posttoday

ผ่าธุรกิจ“ทนายตั้ม” ภายใต้ ษิทราลอว์เฟิร์ม ปี 64 กำไร 4 แสนบาท

28 มีนาคม 2566

เปิดรายได้ปี 64 'ทนายตั้ม' ษิทรา เบี้ยบังเกิด ภายใต้ ษิทราลอว์เฟิร์ม รายได้ 1.8 ล้านบาท กำไร 4 แสนบาท เป็นกรรมการบริษัทอย่างน้อย 4 แห่ง ยังเปิดดำเนินกิจการอยู่ 1 แห่ง

จากการตรวจสอบข้อมูลจาก กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 27 มี.ค.2566 พบว่า “ทนายตั้ม” ษิทรา เบี้ยบังเกิด เป็นกรรมการบริษัทอย่างน้อย 4 แห่ง ยังเปิดดำเนินกิจการอยู่ 1 แห่ง ได้แก่

1. บริษัท ษิทรา ลอว์เฟิร์ม จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2561 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 1 อาคารเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ชั้นที่ 24 ห้องเลขที่ 2409 ถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจ กิจกรรมทางกฎหมาย ปรากฎชื่อนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เป็นกรรมการรายเดียว 

นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อ 30 เม.ย. 2565 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ถือหุ้น 45% เท่ากับนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ที่ถือ 45% ที่เหลืออยู่ในชื่อของ น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ ถือ 10%

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2564 มีรายได้รวม 1,807,000 บาท รายจ่ายรวม 1,374,661 บาท เสียภาษีเงินได้ 19,853 บาท กำไรสุทธิ 412,502 บาท

2. บริษัท มอนสเตอร์บายส์ จำกัด ประกอบกิจการจำหน่ายบัตรที่พัก บัตรร้านอาหารและบริการอื่นๆ แจ้งเลิกกิจการ (นายษิทรา เป็นกรรมการ และร่วมถือหุ้น 25%)

3. บริษัท อเมทิส สกินแคร์ จำกัด ประกอบกิจการค้าเครื่องสำอางอุปกรณ์เครื่องมือและเครื่องใช้เสริมความงาม ถูกนายทะเบียนขีดชื่อว่าร้าง (นายษิทรา เป็นกรรมการ ร่วมกับนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด และ น.ส.ลลพร ใจดี)

4. บริษัท เอสที.อินเตอร์ 2016 จำกัด ประกอบกิจการโรงแรม ถูกนายทะเบียนขีดชื่อว่า “ร้าง” เมื่อ 18 ส.ค. 2564

สำหรับประเด็นรายได้ที่เกิดจากวิชาชีพทนายความ "ทนายตั้ม" ชี้แจงค่าปรึกษาเบื้องต้น ดังนี้

คุยกับทีมงานทางโทรศัพท์ 20 นาที 1,000 บาท
คุยทนายตั้มทางโทรศัพท์ 20 นาที 1,500 บาท
ถ้ามาเจอตัวทนายตั้ม 30 นาที คิดค่าปรึกษา 3,000 พันบาท

สำหรับ เส้นทางชีวิต “ทนายตั้ม” มีภูมิลำเนาเป็นคน จ.สมุทรสาคร การศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จาก โรงเรียนยอแซฟอุปถัมภ์,ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จาก โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา พุทธมณฑล,ปริญญาตรี 2 ใบคือ คณะรัฐศาสตรบัณฑิต และคณะนิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง และ ปริญญาโท รัฐศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเกริก

จากนั้น ทนายตั้ม เข้าสู่แวดวงทนายความตั้งแต่ปี 2547 และเป็นหนึ่งในผู้ริเริ่มจัดโครงการทนายพบประชาชน มีวัตถุประสงค์เพื่อให้คำปรึกษาทางกฎหมายฟรี ก่อนร่วมกับทีมงานจัดตั้ง “ทีมงานทนายประชาชน” ต่อมาได้ร่วมกับหน่วยงานรัฐหลายแห่งสนับสนุนโครงการต่าง ๆ เพราะเห็นว่าเป็นการให้ความรู้ทางด้านกฎหมายที่ดี เข้าถึงเด็กและเยาวชน กระทั่ง “ทนายตั้ม” ก่อตั้งมูลนิธิทนายประชาชนเพื่อเยาวชนและสังคมในปี 2559

ส่วนผลงานสร้างชื่อ ทนายตั้ม มีชื่อเสียง เพราะว่าความให้กับคดีดังๆ และคนดัง หลายคดี โดยผลงานที่ทำให้ “ทนายตั้ม” เป็นที่รู้จัก เช่น คดีหวย 30 ล้านบาท, คดีลุงพล-น้องชมพู่ เป็นต้น โดยเฉพาะ คดีการเสียชีวิตของดาราสาว "แตงโม นิดา" แต่สุดท้ายก็โดนเทออกจากคดี แต่เขาก็ตั้งใจว่าจะหาความจริงต่อไป จนทำให้เขากลายเป็นที่พูดถึง