สธ.โต้เอ็นจีโอหยุดปลุกปั่น'ปิยะสกล'ลั่นแก้กม.บัตรทองไม่ซ่อนเร้น

รมว.สาธารณสุข เดินหน้ารับฟังความเห็นแก้ไขกฎหมายบัตรทอง ยันทำตามกรอบรัฐธรรมนูญ  ด้าน กลุ่มพลังแพทย์ยื่นบิ๊กตู่ขอถ่วงดุลสปสช.

นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้การแก้ไข พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 หรือกฎหมายบัตรทอง อยู่ระหว่างการทำประชาพิจารณ์โดยสำนักงานสุขภาพแห่งชาติ โดยมี นพ.พลเดช ปิ่นประทีป เลขาธิการ สช. เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งในส่วนนี้เองจะมีเครือข่ายภาคประชาชนรวมอยู่จำนวนมาก จากนั้นคณะทำงานก็จะรวบรวมความเห็น ส่งต่อไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญที่เพิ่งประกาศใช้ ไม่เคยทำนอกระเบียบ และไม่มีวาระซ่อนเร้น แต่ทำเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง

นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า ถ้าใครเห็นว่า ตรงไหนที่คิดว่าไม่ดี ไม่เกิดประโยชน์กับประชาชนก็พูดออกมา ความจริงในร่าง พ.ร.บ.นี้เท่าที่ทราบไม่ได้ลิดรอนสิทธิเดิมใดๆ ของประชาชน นายกรัฐมนตรีพูดเสมอว่า พ.ร.บ.นี้ทำมาเพื่อให้ประชาชนได้รับสิทธิอย่างน้อยควรเท่าเดิมและมีสิ่งที่เพิ่มเติม

นพ.ปิยะสกล กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมามีปัญหาการบริหารงานของบัตรทองจนมีการออกมาตรา 44 นำมาสู่การปรับแก้ปัญหาให้การดูแลประชาชนดีขึ้น คนที่ร้องอยู่ขอให้มาตามขั้นตอน ผ่านการทำประชาพิจารณ์ ไม่ควรปลุกปั่นให้เกิดความระส่ำระสาย

วันเดียวกัน กลุ่มพลังแพทย์ 6 องค์กร นำโดย พญ.อรพรรณ เมธาดิลกกุล อดีตผู้อำนวยการสำนักกฎหมายการแพทย์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อสนับสนุนการแก้ไขกฎหมายหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยระบุว่าเหตุที่ต้องปฏิรูปหลักประกันสุขภาพ เพราะการรักษาแย่ลงส่งผลกระทบต่อชีวิตประชาชนผู้ที่ถือบัตรทองที่เป็นโรค อาทิ ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจขาดเลือด จะเสียชีวิตมากกว่าปกติถึง 70% เพราะสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) บังคับให้ได้รับการรักษาแบบเดียวกัน

พญ.อรพรรณ กล่าวว่า แนวทางที่เสนอให้ปรับปรุงกฎหมายหลักประกันสุขภาพคือ การเพิ่มอำนาจกระทรวงสาธารณสุข ปรับความสมดุลอำนาจระหว่างโรงพยาบาลรัฐกับ สปสช. พัฒนาคุณภาพโรงพยาบาลให้คนชนชั้นกลางกลับไปใช้บริการ

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพเดินทางมายื่นจดหมายเรียกร้องถึงนายกรัฐมนตรีให้ยุติการแก้ไข พ.ร.บ.บัตรทอง โดยระบุว่าขาดการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน