"ดร.เกรียงไกร" ดุษฎีบัณฑิตวัย 84 ปี...ไม่มีใครแก่เกินเรียน
เปิดใจดุษฎีบัณฑิตวัย 84 ปี "ดร.เกรียงไกร ตวงวรนันท์" ผู้เริ่มเรียนปริญญาหลังวัยเกษียณทั้งตรี-โท-เอก
เปิดใจดุษฎีบัณฑิตวัย 84 ปี "ดร.เกรียงไกร ตวงวรนันท์" ผู้เริ่มเรียนปริญญาหลังวัยเกษียณทั้งตรี-โท-เอก
"ไม่มีใครแก่เกินเรียน" สำนวนเป็นความจริงแท้ที่ได้รับการพิสูจน์มาแล้วนับไม่ถ้วนว่า ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ การเรียนรู้สิ่งใหม่ก็ยังคงเกิดขึ้นได้เสมอ เพราะการศึกษาไม่มีวันสิ้นสุด
เช่นเดียวกับ "เกรียงไกร ตวงวรนันท์" ดุษฎีบัณฑิต อายุ 84 ปี จากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่ตัดสินใจเริ่มเรียนระดับปริญญาทั้งระดับตรี โท และเอก ในวัยเกษียณ จนสำเร็จทั้งหมด
ดร.เกรียงไกร กล่าวว่า การเป็นผู้สูงอายุจำเป็นต้องช่วยเหลือตนเอง จะหวังพึ่งพาจากภาครัฐหรือจากคนอื่นฝ่ายเดียวก็ไม่สมควร เมื่อเรามีโอกาสได้เข้ามาเรียนหนังสือ จะทำให้เราได้พัฒนาสมอง รู้ทันเหตุการณ์ และยังสามารถนำความรู้ไปทำงานหารายได้ให้ตนเอง ไม่เป็นภาระให้กับใคร
"ผมเชื่อว่า การศึกษาสามารถเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต หลายคนเคยบอกว่า รามฯเข้าง่ายออกยาก ผมมองว่าเป็นเรื่องดีที่จะช่วยพัฒนาบัณฑิตให้มีคุณภาพก่อนไปสู่ตลาดแรงงาน"
เขาเล่าถึงเส้นทางสู่ปริญญาเอกว่า ช่วงที่เรียนอยู่ชั้นปริญญาโทนั้น โครงการบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต ได้เปิดโครงการขึ้นใหม่จึงตัดสินใจเลือกเรียนต่อระดับปริญญาเอกเป็นรุ่นที่ 2 โดยใช้เวลาเรียน 4 ปีครึ่ง ที่เลือกเรียนเพราะเชื่อมั่นในคุณภาพของอาจารย์และการบริหารงานโครงการ มีอาจารย์อันเป็นที่รัก มีเพื่อนหลายวัย ทำให้สนุกกับการเรียน และทุกคนจะเรียนหนังสือกันด้วยความเป็นพี่น้อง
"ยิ่งอายุมากขึ้นเท่าไร ยิ่งต้องพัฒนาสมอง ถ้าเราหยุดค้นคว้า หยุดพัฒนา ความจำก็จะเลือนหายไปด้วย ผู้สูงอายุไม่ใช่ผู้ที่หมดสภาพ เมื่อมีเวลาว่างผมก็ออกกำลังกาย และยังทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาบริษัทเรือ HYUNDAI MERCHANT MARINE (THAILAND) และกรรมการร่วมบริษัท THAI ENG KONG CONTAINER SERVICESด้วย”
ดุษฎีบัณฑิต วัย 84 ปี กล่าวอีกว่า มหาวิทยาลัยรามคำแหงเป็นมหาวิทยาลัยที่เปิดโอกาสให้กับทุกคน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ซึ่งรามฯไม่จำกัดอายุในการเรียน ทำให้คนทุกวัยได้เรียนหนังสือ เมื่อผมเข้ามาเรียนก็พยายามเรียนให้เข้าใจ ถึงอายุจะมาก แต่ร่างกายยังแข็งแรง สามารถฟัง พูด อ่าน เขียนได้ปกติ เวลาอาจารย์สอนผมก็จะฟังแล้วเขียนโน้ตย่อเอาไว้ แล้วนำมาทบทวนเวลาสอบ ซึ่งผมจะวางแผนในการเรียนทุกด้าน จึงไม่มีอุปสรรคในการเรียน และยังมีกำลังใจจากลูกชาย นายแพทย์ พลเรือโทสุรเสน ตวงวรนันท์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพเรือด้วย
ทั้งนี้ ในระดับปริญญาเอก ได้เขียนดุษฎีนิพนธ์ เรื่อง “คุณภาพชีวิตผู้สูงอายุหลังวัยเกษียณ” โดยถ่ายทอดประสบการณ์ชีวิต เรื่องราวหลากหลายที่เกี่ยวกับการจัดการการศึกษา การวางแผนการเงินส่วนบุคคล การบริหารงาน และสุขภาพ ซึ่งทุกเรื่องล้วนเกี่ยวข้องกับการบริหารชีวิตและส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุหลังวัยเกษียณ
“วันนี้ผมสำเร็จการศึกษาจนถึงระดับปริญญาเอกแล้ว ร่างกายยังไหวก็จะท่องเที่ยว เพราะการท่องเที่ยวก็เป็นการพัฒนาความรู้อีกด้าน ทำให้ทันต่อโลกด้วย ดีใจที่แม้ว่าอายุ 84 ปีแล้ว จบจากรามคำแหงจนถึงดีกรี ดร. เป็นลูกหม้อจากรามคำแหงทั้งสามปริญญา ถือเป็นความภาคภูมิใจอย่างสูงสุด”
ดร.เกรียงไกร ฝากถึงลูกหลานชาวรามฯด้วยว่า ในฐานะที่เป็นผู้สูงอายุในครอบครัวรามฯ ขอฝากลูกๆหลานๆที่กำลังเรียนหนังสืออยู่ว่า ถ้ามีสิ่งใดที่เราไม่รู้ ไม่ต้องอาย ที่จะถามใคร แล้วเราก็จะรู้ เพราะวิชาความรู้ เทคโนโลยีใหม่ๆมันเปลี่ยนแปลง ต่างคนต่างรู้เอามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน เช่นที่ผมเลือกมาเรียนชั้นปริญญาเอก ก็อยากพัฒนาตนเอง ได้เจอเพื่อนที่ต่างวัย และได้ช่วยเหลือกันและกันในระหว่างเรียน
“การเรียนก็ต้องเรียนให้เข้าใจ ลูกๆหลานๆอายุยังน้อย ยังเป็นหนุ่มสาว การเรียนรู้ยังเร็วกว่าผู้สูงวัยด้วย แม้ว่าวันนี้ผมจบชั้นปริญญาเอกแล้ว ก็จะไม่หยุดเรียน จะเรียนรู้จากการอ่านหนังสือและค้นคว้าทางอินเทอร์เน็ตให้เป็นความรู้ต่อเนื่องไปตลอดชีวิต ส่วนเคล็ดลับที่ทำให้อายุยืนนั้น ก่อนอื่นเราต้องรู้จักทำใจ และยอมรับกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นรอบตัว แล้วเราก็จะมีความสุข อายุก็จะยืนด้วย”ดุษฎีบัณฑิต วัย 84 ปี กล่าว