posttoday

สว.ห่วงชุมนุมบานปลายแนะหันหน้าเจรจา

27 พฤศจิกายน 2556

คณะ สว. 20 คน แถลงห่วงสถานการณ์ชุมนุมบานปลาย เรียกร้องทุกฝ่ายหันหน้าเจรจา

คณะ สว. 20 คน แถลงห่วงสถานการณ์ชุมนุมบานปลาย เรียกร้องทุกฝ่ายหันหน้าเจรจา   

เมื่อเวลา 10.30 น. ที่รัฐสภา คณะส.ว.จำนวน 20 คน นำโดยนายวิชาญ ศิริชัยเอกวัฒน์ ส.ว.สรรหา ร่วมกันแถลงข่าวเป็นห่วงสถานการณ์การเมืองว่า  จากสถานการณ์การเมืองที่คนในสังคมเกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงในขณะนี้ มีมวลชนทั้งฝ่ายต่อต้านและสนับสนุนการทำหน้าที่ของรัฐบาลออกมาชุมนุมจำนวนมากเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการตามที่ฝ่ายตนต้องการ ส่งผลกระทบต่อความสงบสุขของประชาชน ความมั่นคงและระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเชื่อมั่นของนานาประเทศที่มีต่อประเทศไทย และสถานการณ์ในขณะนี้มีแนวโน้มว่าอาจจะก่อให้เกิดความรุนแรงมากขึ้น และมีความเสี่ยงต่อการนำประเทศไปสู่วิกฤตในทุก ๆด้าน ทั้งการแตกความสามัคคีของคนในชาติ ความสูญเสียทางด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคงของประเทศ และความเป็นรัฐที่ล้มเหลว

นายวิชาญ กล่าวอีกว่า ในฐานะส.ว.ที่เป็นผู้แทนของประชาชนชาวไทยมีความห่วงใย และกังวลต่อสถานการณ์ความขัดแย้ง และปัญหาต่าง ๆของบ้านเมืองที่เกิดขึ้น จึงขอเรียกร้องให้ 1.ประชาชนคนไทยทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย โปรดมีสติ ใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจในปัญหาและความขัดแย้งที่เกิดขึ้น โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อมูล ข้อเท็จจริง และเหตุผลโดยคำนึงถึงความสงบสุข ความมั่นคง และประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ 2. ขอให้ผู้ชุมนุมทุกฝ่ายดำเนินกิจกรรมภายใต้กรอบของกฎหมาย เคารพในสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น ยุติและหลีกเลี่ยงการกระทำที่เป็นการยั่วยุ การสร้างความเกลียดชัง ซึ่งกันและกัน ตลอดจนการใช้ความรุนแรง และฝ่าฝืนกฎหมายใดๆ ที่อาจนำพาสังคมและประเทศไปสู่ความสูญเสีย ดังที่เคยมีบทเรียนในอดีต 3. ขอให้รัฐบาลดูแลความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมของทุกฝ่าย โดยเคารพสิทธิเสรีภาพของประชาชน หลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงในทุกกรณี หากสุดวิสัยขอให้ดำเนินการตามหลักกฎหมาย หลักสิทธิมนุษยชน และกติกาสากล


นายวิชาญ กล่าวอีกว่า  4. ขอให้ทุกสถาบัน หน่วยงาน และองค์กรตามรัฐธรรมนูญปฏิบัติหน้าที่โดยยึดมั่นในหลักการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ภายใต้หลักนิติรัฐ และนิติธรรม ด้วยความสุจริตปราศจากอคติความเอนเอียง และผลประโยชน์ของตนและพวกพ้อง   และ 5 . เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้น ในขณะนี้มีสาเหตุมาจากความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นปัญหาที่ยืดเยื้ออยู่ในสังคมไทยมาเป็นเวลานาน จนไม่สามารถที่จะแก้ไขให้สำเร็จในเร็ววันได้ โดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องใช้ทั้งเวลากระบวนการ และสถานการณ์ที่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งความจริงใจในการแก้ไขปัญหา จึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหันหน้าเจรจาร่วมกันอย่างจริงใจ โดยให้คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริงเป็นที่ตั้งเพื่อนำพาสังคมไทยออกจากความขัดแย้ง และนำประเทศไปสู่ความมั่นคงในทุกๆด้านโดยเร็วต่อไป

นางนฤมล ศิริวัฒน์ ส.ว.อุตรดิตถ์  กล่าวว่า สถานการณ์ประเทศตอนนี้ถึงขั้นวิกฤติโคม่า แล้ว ซึ่งรัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีก็ระบุว่าอยากให้มีการเจราเพื่อหาทางออก ซึ่งก็ถึงเวลาที่รัฐบาลจะต้องเป็นผู้ออกโรง ตั้งวงเริ่มเจรา โดยมีบุคคลที่มีสังคมให้ความเชื่อถือมาร่วมเจรจา  ไม่เช่นนั่นความมุ่งหวังของนายกฯจะเป็นวาจา  

ขณะที่พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี ส.ว.สรรหา กล่าวว่า การเจรจาถือเป็นแนวทางหาทางอกอีกทางหนึ่ง แต่ตนเห็นว่าภายหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแล้ว รัฐบาลก็ไม่หวงอำนาจอีก ควรจะยุบสภา คืนอำนาจให้กับประชาชาชน จะเป็นทางออกที่ดีกว่า  ส่วนที่กลุ่มผู้ชุมนุมประกาศว่าแม้จะยุบสภาหรือรัฐบาลลาออกก็ไม่ใช่เป้าหมายนั้น ตนคิดว่าหากรัฐบาลยุบสภา กลุ่มต่อต้านก็ต้องยอมรับเพราะเป็นกติกาในระบอบประชาธิปไตย

ภาพ @news1005fm