ธรรมชาติไร้ความปรานี ความตายอันน่าสะพรึงกลัว
ความตายแบบไหนที่คุณไม่พึงปรารถนา? ถูกทิ่มแทงโดยหนามแหลม ร่างกายถูกย่อยทีละนิด
ความตายแบบไหนที่คุณไม่พึงปรารถนา? ถูกทิ่มแทงโดยหนามแหลม ร่างกายถูกย่อยทีละนิด และถูกกินโดยหนอนที่ร้ายกาจ หรือกลายเป็นรังทั้งเป็นให้กับไข่ของแมลง เหล่านี้คือตัวอย่างของความตายที่แสนธรรมดาในธรรมชาติ เมื่อความรุนแรงสวนทางกับมาตรฐานทางคุณธรรมทุกรูปแบบเพียงเพื่อการอยู่รอด หาอาหาร และขยายเผ่าพันธุ์ต่อไป
เพนกวินถูกกระแทกจนตาย
เพนกวินมักจะยืนรอบนพื้นน้ำแข็งอยู่ชั่วครู่ก่อนจะกระโจนลงน้ำ นั่นเพราะพวกมันกำลังมองหาผู้ล่าที่น่ากลัวที่สุดอย่างแมวน้ำเสือดาว (Leopard Seal) ที่มันสามารถโตได้ถึง 3.5 เมตร และหนักถึง 600 กิโลกรัม แมวน้ำชนิดนี้เป็นผู้ล่าสำคัญในแอนตาร์กติกา และเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในการล่าเพนกวิน แม้พวกมันจะมีฟันที่ดูน่ากลัว แต่กลับไม่เก่งในการใช้ฟันทำร้ายเหยื่อเท่ากับเทคนิคการล่าที่พัฒนาขึ้นมาสำหรับเพนกวินโดยเฉพาะ โดยพวกมันจะโจมตีเพนกวินด้วยการพุ่งชนซ้ำๆ แรงกระแทกที่เกิดขึ้นมีความรุนแรงมากเสียจนผิวหนังของเพนกวินหลุดออก หรืออาจทำให้เพนกวินบาดเจ็บจนตาย
ทรมานจนตายนกอีเสือทิ่มแทงเหยื่อทั้งเป็น
พวกนกเกาะคอน (Passerine) มักใช้ต้นไม้ พุ่มไม้ หรือรั้วลวดหนามเป็นเครื่องมือช่วยฆ่าเหยื่ออย่างแมลง กิ้งก่า และหนู แม้ว่าในทางทฤษฎีนกอีเสือ (นกชนิดหนึ่งในอันดับนกเกาะคอน) จะไม่ใช่นกผู้ล่า แต่พวกมันกลับมีวิธีการฆ่าเหยื่อที่โหดเหี้ยมยิ่งกว่านกผู้ล่าเสียอีก นกอีเสือเป็นนกขนาดเล็กที่มีหางยาว จะงอยปากสั้น โค้งและคม มีอยู่ทั้งหมดราว 30 สปีชีส์ อาศัยอยู่ในทวีปแอฟริกา บางส่วนของทวีปยุโรปและเอเชีย ชื่อเรียกนกอีเสือในภาษาต่างๆ มักมีความหมายที่เกี่ยวข้องกับการฆ่าอย่างทารุณ ซึ่งก็ถือว่าตรงความหมายเลยทีเดียว เหยื่อของพวกมันมักเป็นแมลงขนาดใหญ่ สัตว์มีกระดูกสันหลังขนาดเล็ก เช่น พวกกิ้งก่า กบ และหนู เมื่อนกอีเสือล่าเหยื่อได้ มันจะพาเหยื่อไปที่ต้นไม้หรือพุ่มไม้ซึ่งมีหนามแหลม แล้วเสียบเหยื่อไว้กับหนามเหล่านั้นทั้งๆ ที่เหยื่อยังมีชีวิตอยู่ การที่นกอีเสือใช้ต้นไม้หรือพุ่มไม้เหล่านี้เป็นที่สะสมอาหาร ทำให้พวกมันสามารถสะสมเหยื่อได้ในปริมาณมาก ในบางครั้งที่เหยื่อเป็นแมลงมีพิษ การทิ้งไว้เป็นเวลานานก็จะช่วยทำให้นกอีเสือปลอดภัยจากพิษมากขึ้น
วาฬเพชฌฆาตหักหลังเหยื่อ
วาฬเพชฌฆาต (Killer Whale) ขึ้นชื่อเรื่องวิธีการล่าเป็นฝูง พวกมันสามารถร่วมกันฆ่าเหยื่อที่ใหญ่กว่า 3 เท่าอย่างวาฬบาลีน (Baleen Whale) แต่พวกมันยังคงมีเทคนิคอื่นๆ อีก โดยจะเลือกใช้วิธีไหนนั้นขึ้นอยู่กับชนิดของเหยื่อว่าเป็นปลา แมวน้ำ หรือโลมา
เมื่อวาฬเพชฌฆาตออกล่าเหยื่อตัวเดียว พวกมันจะเล็งเป้าหมายไปยังเหยื่อบางชนิด โดยเฉพาะการล่าโลมาซึ่งพวกมันสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในปี 2010 กลุ่มของนักวิทยาศาสตร์จากนิวซีแลนด์ได้ประสบเหตุการณ์ที่วาฬเพชฌฆาตเจอกับวาฬเพชฌฆาตแปลง ซึ่งเป็นโลมาชนิดที่มีขนาดใหญ่ที่สุด แต่ก็ยังเล็กกว่าญาติอย่างวาฬเพชฌฆาตมาก นักวิทยาศาสตร์เห็นวาฬเพชฌฆาตมุดไปใต้ตัวโลมา ก่อนจะพุ่งชนจนโลมาลอยขึ้นไปในอากาศและตกลงมากระแทกกับบริเวณด้านหน้าของวาฬเพชฌฆาตที่มีความแข็ง จนทำให้โลมาหลังหักและตายในทันที เหตุการณ์เช่นนี้มีคนพบเห็นน้อยครั้ง แต่นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าวาฬเพชฌฆาตใช้วิธีนี้ในการล่าโลมาทุกครั้ง
หนอนกำมะหยี่ตรึงเหยื่อไว้ในเมือกเหนียว
หนอนกำมะหยี่ (Velvet Worm) อาศัยอยู่ในบริเวณเขตร้อนของซีกโลกใต้เท่านั้น พวกมันมีรูปร่างคล้ายกับทากตัวยาวสีดำที่มีขาเล็กหนา วิธีล่าเหยื่อของมันก็แปลกประหลาดไม่ต่างไปจากรูปร่างของมันเลย
หนอนกำมะหยี่ระบุตำแหน่งของเหยื่อด้วยหนวดยาว เพราะว่าดวงตาของมันมีขนาดเล็กและไม่ซับซ้อน ถ้าหากเหยื่อมีขนาดพอเหมาะ มันก็จะโจมตีทันที พวกมันมีต่อมเมือกเหนียว 2 ต่อมที่กินพื้นที่ส่วนใหญ่ของร่างกาย ทำหน้าที่ผลิตเมือกเหนียวที่หนอนกำมะหยี่ใช้ฉีดพ่นออกมาจากช่องเปิดบริเวณปาก เมือกจะเริ่มเหนียว เมื่อสัมผัสกับอากาศและตรึงเหยื่อติดไว้กับพื้น เมือกเหนียวจะยึดติดเฉพาะเปลือกของสัตว์จำพวกแมลง แต่ไม่มีผลกับผิวตะปุ่มตะป่ำของหนอนกำมะหยี่
เมื่อเหยื่อถูกตรึงไว้กับพื้นเรียบร้อยแล้ว หนอนกำมะหยี่จะค่อยๆ เข้าหาเหยื่อ กัดและฉีดน้ำลายเข้าไปที่รอยแผล น้ำลายมีสารที่ทำให้เหยื่อเป็นอัมพาต และย่อยอวัยวะภายในจนกลายเป็นเหมือนกับถุงอาหารพร้อมกิน หนอนกำมะหยี่จะดูดกินเหยื่อจนหมด รวมทั้งเมือกเหนียวที่มันฉีดออกมาเพื่อเอาไว้ใช้ในคราวต่อไป
หมาในจู่โจมกระเพาะเหยื่อ
หมาในมีขนาดกลางๆ เมื่อเทียบกับสุนัขทั่วไป แต่พวกมันทำงานร่วมกันเป็นทีม และสามารถล่าเหยื่อที่มีขนาดใหญ่กว่าอย่างวิลเดอบีสท์ (Wildebeest) ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่าพวกมันถึง 10 เท่า หมาในมีความว่องไว แต่ก็ไม่ไวเท่ากับเหยื่อบางชนิด พวกมันมีความอดทน สามารถติดตามเหยื่ออย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ด้วยความเร็ว 50-60 กิโลเมตร/ชั่วโมง เมื่อหมาในล่าเหยื่อ พวกมันจะเลือกจู่โจมบริเวณขาและท้อง โดยผลัดกันเข้ามาจู่โจมจนเหยื่อพลาดพลั้งเสียทีหลายครั้งที่หมาในกัด ฉีกกระเพาะของเหยื่อและกัดกินทั้งเป็น
สัตว์รู้สึกเจ็บปวดหรือไม่?
คงมีแต่สัตว์เท่านั้นที่จะรู้ว่าความเจ็บปวดที่พวกมันได้รับมีลักษณะเป็นอย่างไร แต่งานวิจัยทางด้านพฤติกรรม รวมทั้งการเปรียบเทียบอวัยวะรับรู้ความรู้สึกของสัตว์อื่นกับมนุษย์ ทำให้นักวิทยาศาสตร์พอจะหาคำตอบเกี่ยวกับความเจ็บปวดได้
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมนก และสัตว์เลื้อยคลาน
โดยภาพรวมสัตว์กลุ่มนี้มีเซลล์รับความรู้สึกและแสดงพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับความเจ็บปวดเช่นเดียวกันกับมนุษย์ ยาลดความเจ็บปวดมีผลเวลาที่สัตว์เหล่านี้แสดงอาการเจ็บปวด
สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ
มีอวัยวะและเซลล์รับความรู้สึกที่จำเป็นต่อการรับรู้ความเจ็บปวด แต่ว่าสมองและระบบประสาทที่แตกต่างออกไป ทำให้เราไม่รู้ว่าความเจ็บปวดที่พวกมันได้รับเป็นเช่นไร
ปลา
มีเซลล์รับความรู้สึกที่เกี่ยวข้องกับความเจ็บปวดน้อยกว่าในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม นักวิทยาศาสตร์จึงคาดการณ์ว่าพวกมันอาจไม่รู้สึกเจ็บ
สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง
เกือบทั้งหมดไม่มีเซลล์รับรู้ความเจ็บปวด ดังนั้น จึงถือว่าพวกมันน่าจะมีความรู้สึกเจ็บปวดที่จำกัดมาก