posttoday

‘ตามรอยเบื้องพระยุคลบาท’ นิทรรศการรำลึก รัชกาลที่ 9

28 พฤศจิกายน 2559

กลางเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้เผชิญกับเหตุการณ์อันแสนเศร้าอย่างที่สุด

โดย...วราภรณ์

กลางเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้เผชิญกับเหตุการณ์อันแสนเศร้าอย่างที่สุด คือการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทางสมาคมนักเรียนเก่าสวิสในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ รู้สึกโศกเศร้าอาดูรอย่างยิ่ง จึงมีวัตถุประสงค์จัดนิทรรศการ “ตามรอยเบื้องพระยุคลบาท” เทิดพระเกียรติ รัชกาลที่ 9 ซึ่งเคยจัดมาแล้วที่กรุงโลซานน์ สมาพันธรัฐสวิส อันเป็นที่ประทับของพระองค์และครอบครัวมหิดลมานานถึง 17 ปีมาแล้วครั้งหนึ่ง

ครั้งนั้นเป็นการจัดรวบรวมพระราชประวัติพระราชจริยวัตรอันงดงาม พระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อการพัฒนาการศึกษา และการพัฒนาความเป็นอยู่ที่ดี ตามแนวพระราชดำริเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ให้ชาวไทยและชาวสวิสได้รับทราบ

สำหรับประเทศไทยมีกำหนดจัดนิทรรศการระหว่างวันที่ 29-30 ม.ค.ปีหน้า ณ สยามพารากอน เพื่อให้คนไทยได้ชื่นชมพระราชจริยวัตรขณะครอบครัวมหิดลประทับอยู่ที่สวิส ภาพบางภาพจะมีการเปรียบเทียบระหว่างภาพเมื่อครั้งอดีต และปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหนแล้ว ที่น่าสนใจคือหลายภาพประชาชนชาวไทยอาจไม่เคยเห็นมาก่อน

‘ตามรอยเบื้องพระยุคลบาท’ นิทรรศการรำลึก รัชกาลที่ 9 กอบลาภ โปษะกฤษณะ

สมาคมนักเรียนเก่าสวิส

กอบลาภ โปษะกฤษณะ นายกสมาคมนักเรียนเก่าสวิส ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ตั้งแต่ปี 2535 ซึ่งสมาคมฯ ก่อตั้งมานานกว่า 70 ปีแล้ว วัตถุประสงค์ก็เพื่อระดมทุนทำกิจกรรมการกุศล และเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการพัฒนาสังคมในด้านต่างๆ ให้ดีขึ้น ในขณะเดียวกันทางสมาคมฯ ก็มีหน้าที่กระชับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศอีกด้วย ซึ่งสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เคยรับสั่งว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ถือเป็นนักเรียนเก่าสวิสรุ่นแรกๆ เลยก็ว่าได้ 

โศรยา บุนนาค กรรมการเหรัญญิก สมาคมนักเรียนเก่าสวิส เล่าถึงกิจกรรมอื่นๆ ของสมาคมฯ ว่า ได้ทำการคัดเลือกนักเรียนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเพื่อเข้าศึกษาต่อในสายอาชีพ และมีโอกาสได้มาเรียนและฝึกงานในสถาบันการศึกษาหรือองค์กรเอกชนที่เป็นพันธมิตรในสมาพันธรัฐสวิส โดยเมื่อจบโครงการแล้ว นักเรียนทุนเหล่านี้จะต้องกลับสู่ภูมิลำเนาเดิม เพื่อส่งต่อความรู้และโอกาสในการพัฒนาตนเองให้แก่บ้านเกิดต่อไป

“สมาคมฯ ยังระดมทุนให้แก่องค์กรการกุศลมาอย่างต่อเนื่อง เช่น มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ พอสว. มูลนิธิอานันทมหิดล โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย หน่วยเฉพาะกิจสิรินธรทุนดนตรีคลาสสิกในพระอุปถัมภ์ฯ เป็นต้น นอกจากนี้ เรายังมีการหาทุนเพื่อก่อสร้างตึกที่โรงพยาบาลวัดจันทร์เฉลิมพระเกียรติ อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงราย ซึ่งมีเตียงคนไข้เพียง 10 เตียง เราก็ไปช่วยซื้อเครื่องปั่นไฟให้ อีกทั้งยังมีการให้ทุนการศึกษากับเด็กๆ ที่โรงเรียนบ้านนาโต๊ะ จ.เชียงราย ซึ่งเป็นโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ซึ่งเรามีการให้ทุน 3 ทุน เอาพวกเขามาฝึกอาชีพที่กรุงเทพฯ ก่อน ควบคู่กับการให้เรียนภาษาฝรั่งเศสไปด้วย จากนั้นจะส่งเขาไปฝึกงานตามสาขาที่นักเรียนสนใจที่สวิตเซอร์แลนด์อีกราว 8 เดือน และให้พวกเขานำวิชาความรู้กลับไปพัฒนาที่บ้านของเขาต่อไป”

‘ตามรอยเบื้องพระยุคลบาท’ นิทรรศการรำลึก รัชกาลที่ 9 โศรยา บุนนาค

ภาพที่คนไทยไม่เคยเห็นมาก่อน

ในวันที่ 29-30 ม.ค. 2560 ทางสมาคมฯ จะนำพระราชประวัติของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่เคยจัดเฉลิมพระเกียรติเมื่อคราวทรงครองราชย์ครบ 70 ปี ณ กรุงโลซานน์ มาจัดขึ้นที่เมืองไทยใช้ชื่อนิทรรศการ “ตามรอยเบื้องพระยุคลบาท” เป็นการเผยแพร่พระราชประวัติของพระองค์ท่านในขณะที่ทรงศึกษาในสวิตเซอร์แลนด์ 

“เนื้อหานิทรรศการจะบอกเล่าพระราชประวัติของครอบครัวมหิดล ในขณะที่ประทับอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นับตั้งแต่เสด็จมาประทับในครั้งแรกหลังจากที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงมีพระประสูติกาลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล และในครั้งที่ 2 เมื่อราชสกุลมหิดลได้ย้ายมาประทับที่โลซานน์ หลังจากที่สมเด็จพระบรมราชชนกสิ้นพระชนม์แล้ว ตลอดจนพระราชกรณียกิจที่สำคัญในด้านการพัฒนาการศึกษา และปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

ครั้งนี้ถือเป็นการจัดกิจกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่าย เช่น สถานทูตสวิสประจำประเทศไทย สมาชิกกว่า 300 รายของสมาคมฯ พันธมิตรที่เป็นสถาบันการศึกษาในประเทศไทยและสวิตเซอร์แลนด์หอการค้าสวิส-ไทย และชุมชนชาวสวิสในประเทศไทย มาร่วมกันทำกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชอีกด้วย

 

‘ตามรอยเบื้องพระยุคลบาท’ นิทรรศการรำลึก รัชกาลที่ 9

 

นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการเกี่ยวกับการศึกษาในสวิตเซอร์แลนด์ และงาน La Foire Suisse ตลาดจำลองในบรรยากาศสวิสเพื่อสานสัมพันธ์ชุมชนไทย-สวิส ในโอกาสครบรอบการก่อตั้งสมาคม 70 ปี ด้วย” กอบลาภ กล่าว

นอกจากการเล่าเรื่องราวความประทับใจและความทรงจำอันทรงค่าเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ ซึ่งทรงเป็นที่เคารพรักของคนไทยแล้ว งานนี้ยังเป็นการรวมตัวของหน่วยงานผู้มีจิตศรัทธาด้วย เช่น บริษัทเนสท์เล่ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้มอบทุนสนับสนุนโครงการทุนการศึกษาสายอาชีพ เพื่อนักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ในถิ่นทุรกันดาร เพื่อช่วยกันสานต่อพระราชปณิธานในด้านการสนับสนุนการศึกษาโดยเฉพาะสายวิชาชีพ ซึ่งทรงเล็งเห็นว่าเป็นวิชาที่เป็นประโยชน์ตลอดทุกช่วงของชีวิตของทุกคนและเป็นรากฐานที่สำคัญของการพัฒนามนุษย์ในด้านต่างๆ อีกด้วย

“ภาพแต่ละภาพของนิทรรศการ เป็นสถานที่ที่รัชกาลที่ 9 เคยประทับอยู่ ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร คือนำภาพสองภาพมาเปรียบเทียบกัน สิ่งที่น่าสนใจอีกคือ โอเมก้าจะนำภาพที่เขาไม่เคยเผยแพร่ที่ไหนมาก่อนมาจัดแสดงในงานด้วย” กอบลาภ กล่าว

‘ตามรอยเบื้องพระยุคลบาท’ นิทรรศการรำลึก รัชกาลที่ 9

พระเมตตาต่อนักเรียนไทยในสวิส

กอบลาภ เล่าถึงพระเมตตาของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีและสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ว่าขณะที่เธอไปเรียนที่โลซานน์ สวิตเซอร์แลนด์ ตอนอายุเพียง 18 ปี ค่าที่คุณลุง นพ.อุดม โปษะกฤษณะ เป็นทันตแพทย์ประจำพระองค์ อีกทั้งยังเป็นพระสหายเก่าของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ขณะที่ทรงเรียนอยู่ที่โรงเรียนราชินี เมื่อทรงรู้ว่าหลานของเพื่อนเก่าจะไปเรียนที่สวิส พระองค์จึงมีพระเมตตา ทรงรับปากว่า จะช่วยดูแลให้  เมื่อถึงคราวที่กอบลาภตกม้าหลังเดาะ ต้องนอนรักษาตัวนาน 1 เดือน เมื่อทั้งสองพระองค์ทรงทราบก็เสด็จมาเยี่ยม ทำให้กอบลาภรู้สึกซาบซึ้งในพระกรุณาอย่างหาที่สุดมิได้ และตั้งใจจะขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป

“สมัยนั้นคนไทยในสวิสมีประมาณ 20 คนเห็นจะได้ พอสมเด็จย่าทรงทราบว่าดิฉันตกม้าก็เสด็จมาเยี่ยมด้วยพระองค์เอง และสมเด็จหญิงทรงพระอักษรส่งผ่านมาทางครูใหญ่มีข้อความมาถึงดิฉันว่า โชคไม่ดี ต้องอดทน ดิฉันต้องใส่เฝือกตั้งแต่คอถึงหลัง ถ้าทั้งสองพระองค์ไม่เสด็จมาด้วยองค์เอง จะให้รุ่นพี่ของดิฉันมาคอยดูแลและนำความกลับไปถวายรายงานให้คุณหญิงสวาท ซึ่งเป็นนางกำนัลของพระองค์ได้ทราบ บางครั้งก็ทรงให้คุณหญิงสวาททำกับข้าวส่งมาให้ดิฉันรับประทาน นับเป็นความอบอุ่นหัวใจอย่างหาที่สุดมิได้

‘ตามรอยเบื้องพระยุคลบาท’ นิทรรศการรำลึก รัชกาลที่ 9

 

ทั้งสองพระองค์ทรงมีน้ำพระทัยไปถึงนักเรียนไทยที่อยู่ที่สวิส ทรงรับสั่งให้นางกำนัลทำอาหารแบบบุฟเฟ่ต์เพื่อเลี้ยงนักเรียนไทย และทรงรับสั่งและทรงสอนให้ตักแค่พอเพียงเท่านั้น หมดแล้วมาเอาใหม่ ฉันไม่ได้หวง หรือบางครั้งสมเด็จย่ารับสั่งว่า ให้นักเรียนไทยมากินข้าวกัน มาถึง 11 โมงหรือเที่ยงก็ได้นะ แต่บางคนมาถึงเที่ยงครึ่ง ท่านก็รับสั่งว่า รถไฟสวิสมาตรงเวลานะ ทำไมมาเที่ยงครึ่งล่ะ

ดิฉันได้ความตรงเวลามาจากสิ่งที่สมเด็จย่าทรงสอนและทรงทำเป็นตัวอย่าง อย่างตอนที่ดิฉันเรียนจบและกลับมาเมืองไทยแล้ว ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ ทั้งสองพระองค์ที่วังสระปทุมเป็นประจำ มีอยู่วันหนึ่งเสด็จฯ มาทั้ง 3 พระองค์พร้อมกัน ดิฉันก็หมอบกราบอยู่บนพื้น สมเด็จย่าทรงมีรับสั่งถามดิฉันว่า หลังเป็นอย่างไรบ้าง ดิฉันเรียนตอบไปว่า ค่อยยังชั่วแล้วเพคะ ขณะนั้นในหลวงทรงประทับอยู่ตรงนั้นด้วย ก็ทรงมีรับสั่งถามว่า เราเป็นอะไรล่ะ สมเด็จพระชนนีได้รับสั่งว่า หลานหมออุดม เป็นเด็กสวิส ตกม้าหลังเดาะ ในหลวงก็รับสั่งว่า การขี่ม้าต้องมีสติและต้องระวังให้มาก พอดิฉันฟังแล้วรู้สึกได้ว่า พระองค์ทรงมีพระเมตตามาก”

‘ตามรอยเบื้องพระยุคลบาท’ นิทรรศการรำลึก รัชกาลที่ 9

 

ด้าน ชวาลี โอสถานุเคราะห์ อุปนายกฝ่ายหาทุน สมาคมนักเรียนเก่าสวิสฯ ก็รู้สึกซาบซึ้งถึงพระเมตตาของทั้งสองพระองค์อย่างหาที่สุดมิได้ เธอเล่าว่าขณะที่คุณพ่อ ธงฉาน โชติกเสถียร ไปดำรงตำแหน่งเลขาโท ประจำ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเบิร์น และเจนีวา เธอได้ตามคุณพ่อและคุณแม่ไปเรียนหนังสือที่สวิตเซอร์แลนด์ ตั้งแต่อายุเพียง 7 ขวบ และถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณมากขึ้นไปอีก เมื่อคุณปู่พลเอกหลวงสุรณรงค์ (ธงไชย โชติกเสถียร) ดำรงตำแหน่งสมุหราชองครักษ์ในรัชกาลที่ 9 จึงต้องตามเสด็จพระราชดำเนินถวายงานอย่างใกล้ชิด

“คุณพ่อได้ถวายงานทั้งสมเด็จย่า และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ซึ่งครอบครัวของเราได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากทั้งสองพระองค์เป็นอย่างมาก เช่น ช่วงหน้าหนาวในทุกวันเสาร์และอาทิตย์ สมเด็จย่าโปรดไปทรงสกีที่เมืองซาเนนโมเซอร์ กัชตาด เป็นประจำ เสด็จไปอย่างเงียบๆ ดิฉันก็ได้ตามเสด็จทุกครั้ง เวลาไปพระองค์จะทรงให้ดิฉันกับน้องหัดเล่นสกีด้วย โดยทรงมีพระเมตตาออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด ทำให้ดิฉันรู้สึกตื้นตันใจมาก

‘ตามรอยเบื้องพระยุคลบาท’ นิทรรศการรำลึก รัชกาลที่ 9

ทรงไม่ถือพระองค์เลย เช่น สมเด็จพระศรีนครินทร์ฯ มีรับสั่งว่า ไม่ให้พวกเราลงกราบ หรือถอนสายบัวในที่สาธารณะ เพราะพระองค์ไม่อยากให้ผู้คนต้องมากระตือรือร้นในการต้อนรับในฐานะเจ้าหญิง อีกทั้งสมเด็จพระศรีนรินทร์ฯ ยังโปรดเก็บดอกไม้บนภูเขาในฤดูใบไม้ผลิ หรือสปริงที่หิมะละลายแล้ว ทรงเก็บดอกไม้มาทับไว้ในหนังสือเพื่อทำเป็นดอกไม้แห้ง และทรงทำที่คั่นหนังสือ พระองค์ใช้สิ่งของต่างๆ ไม่เปลืองเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่ดิฉันจำได้ขึ้นใจ 

ความที่คุณปู่ได้ถวายงานใกล้ชิด ตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงขึ้นครองราชย์ตั้งแต่ 18 พระชันษา และทรงต้องไปศึกษาต่อที่สวิตเซอร์แลนด์ คุณปู่และคุณย่าท่านผู้หญิงจรวย สุรณรงค์ คุณปู่มีความจงรักภักดีมากๆ ท่านเคยเล่าว่า สามารถถวายชีวิตให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ได้เลย เพราะทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อครอบครัวของเราอย่างหาสุดมิได้ ในหลวง ทรงเรียกคุณปู่ของดิฉันว่า ‘คุณปู่’ สะท้อนว่าในหลวงไม่ทรงถือพระองค์เลย”

‘ตามรอยเบื้องพระยุคลบาท’ นิทรรศการรำลึก รัชกาลที่ 9

 

นิทรรศการที่สมาคมนักเรียนเก่าสวิส จะจัดขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชนี้ ไม่ใช่เพียงตามรอยพระบาท แต่ยังเป็นการแสดงความรำลึกถึงพระมหากษัตริย์ที่พระราชทานทั้งแรงพระวรกาย น้ำพระทัย ทุนทรัพย์ส่วนพระองค์ให้คนไทย เพราะพระองค์ทรงรักพสกนิกรอย่างแท้จริง