วิป 3 ฝ่าย ยังไม่เคาะ มาตรการเก็บภาษีอาหาร-เครื่องดื่มน้ำตาลสูง
ที่ประชุมวิป 3 ฝ่าย ยังไม่เคาะ มาตรการเก็บภาษีอาหาร เครื่องดื่ม น้ำตาลสูง แนะ ศึกษาข้อมูลเพิ่ม ใช้กม.เดิม ก่อน พร้อมเดินหน้ารณรงค์ประชาชนดูแลสุขภาพ
ที่ประชุมวิป 3 ฝ่าย ยังไม่เคาะ มาตรการเก็บภาษีอาหาร เครื่องดื่ม น้ำตาลสูง แนะ ศึกษาข้อมูลเพิ่ม ใช้กม.เดิม ก่อน พร้อมเดินหน้ารณรงค์ประชาชนดูแลสุขภาพ
เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. เมื่อเวลา14.00 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังประชุมคณะกรรมการประสานงานรวม 3 ฝ่าย ประกอบด้วย รัฐบาล สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.)ว่า ที่ประชุมวิปฯได้มีการหารือใน 3 เรื่อง เรื่องแรกคือเรื่องของธนาคารที่ดิน ซึ่งทาง สปท. ได้เสนอมาเพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนที่ต้องสูญเสียที่ดิน ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร โดยพิจารณาดูวิธีการดำเนินการ รวมถึงผลที่จะเกิดขึ้นแล้ว เห็นว่าเป็นการสอดคล้องกับแนวทางของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งเรื่องของธนาคารที่ดินจะเป็นส่วนหนึ่งที่สนับสนุนนโยบายที่ดินแห่งชาติของรัฐบาลให้เดินหน้าต่อไปได้อย่างดีขึ้น
นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า เรื่องที่สองสปท. ได้เสนอมาตรการเก็บภาษีอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเกินมาตรฐาน โดยเรื่องนี้ที่ประชุมมีความเห็นว่า มีงาน 3 ส่วนที่ดำเนินการไปได้พร้อมๆกัน 1.การรณรงค์ให้ประชาชนระวังเรื่องของสุขภาพ ที่มีผลจากการบริโภคน้ำตาลเกินมาตรฐาน 2.มีมาตรการที่เกี่ยวข้องบางอย่าง สำหรับดูแลอารหารและเครื่องดื่มให้กับประชาชน ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) และหน่วยงานที่เกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค จะสามารถเข้าไปดูแลในส่วนนี้ได้ ว่าอะไรที่ไม่ได้มาตรฐาน
ทั้งนี้ที่ประชุมไม่ได้หารือเฉพาะเรื่องความต้องการเก็บภาษี แต่ยังพูดคุยเรื่องสาธารณสุขของประชาชน ในส่วนของโรคภัยต่างๆที่อาจเกิดจากการบริโภคอาหารที่ไม่ได้มาตรฐาน อาทิ โรคมะเร็ง โรคหัวใจ ส่วนเรื่องของการเก็บภาษีนั้น ทางสมาคมผู้ประกอบการอาหาร ยังคงต้องพูดคุยกับกระทรวงการคลังต่อไป และนำความเห็นจากทุกฝ่ายมาประกอบ ดังนั้นเรื่องของการเก็บภาษีจึงยังไม่ถึงขั้นออกกฎหมายกันในขณะนี้ แต่ยังคงเดินหน้ามาตรการรณรงค์ ในการดูแลรักษาสุขภาพ ส่วนเรื่องสุดท้ายที่หารือกันวันนี้ คือเรื่องการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว เนื่องจากมีความเห็นที่แตกต่างกันระหว่าง สปท. กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง รวมถึงยังไม่ได้ฟังความเห็นรอบด้านโดยเฉพาะกระทรวงการต่างประเทศ วันนี้ที่ประชุมจึงได้ให้หน่วยงานเกี่ยวข้องกลับไปศึกษาเพิ่มเติม และจะนำกลับมาเสนอใหม่ภายใน 30 วัน