ความคุ้นเคย กับ ความถูกต้อง
วันภาษาไทยแห่งชาติ 29 ก.ค. ใกล้เข้ามา หัวข้อสนทนาเรื่องการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้องวนกลับมาเป็นประเด็นอีกคำรบ
โดย...ธนพล บางยี่ขัน
วันภาษาไทยแห่งชาติ 29 ก.ค. ใกล้เข้ามา หัวข้อสนทนาเรื่องการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้องวนกลับมาเป็นประเด็นอีกคำรบ
วิวาทะเรื่องตัวสะกดที่ถูกต้องระหว่าง “หมูหย็อง” กับ “หมูหยอง” กลายเป็นหัวข้อสนทนาที่ร้อนแรง เรียกแขกให้ออกมาแสดงความคิดความเห็นหลากหลาย
ปัญหาอยู่ที่ “คำเฉลย” ยืนยันว่าตัวสะกดที่ถูกต้อง คือ “หมูหย็อง” ไม่อาจนำไปสู่ข้อยุติ
เมื่อส่วนหนึ่งมองว่า “ความคุ้นเคย” กับ “ความถูกต้อง” น่าจะเป็นสิ่งเดียวกัน
อีกด้านเห็นแย้งว่า “ความผิด” ที่แพร่หลายใช้กันจนกลายเป็นความเคยชินไม่อาจ “เปลี่ยนผิดให้เป็นถูก” บางฝ่ายย้อนไปถึง “จุดประสงค์” ของที่ใช้และเป็นที่ยอมรับเข้าใจกันในหมู่คนจำนวนมาก
ไม่ใช่เรื่อง “ปกติ” เมื่อจำนวนมากในประเทศ สะกดคำนี้กันผิดๆ ว่า “หมูหยอง” ยืนยันด้วยภาพถ่ายหีบห่อบรรจุภัณฑ์ “หมูหย็อง” เจ้าดังจาก จ.ขอนแก่น ซึ่งพลเมืองเน็ตถ่ายรูปมาเป็นหลักฐานหักล้าง
แถมไล่เรียง ด้วยผลิตภัณฑ์จากหมูฝอยยี่ห้ออื่นที่สะกดไปในทิศทางเดียวกันว่า “หมูหยอง” แบบพร้อมเพรียง
สาเหตุที่เป็นเช่นนี้น่าจะมาจากในอดีต ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 บัญญัติศัพท์คำนี้ว่า “หมูหยอง” ก่อนจะมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเป็น “หย็อง” ในพจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน ปี 2542 และ 2554 ด้วยความหมาย “น. ของกินทำด้วยหมูเนื้อแดงปรุงรส ต้มเคี่ยวให้เปื่อยจนงวด นำไปผัดจนแห้ง ขยี้ให้เป็นฝอย”
สอดรับกับคำอธิบายถึงที่มาที่ไปของการเปลี่ยนวิธีการสะกดเพื่อกระชับเสียงอ่านให้สั้น จึงต้องใส่ “ไม้ไต่คู้” ยกเว้นคำศัพท์ที่มาจากภาษาต่างประเทศ แม้จะเสียงสั้นก็ไม่ต้องใส่ “ไม้ไต่คู้”
ไม่ต่างจากคำว่า “แซว” ที่เคยใช้กันมาจนคุ้นเคยนั้น ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 ระบุว่าคำที่ถูกต้องต้องเขียนว่า “แซ็ว” แปลว่า “(ปาก) ก.กระเซ้า”
บางฝ่ายยังพยายามเสาะหาคำมาเปรียบเทียบหามาตรฐานของการใช้ “ไม้ไต่คู้” ในภาษาไทย เช่น คำว่า “เซเล็บ” ที่น่าจะออกเสียงได้ชัดเจนว่า “เซเลบ” ที่ใช้กันปกติ หรือ “สเต๊ก” ที่สะกดถูกต้อง แต่ยังมีคนสะกด “สเต็ก”
บางคนมองไกลไปถึงคำอื่นๆ ที่ควรเปลี่ยนตัวสะกดเพื่อให้เข้ากับเสียงอ่าน เช่น “ท่าน” เป็น “ทั่น” “ร้องไห้” เป็น “ร้องห้าย”
กระแสขัดหูขัดตาของผู้ที่เคยชินกับคำว่า “หมูหย็อง” ลุกลามไปสู่การตั้งคำถามของบางกลุ่มที่เห็นว่า ราชบัณฑิตควรเอาเวลาไปทำอย่างอื่นมากกว่าจะมาแก้ไขคำที่ใช้กันมานานนม กลับ “ถูก” เป็น “ผิด”
บางฝ่ายเห็นด้วยว่าเมื่อผิดก็ควรแก้ไข แต่ควรต้องให้เหตุผลและเผยแพร่ให้ประชาชนรับรู้รับทราบ เพื่อจะเปลี่ยนแปลงจากสิ่งที่รับรู้มาในอดีต และปรับใช้ของใหม่ได้อย่างถูกต้อง
ส่วนกระแสตอบรับ มีทั้งฝ่ายยอมรับในชุดข้อมูลที่ถูกต้อง และพร้อมจะแก้ไขคำสะกดให้ถูกต้องในอนาคต แต่บางฝ่ายประกาศชัดจะเขียนแบบผิดๆ ต่อไป
ยังไม่รวมกับเสียงด่า เสียงประชดประชัน ของบรรดาเกรียนคีย์บอร์ดที่ออกแนว “แซะ” มากกว่าการพูดกันด้วยเหตุด้วยผล
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นล้วนแต่สะท้อนความคิดความอ่านของคนในสังคมในปัจจุบัน ทั้งการตั้งคำถามกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป ด้วยชุดข้อมูลต่างๆ ที่หยิบยกมาหักล้างกันไม่ว่าจะด้วยเหตุผล อารมณ์ ความรู้สึก
แต่ที่สำคัญคือมุมมองความคิดของคนบางกลุ่มที่ยัง “ยึดติด” และปักใจเชื่อในชุดความคิดของตัวเอง โดยไม่เปิดใจยอมรับความเปลี่ยนแปลง แม้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่พยายามออกมาทำให้สิ่งต่างๆ ดีขึ้น
พานคิดไปว่าความคุ้นเคยล้วนแต่เป็นสิ่งที่ถูกต้อง สิ่งที่แตกต่างจากเดิมล้วนแต่เป็นสิ่งผิดไม่สมควรยอมรับ