แสวง ชี้ กระบวนการสอบสวน พิธา ถือหุ้นไอทีวี ใกล้สมบูรณ์
เลขา กกต. เผย สอบสวน พิธาถือหุ้นไอทีวี ใกล้สมบูรณ์แล้ว โยน กรรมการสืบสวน เรียก พิธา มาให้ข้อมูลเพิ่มหรือไม่ ก่อนส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ ตรวจสอบสมาชิกภาพ เผย ยังไม่มีการเสนอขยายกรอบเวลา ระบุ เงื่อนเวลาโหวตนายกฯ13ก.ค. ไม่ใช่ประเด็นประกอบการพิจารณา
นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ให้สัมภาษณ์ถึง ความคืบหน้าการสืบสวนไต่สวน การถือครองหุ้นไอทีวี ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ซึ่งขณะนี้ได้รับรายงานจากคณะกรรมการสืบสวนความผิดของนายพิธา ตามมาตรา 151 ที่ระบุ รู้อยู่แล้วว่าขาดคุณสมบัติแต่ยังลงสมัครรับเลือกตั้ง ใกล้จะสมบูรณ์แล้ว และยังไม่มีการขอขยายเวลา ตามที่จะครบระยะเวลาในวันที่ 3 กค.
ส่วนการส่งหนังสือเชิญนายพิธานั้น ทางสำนักงาน กกต. ยังไม่ทราบ เพราะเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ จะทราบก็ต่อเมื่อมีการส่งรายงานหลังการสอบสวนเสร็จสิ้น ตามหลักการ คณะกรรมการต้องมีการสอบสวน เพื่อแสวงหาพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด เนื่องจากเป็นคดีอาญา ที่ต้องใช้หลักฐานยื่นต่อศาล
ขณะที่การดำเนิการตามมาตรา 82 จะใช้วิธีการพิจารณา ซึ่งเป็นอำนาจของคณะกรรมการในการดำเนินการเรื่องนี้ ไม่จำเป็นจะต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาหรือไต่สวนอีก โดยกกต. อาจจะใช้ข้อมูลจากคณะกรรมการเพื่อพิจารณาตามมาตรา151ว่า มีหลักฐานและมีความเห็นเพียงพอ ที่จะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบสมาชิกสภาพของนายพิธา
ถามว่ามีความจำเป็นหรือไม่ ที่ต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จก่อนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี นายแสวง กล่าวว่า ไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นที่ กกต.จะต้องพิจารณา แต่การยื่นตามมาตรา 82 คือ การเปลี่ยนโหมดมาพิจารณากรณีที่ได้รับการรองเป็น ส.ส. เพียง 1 สัปดาห์ และเริ่มมีการมาร้องเรียนต่อ กกต. จึงคาดว่า กกต.น่าจะหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาพิจารณา
สำหรับกรณีนายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา(สว.) มาพบ กกต. กรณีนายพิธา ถือหุ้นสื่อ เป็นการนำข้อมูลมาให้เพิ่มเติม สำนักเลขากกต.จะนำข้อมูลดังกล่าวไปประกอบกันเพื่อเสนอต่อกกต.ต่อไป