posttoday

นครศรีธรรมราช จังหวัด 12 นักษัตร

19 มิถุนายน 2559

จ.นครศรีธรรมราช ที่มีคำขวัญว่า นครศรี ธรรมราช เมืองประวัติศาสตร์ พระธาตุทองคำ ชื่นฉ่ำธรรมชาติ แร่ธาตุอุดม

โดย...ส.สต

จ.นครศรีธรรมราช ที่มีคำขวัญว่า นครศรี ธรรมราช เมืองประวัติศาสตร์ พระธาตุทองคำ ชื่นฉ่ำธรรมชาติ แร่ธาตุอุดม เครื่องถมสามกษัตริย์ มากวัดมากศิลป์ ครบสิ้นกุ้งปูเป็นจังหวัดที่ 2 ที่กลุ่มเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ สำนักบริหารกลาง และสำนักศิลปากรที่ 14 พาคณะสื่อมวลชน ทีวี วิทยุ และหนังสือพิมพ์ เดินทางไปเยี่ยมชม

จุดที่กำหนดให้สื่อชมล้วนแต่เป็นไฮไลต์ของประเทศ ไม่ใช่ของ จ.นครศรีธรรมราช เท่านั้น จุดแรกได้แก่ พระบรมธาตุเจดีย์ ณ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จุดที่ 2 พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครศรี ธรรมราช จุดที่ 3 โบราณสถานโบสถ์พราหมณ์ และวัดวังตะวันตก

นครศรีธรรมราช จังหวัด 12 นักษัตร

 

แต่ละแห่งอยู่ในเมือง บ่งบอกความเป็นมาของเมืองนครศรีธรรมราช ว่าเป็นเมืองโบราณและยิ่งใหญ่ ตั้งอยู่ที่เดิมโดยมิได้ล่มสลาย เหมือนเมืองอื่นๆ ของไทย จึงต้องเขียนอย่างน้อย 2 ตอน เพราะแต่ละแห่ง แต่ละสถานที่มีความเป็นมาที่ยาวนานและยั่งยืน  เป็นที่น่าอัศจรรย์

ตราประจำจังหวัด ได้แก่ 12 นักษัตร ล้อมรอบพระบรมธาตุเจดีย์  หนังสือคู่มือที่สำนักศิลปากรที่ 14 มอบให้สื่อมวลชนเล่าถึงที่มาของ 12 นักษัตร ว่า มีความเป็นมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าจันทรภาณุศรีธรรมราชแห่งกรุงตามพรลิงก์ ที่ทรงเดชานุภาพ ปกครองเมืองโดยรอบ 12 เมือง แต่ละเมืองมีตรา 12 นักษัตรประจำเมือง และต้องส่งเครื่องบรรณาการแก่เจ้าผู้ครองเมืองตามพรลิงก์ หรือนครศรีธรรมราช ในฐานะประเทศราช

นครศรีธรรมราช จังหวัด 12 นักษัตร

 

1 เมืองสายบุรี ใช้ตราหนู 2 เมืองปัตตานี ใช้ตราวัว 3 เมืองกลันตัน ใช้ตราเสือ 4 เมืองปะหัง ใช้ตรากระต่าย 5 เมืองไทรบุรี ใช้ตรางูใหญ่  6 เมืองพัทลุง ใช้ตรางูเล็ก 7 เมืองตรัง ใช้ตราม้า 8 เมืองชุมพร ใช้ตราแพะ 9 เมืองบันทายสอ ใช้ตราลิง สันนิษฐานเป็นเมืองไชยา ในปัจจุบัน 10 เมืองสระอุเลา ใช้ตราไก่ สันนิษฐานว่าเป็นเมืองท่าทองอุแท หรือกาญจนดิษฐ์  11 เมืองตะกั่วป่า ใช้ตราสุนัข และ 12 เมืองกระบุรี ใช้ตราหมู  ปัจจุบันมีฐานะเป็นอำเภอใน จ.ระนอง

เห็นภาพรวมของจังหวัดแล้ว จากนี้ก็ตามสำนักศิลปากรที่ 14 นำโดย อาณัติ บำรุงวงศ์ ที่พาไปไหว้พระบรมธาตุเจดีย์ในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เมื่อบูชาพระรัตนตรัยเรียบร้อยตามธรรมเนียมชาวพุทธ ได้เดินศึกษาโดยรอบฐานพระเจดีย์ ที่มีช้างล้อม และได้เข้าไปกราบพระบรมสารีริกธาตุที่บรรจุภายใน แต่ไม่สามารถเห็นได้นอกจากน้อมนำพุทธคุณไว้เหนือเศียร เพราะพระบรมสารีริกธาตุนั้นอยู่ข้างในลึกลงไป

ตามประวัติว่าเป็นส่วนของพระทันตธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ก่อนที่จะประดิษฐานที่นี้ มีเรื่องเล่าว่า  เมืองที่ได้รับส่วนแบ่งพระบรมสารีริกธาตุเมืองหนึ่งชื่อทนธบุรี ได้รับส่วนแบ่งมาเพื่อบูชา ต่อมามีกษัตริย์เมืองอื่นยกทัพมาขอแบ่งพระทันตธาตุ กษัตริย์สิงหราชแห่งเมืองทนธบุรี จึงให้นางเหมชลา และเจ้าชายทนธกุมาร ที่พระธิดาและโอรส อัญเชิญพระทันตธาตุหนีไปลังกา แต่ระหว่างเดินทางเกิดพายุพัดเรือแตก ทั้งสองพระองค์มาขึ้นที่หาดทรายแก้ว ได้ฝังพระทันตธาตุที่หาดทรายแก้ว ทั้งสองพระองค์ไปลังกา ต่อมาพระเจ้าศรีธรรมโศกได้มาพบแล้วโปรดให้สร้างพระบรมธาตุเจดีย์  ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมทั้งสร้างเมืองขึ้นด้วย เมืองดังกล่าว คือนครศรี ธรรมราช ส่วนบรมธาตุเจดีย์ ก็คือพระบรมธาตุเจดีย์องค์นี้ ส่วนองค์พระเจดีย์เดิมนั้น ท่านว่าเหมือนกับพระบรมธาตุเจดีย์ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ต่อมาชำรุดจึงสร้างขึ้นใหม่ดังที่เห็นในปัจจุบัน  ซึ่ง ศาสตราจารย์ หม่อมเจ้าสุภัทรดิส ดิศกุล ทรงวินิจ มีลักษณะคล้ายเจดีย์กิริเวเทระ ในเมืองโบโลนนารุวะ ศรีลังกา ที่สร้างในศตวรรษที่ 18

นครศรีธรรมราช จังหวัด 12 นักษัตร

 

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพระบรมธาตุเจดีย์มีมากมาย หลายสิ่งหลายอย่าง แต่ที่สร้างความฮือฮาเป็นที่สุดได้แก่ จตุคามรามเทพ เป็นเทพพิทักษ์ที่หน้าประตูทางเข้าพระบรมสารีริกธาตุ เพราะแสดงอภินิหารให้คนคลั่งไคล้ต้องหามาบูชา ทำให้วัดและสำนักต่างๆ จัดสร้างจตุคามรามเทพกันเป็นจำนวนมาก ทำเอาวัดพระมหาธาตุไม่เคยว่างจากการปลุกเสก เริ่มมาแต่สร้างให้เป็นเทพประจำศาลหลักเมือง พ.ศ. 2530  และมาโด่งดังจนไม่มีใครหยุดยั้งได้ในปี 2550  สำนักงานเศรษฐกิจการคลังประเมินว่ามีเงินหมุนเวียนสูงถึง 2.2 หมื่นล้านบาท ผลักดันจีดีพีของประเทศโตขึ้น 0.1-0.2% ทีเดียว

แต่เวลาผ่านไประยะหนึ่ง ความนิยมหรืออภินิหารก็หยุด การขึ้นและลงของจตุคามรามเทพ ท่านเปรียบเหมือนแฟชั่น เมื่อมีความนิยมทันสมัยก็ขึ้น หมดความนิยมและล้าสมัยก็ร่วง แต่ถึงกระนั้นจตุคามรามเทพ ก็ช่วยปลดหนี้ หรือช่วยให้วัดต่างๆ สร้างถาวรวัตถุได้สำเร็จตามเป้าหมาย ทำให้วัดหลายแห่งหมดทุกข์เพราะหมดหนี้ ยกเว้นแต่วัดที่มีความรู้สึกช้า เจ้าอาวาสมาสร้างเอาตอนตลาดวาย ก็กลายเป็นหนี้มากขึ้น  เพราะจตุคามรามเทพรุ่นตลาดวาย ท่านไม่ยอมออกจากวัดไปไหนนะครับ