อาสาสมัครเรียกร้องสิทธิสัตว์

โดย...วันพรรษา อภิรัฐนานนท์

เป็นที่รู้จักกันดีในกลุ่มโซเชียลเน็ตเวิร์ก ในฐานะของกลุ่มอาสาสมัครเรียกร้องสิทธิสัตว์ที่ได้ชื่อว่า “ฮาร์ดคอร์” ที่สุดกลุ่มหนึ่งในการตีแผ่ความจริง ทะลุทะลวงเบื้องลึกเบื้องหลังของหลายเหตุการณ์ที่มีสัตว์เป็นเหยื่อ พวกเขาคือ อะ คอล ฟอร์ แอนิมอล ไรท์ ไทยแลนด์ (A CALL for Animal Rights Thailand) เรียกตัวเองสั้นๆ ว่า กลุ่มอะคอล

ปิยะวรรณ ตั้งสกุลสถาพร หรือปุ้ย อายุ 32 ปี ผู้ก่อตั้งเล่าว่า กลุ่มก่อตั้งเมื่อ 2 ปีก่อน ผู้ก่อตั้งก็เป็นคนธรรมดาๆ คนหนึ่ง มีอาชีพเป็นคุณครู โดยมีโรงเรียนของตัวเองชื่อ เดอะ ซิลลาบัส บาย ครูปุ้ย (The Syllabus by Kru Pui) เป็นโรงเรียนกวดวิชาตั้งอยู่ที่ฟอร์จูนทาวเวอร์ ถนนรัชดาภิเษก

“เมื่อ 2 ปีที่แล้ว มีข่าวการทำทารุณกรรมสัตว์ ตั้งแต่สุนัขชื่อน้องฟลุกถูกฟัน จนถึงข่าวหมาจำนวนมากถูกลักลอบนำไปขายเป็นสินค้าที่ จ.นครพนม เราเห็นคนโวยวายกันอยู่แต่ในคอมพิวเตอร์ ก็คิดว่าคนไทยรักสัตว์เชื่อว่ามีเยอะ ทำไมไม่ก้าวออกมา ตัดสินใจก้าวออกมาตอนนั้น”

 

เริ่มจากการติดต่อกลุ่มต่างๆ ที่มีอยู่แล้วในเฟซบุ๊ก ประสานงานไปว่า เราจะออกมาวอล์กแรลลีเรียกร้องให้มี พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ ปรากฏว่าทั้งกลุ่มองค์กร เอ็นจีโอ และกลุ่มจิตอาสาทั่วไปออกมาร่วมเดินเรียกร้องด้วยกันอย่างคึกคักกว่า 1,000 คน ถือเป็นการรวมตัวกันที่เยอะที่สุดของกลุ่มคนรักสัตว์ในประเทศไทยเท่าที่เคยมีมา

หลังจากนั้นอะคอลก็ออกมาเรียกร้องสวัสดิภาพสัตว์อีกหลายชนิด ไม่ใช่แค่สุนัข ปี 2554 ซึ่งน้ำท่วมใหญ่ อะคอลได้จัดกลุ่มจิตอาสาออกไปช่วยหมาแมวน้ำท่วม โดยเฉพาะในเขตต่างจังหวัดห่างไกลมากๆ ที่คนเข้าไม่ถึง ปีเดียวกันนั้นอะคอลได้รับรางวัลแทนคุณแผ่นดินจากคมชัดลึก ในฐานะกลุ่มคนที่มีคุณค่าทางสังคม

“เราเรียกร้องอย่างต่อเนื่อง ตีแผ่ความเป็นจริงของเรื่องที่เกิดขึ้น ต่อเนื่องและไม่หยุด ชี้แจงความจริง ทั้งข้อมูล รูปภาพ คลิป ฯลฯ บางคนติติงว่าภาพดูโหดร้าย แต่นั่นคือความจริงที่บอกเล่าอย่างชัดเจนที่สุด” ปุ้ยเล่า

หลายครั้งที่อะคอลสามารถหยุดยั้งการกระทำความเลวร้ายต่อสัตว์ ล่าสุดการแสดงช้างในเขาดิน อะคอลร้องเรียนไปยังองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยถึงการทารุณ มีการเอาตะขอสับหัวช้างจนเลือดอาบ เบื้องหลังการแสดงคือความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส ช้างเป็นช้างเช่ามาจากปางอยุธยา ปัจจุบันองค์การสวนสัตว์ฯ ยกเลิกสัญญาการแสดงช้างทั้งหมด ทั้งในเขาดินและในทุกสวนสัตว์ที่อยู่ภายใต้การดูแล

หรือกรณีของการย่างลูกหมาขายเป็นอาหารที่ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเมื่ออะคอลเข้าไปสำรวจก็พบว่าเป็นการจับอีเห็นในป่ามาย่างขายนักท่องเที่ยว กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่ทันที กลายเป็นเรื่องของชาวบ้านที่ต้องโกหกว่าเป็นลูกหมา เพราะอีเห็นเป็นสัตว์คุ้มครอง เรื่องจบลงด้วยการดำเนินคดีชาวบ้านที่กระทำผิด

“ดีใจที่ช่วยสัตว์ได้ แต่ก็ต้องเรียนตรงๆ ว่ายังมีอีกเยอะที่ต้องทนรับกรรมจากน้ำมือมนุษย์ ขั้นตอนต่อไปก็คือการเรียกร้อง พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ เราอยากได้การสนับสนุนจากรัฐบาล ที่เราต้องออกมาเรียกร้องก็เพราะรัฐบาลไม่ทำอะไร ประชาชนต้องช่วยกัน”

เมื่อรู้ความจริงที่เกิดขึ้นกับสัตว์ คนส่วนใหญ่จะรับไม่ได้และลุกขึ้นมาร่วมต่อสู้เพื่อสัตว์ ปัจจุบันอะคอลมีแฟนเพจในเฟซบุ๊ก 4.2 หมื่นคน ถือเป็นสื่อกลางและกระบอกเสียงของสัตว์ ขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่ปลุกเร้า ให้ความรู้ผู้คน เผยแพร่ข้อมูลให้ได้รับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับสัตว์ ร่วมกันเป็นพลัง เพื่อผลักดันแนวทางที่ดีที่สุดแก่สัตว์เพื่อนร่วมโลก

“อะคอลไม่ดราม่า เราพูดตรง ให้ข้อมูลตรง เพราะความรู้คืออาวุธที่ดีที่สุดในการเปลี่ยนแปลง” ปุ้ยเล่า

ปัจจุบันอะคอลมีทีมงานที่หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันเข้ามาช่วยด้วยจิตอาสา ขอบคุณทุกคน ทุกองค์กร ทุกทีม และประชาชนทุกคนที่เกี่ยวข้อง อะคอลคงทำงานไม่ได้ ถ้าไม่ได้รับพลังจากทุกคน สำหรับผู้สนใจติดต่อทีมงานของกลุ่ม หรือเข้าไปเยี่ยมชมกิจกรรมได้ที่ www.facebook.com/ACALLforAnimalRightsThailand