ป.ป.ส.ลุยเอาผิดคนแพร่ข้อมูลเท็จปมปลูกกัญชา
"ป.ป.ส."ลุยดำเนินคดีคนเผยแพร่ข้อความเท็จผ่านสื่อออนไลน์ อ้างขออนุญาตปลูกกัญชาที่บ้านได้
"ป.ป.ส."ลุยดำเนินคดีคนเผยแพร่ข้อความเท็จผ่านสื่อออนไลน์ อ้างขออนุญาตปลูกกัญชาที่บ้านได้
เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 62 สำนักงนคณะกรรมการป้องกันและปรามปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) แจ้งว่า จากกรณีที่มีผู้โพสต์ในสื่อออนไลน์ ในหัวข้อ “สายเขียว เฮลั่น! อนุมัติแล้ว คนไทยสามารถปลูกกัญชาได้ที่บ้าน ไม่เกิน 50 ต้น” เผยแพร่เมื่อวันเสาร์ที่ 12 มกราคม 2562 โดยมีผู้แชร์ต่อๆ กันอีกจำนวนหนึ่ง โดยผู้โพสต์ อ้างถึงเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปรามปรามยาเสพติด กล่าวถึง ความคืบหน้าการนำกัญชาใช้ทางการแพทย์ ซึ่งขณะนี้ตาม ร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดฯ ที่มีการเปลี่ยนแปลงตามประมวลยาเสพติด ในสาระสำคัญ กัญชายังเป็นยาเสพติดที่ผิดกฎหมาย ส่วนการผ่อนปรนเพื่อให้นำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์หรือการศึกษาวิจัยได้ สำหรับประเด็นการนำเข้า ส่งออก จำหน่ายครอบครอง อยู่ในอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทางการแพทย์ เภสัชกรเป็นผู้ได้รับอนุญาต
ทั้งนี้ ข้อความที่บิดเบือน คือ “แต่ในกรณีการขออนุญาตปลูกที่บ้าน ที่เป็นบุคคล จะต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทยเท่านั้น เกิดที่ประเทศไทยเท่านั้น ครอบครัวละไม่เกิน 50 ต้น ต้องมีสมาชิกในครอบครัวอย่างน้อย 3 คน” เป็นข้อมูลที่มีลักษณะบิดเบือนไปจากข้อเท็จจริง
นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. ระบุว่า การเสนอข่าวดังกล่าวเป็นการนำเนื้อข่าวที่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนมาเติมแทรกข้อความที่เขียนขึ้นเองโดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ และประการสำคัญข้อความที่เติมแทรกมานั้น นอกจาก เป็นข้อความอันเป็นเท็จแล้ว ยังสามารถทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด ในนโยบายของรัฐและเจตนาของการปรับกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติดได้ สำนักงาน ป.ป.ส. เห็นว่า หากไม่ดำเนินการใดๆ ต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเสนอข้อความอันเป็นเท็จดังกล่าว จะมีผลให้ประชาชน เกิดความสับสน และสำนักงาน ป.ป.ส. จะได้รับความเสียหาย
จึงได้มีการมอบหมายให้ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ดำเนินการตรวจสอบหาชื่อ และที่อยู่ของผู้โพสต์ข้อความดังกล่าว และรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานทั้งหมด เพื่อร้องทุกข์หรือกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้โพสต์ข้อความดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และมีหนังสือถึงพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 เพื่อพิจารณายื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้มีคำสั่งระงับการทำให้แพร่หลาย หรือลบข้อมูลดังกล่าวออกจากระบบต่อไป