นกกระเรียนไทยใกล้สูญพันธุ์เริ่มวางไข่แล้ว
นกกระเรียนพันธุ์ไทยใกล้สูญพันธ์ที่ปล่อยในพื้นที่ชุ่มน้ำแพร่ขยายพันธุ์เพิ่มจำนวนแล้วหลังองค์การสวนสัตว์ และกรมอุทยานฯ นำมาปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ
นกกระเรียนพันธุ์ไทยใกล้สูญพันธ์ที่ปล่อยในพื้นที่ชุ่มน้ำแพร่ขยายพันธุ์เพิ่มจำนวนแล้วหลังองค์การสวนสัตว์ และกรมอุทยานฯ นำมาปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ
เมื่อวันที่30พ.ย.60 ดูฝูงนกกระเรียนพันธ์ไทย เป็น 1 ใน 16 สัตว์สงวนของไทยที่สูญพันธ์ไปจากธรรมชาติกว่า 50 ปี จำนวนกว่า 10 ตัว ที่ได้กลับเข้ามาหากินที่บริเวณพื้นที่ชุ่มน้ำหน่วยพิทักษ์ป่าห้วยแสงเหนือ ต.บ้านบัว อ.เมืองบุรีรัมย์ ในสังกัดเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก
องค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ และกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชได้ร่วมกันนำพ่อแม่พันธ์นกกระเรียนพันธ์ไทยที่หายากมาทำการเพาะในกรงเลี้ยงแล้วนำมาทดลองปล่อยในพื้นที่ชุ่มน้ำของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก อ.เมืองบุรีรัมย์ และเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบินอยู่ในเขตพื้นที่ อ.ประโคนชัย เพื่อปล่อยคืนสู่ธรรมชาติตั้งแต่ปี 2554-2560 รวมแล้วจำนวน 82 ตัว
ทั้งนี้ จากการติดตามระบบจีพีเอส พบนกกระเรียนจำนวนดังกล่าวยังมีรอดชีวิตอยู่ถึง 51 ตัว ส่วนมากยังอาศัยหากินดำเนินชีวิตอยู่ในเขตพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดข้างเคียง พร้อมกันนี้ยังพบว่านกกระเรียนที่ปล่อยคืนสู่ธรรมชาติดังกล่าวยังได้มีการทำรังวางไข่เพาะขยายพันธุ์ตามธรรมชาติได้เองแล้วจำนวน 3 - 4 ตัว โดยเจ้าหน้าที่ได้มีการติดตามดูแลประเมินผลทำวิจัยอยู่อย่างใกล้ชิดต่อเนื่องถือว่าเป็นโครงการที่ประสบผลสำเร็จของทีมวิจัยโครงการหนึ่งพร้อมกันนี้ สำนักงานเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก และอ่างเก็บน้ำสนามบินได้แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ที่นกกระลงไปหากิน อย่าได้ล่าและทำร้ายนกกระเรียนอย่างเด็ดขาด หากไม่เช่นนั้นก็จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติสงวน และคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 และนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมก็ขอให้ร่วมกันอนุรักษ์ เพื่อจะให้นกกระเรียนได้แพร่ขยายพันธ์กลับคืนสู่ธรรมชาติอย่างเช่นในอดีตที่ผ่านมาโดยเร็ว