคัญต้องดูมาตรการที่ออกมา แต่ทั้งนี้ฝ่ายความมั่นคงต้องดูรายละเอียดอีกครั้ง ขณะที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี และพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความคิดเห็นที่ขัดแย้งกันในเรื่องนี้นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะต้องมีการพูดคุยกันโดยเฉพาะในพื้นที่ ซึ่งตนเองได้เน้นย้ำไปแล้วว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องวิเคราะห์ และติดตามปัญหา แล้วนำสถิติมาดูเพื่อฝ่ายความมั่นคงจะได้กำหนดมาตรการในการดูแล ซึ่งถือเป็นเรื่องที่จะต้องดำเนินการก่อน โดยย้ำว่าจะเน้นการพัฒนาในพื้นที่ แต่หากบางพื้นที่มีปัญหาความไม่สงบ จำเป็นที่ต้องให้ฝ่ายความมั่นคงเข้าไปดูแลแทนเจ้าหน้าที่ปกติ และมองว่าทุกพื้นที่ต้องการการพัฒนาที่เหมือนกัน และหน่วยงานก็กำลังบูรณาการกันอย่างเต็มที่

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันว่า มีแนวคิดที่จะประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ ในจังหวัดชายแดนภาคใต้

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่าไม่ได้เป็นการดอง หรือยืดเวลากฎหมายนิรโทษกรรม โดยทุกแนวทางที่ส่งมายังรัฐบาล ได้ส่งมอบให้กฤษฎีกาพิจารณาแล้ว ยันคงเหลือขั้นตอนการสรุป ทั้งนี้อยากเห็นกฎหมายนิรโทษกรรม ภายในปีนี้ ถ้าทุกอย่างมีทางออก และสามารถเดินหน้าต่อไปได้ และเชื่อว่า ทุกคนก็อยากเห็นประเทศมีทางออก และทุกภาคส่วนยอมรับ ใช้กลไกที่ถูกต้อง ทั้งนี้ยืนยันว่า การออกกฎหมายนิรโทษกรรมครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่เป็นการทำเพื่อส่วนรวม อย่างไรก็ตาม การออกกฎหมายเป็นหน้าที่ของสภา รัฐบาลเป็นเพียงกลไกหนึ่งในการสนับสนุน เพราะว่าระเบียบการออกกฎหมายต่างๆ เป็นหน้าที่ของสภาในการตัดสินใจ

ทั้งนี้ไม่ห่วงว่า กลุ่มคนเสื้อแดงจะนำประเด็นดังกล่าวมาเป็นเรื่องในการต่อรองการปรับคณะรัฐมนตรี เพราะทำตามกลไกของประชาธิไตย