ทางรอด‘มนุษย์เงินเดือน’เผชิญยุคเงินหาย
“ชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันไป” วลีเด็ดตลอดกาลของเหล่ามนุษย์เงินเดือน
โดย...อินทรชัย พาณิชกุล
“ชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันไป”
วลีเด็ดตลอดกาลของเหล่ามนุษย์เงินเดือน คนหาเช้ากินค่ำที่ไม่ได้ร่ำรวยมาจากไหน อาศัยเพียงลูกขยัน ทำงานหนัก รู้จักใช้จ่ายรู้จักอดออม หวังเก็บหอมรอมริบเงินทุกบาททุกสตางค์ยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นกว่าเดิม
ทว่า ในยุคที่รายได้เท่าเดิมแต่ค่าครองชีพสูงขึ้น บรรดามนุษย์เงินเดือนจึงต้องปรับตัวเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตเพื่อชักหน้าให้ถึงหลัง และพอมีเงินเก็บเพื่อสร้างอนาคต
อนุชิต ยุวนากร อายุ 27 ปี นักออกแบบตกแต่งภายใน กางตารางค่าใช้จ่ายให้เห็นภาพวงจรชีวิตมนุษย์เงินเดือน พ.ศ.นี้ไว้อย่างน่าสนใจ
“เงินเดือน 1.85 หมื่นบาท ค่าอาหารบางวันกินธรรมดาๆ ก็ไม่เกิน 100 บาท บางวันพาแฟนไปกินดีหน่อยบนห้างก็ 500-1,000 บาท ค่าน้ำมันรถวันละ 70 บาท ส่งให้พ่อใช้เดือนละ 3,000 บาท ค่าบุหรี่
วันละซอง ซองละ 70 บาท ดื่มเหล้าดื่มเบียร์เกือบทุกวัน 200-1,000 บาท ช่วยจ่ายค่าห้องกับแฟนเดือนละ 1,000-2,000 บาท ยังไม่รวมหนี้ที่ยืมเจ้านายยืมเพื่อนมาต้องทยอยใช้เขาอีกทั้งหมด 2 หมื่นบาท พูดง่ายๆ ติดลบทุกเดือนครับ”
วิธีกอบกู้สถานการณ์ คือ รับจ๊อบนอกเวลาเพื่อสร้างรายได้เพิ่ม แล้วนำเงินส่วนนั้นมาใช้หนี้ รวมถึงการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเสียใหม่ ลดความฟุ้งเฟ้อไร้สาระ
“ทำงานมา 2 ปีก็ยังดีได้รถมอเตอร์ไซค์มาคันนึงกับไอโฟน 5 เอสอีกเครื่อง ตอนนี้กำลังย้ายที่ทำงาน ย้ายหอใหม่ ไกลจากเพื่อนฝูง ไกลจากสังคมเดิมๆ อาจมีการพบปะสังสรรค์น้อยลง ระหว่างนั้นก็นำเงินไปใช้หนี้ให้หมด โชคดีอาจพอมีเงินเหลือเก็บ ส่วนเรื่องซื้อคอนโด มีบ้านของตัวเองยังอีกไกลครับ”
สมประสงค์ บุญพุ่มพวง อายุ 35 ปี พนักงานธนาคาร มองว่า ถ้าไม่อยากให้ชีวิตยุ่งยาก อย่าเป็นหนี้โดยเด็ดขาด
“หนี้บัตรเครดิต ผมถือว่าเป็นปีศาจร้ายดีๆ นี่เอง เห็นหลายคนตายทั้งเป็นเพราะเป็นหนี้บัตรเครดิต 4-5 ปีกว่าจะโปะหมด ทำงานมาเป็นสิบปียังไม่มีเงินเก็บสักบาท แบบนี้ไม่ไหวครับ เงินเดือนออกมาจงกันไว้เป็นเงินออมเลย 40% ที่เหลือค่อยใช้จ่าย มีแค่ไหนใช้แค่นั้น อย่าใช้เงินเกินตัว”
ธิดารัตน์ จันทะโชติ วัย 30 ปี กราฟฟิกดีไซเนอร์ เชื่อว่าการมีอิสรภาพทางการเงินจะช่วยให้ชีวิตมนุษย์เงินเดือนอย่างเธอสามารถลืมตาอ้าปากได้
“เป็นเด็กต่างจังหวัดมาทำงานในกรุงเทพฯ ก็ฝันอยากจะมีบ้านสักหลัง แต่กว่าจะได้คงเหนื่อย เพราะเราต้องมีเงินเก็บ ปัญหาคือทุกวันนี้เงินเดือนแทบไม่พอเก็บ เพราะมีค่าใช้จ่ายเยอะแยะไปหมด ยกตัวอย่าง เงินเดือน 2.5 หมื่นบาท ค่าเช่าบ้านก็ปาเข้าไป 5,000 บาท กินวันละ 2 มื้อ เฉลี่ยวันละ 200 บาท ตกเดือนละ 6,000 กว่าบาท กินดื่มสังสรรค์สัปดาห์ละครั้ง ครั้งละ 300-500 บาท ค่าซื้อข้าวของจิปาถะประสาผู้หญิงๆ อีก แค่นี้ก็เกลี้ยงแล้ว นี่อายุ 30 ยังไม่มีอะไรสักอย่าง”
ทางรอดคือต้องหารายได้เสริมด้วยการริเริ่มหาช่องทางทำธุรกิจ ตอนนี้ก็กำลังศึกษาเกี่ยวกับการทำธุรกิจอาหารชีวจิต สั่งผ่านเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ซึ่งน่าจะเหมาะกับไลฟ์สไตล์คนกรุงเทพฯ ที่ค่อนข้างเร่งรีบ อีกอย่างที่สำคัญ คือ การลงทุน เดี๋ยวนี้มีข้อมูลให้ความรู้เกี่ยวกับการออม การลงทุนมากมาย แต่คนมักไม่ค่อยให้ความสำคัญ ส่วนตัวคิดว่ายิ่งไม่รวยยิ่งต้องรู้ โดยเฉพาะคนที่เพิ่งเริ่มทำงาน ถ้ารู้จักเก็บเงินรู้จักลงทุนจะได้เปรียบมาก