แพทย์ใหญ่รพ.ตำรวจเผยอาการทักษิณใส่สายออกซิเจนรักษาตามสิทธินักโทษสูงวัย
แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ แจงทักษิณ ชินวัตร ไม่มีอภิสิทธิ์กว่าใคร เข้ารักษาอาการป่วยตามสิทธิ ล่าสุดอาการดีขึ้น สื่อสารได้ แต่ความดันสูง จมูกต้องใส่สายออกซิเจน ย้ายไปรพ.เอกชนอยู่ที่ดุลยพินิจกรมราชทัณฑ์
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์ได้ส่งตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ โดยไม่มีการประสานมาล่วงหน้า เพราะเกิดอาการแน่นหน้าอกกระทันหัน ค่าออกซิเจนต่ำ และค่าความดันโลหิตสูงมาก ทีมแพทย์ราชทัณฑ์ พยายามรักษาระดับความดันที่สูงแล้ว แต่ทำได้ไม่มาก จึงลงความเห็นให้ส่งตัวด่วนมาที่ โรงพยาบาลตำรวจ ในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา
พล.ต.ท.โสภณรัชต์ กล่าวต่อว่า ความจริงทีมแพทย์ราชทัณฑ์มีความสามารถ แต่ด้วยอาการป่วยของ นายทักษิณ ต้องการแพทย์เฉพาะทางดูแล ประกอบกับเครื่องมือที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์มีจำกัด จึงต้องตัดสินใจย้ายตัวก่อนหน้านี้กรมราชทัณฑ์ กับ โรงพยาบาลตำรวจมีการทำข้อบันทึกร่วมกันมากกว่า 30 ปี ในการส่งตัวผู้ป่วยที่มีอาการหนักมารักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ
ทั้งนี้ นายทักษิณ ถูกนำตัวมาที่โรงพยาบาลตำรวจ ด้วยรถราชทัณฑ์ เนื่องจากมีความดันโลหิตสูงถึง 170 มิลลิเมตรปรอท และนำตัวไปชั้นที่ 14 ทันทีซึ่งเดิมชั้นนี้ใช้เป็นพื้นที่กักตัวผู้ป่วยโควิด 19 ปัจจุบันเครื่องปรับอากาศใช้งานไม่ได้ ต้องใช้พัดลม 2 ตัวระบายอากาศแทนและห้องพักของทักษิณไม่ได้อยู่ฝั่งที่มองเห็นทัศนียภาพภายนอกเนื่องจากฝั่งติดกระจกและ อากาศร้อน
แพทย์ได้ทำการรักษาด้วยการให้น้ำเกลือพร้อมระดมทีมแพทย์ ตั้งเป็นคณะรักษา รวม 6 ท่านมีหมอเชี่ยวชาญด้านหัวใจ ปอด และ โควิด19 อยู่ในทีมดังกล่าวซึ่งนายทักษิณ ไม่ได้ใส่เครื่องพันธนาการเนื่องจากตามกฎหมายผู้ป่วยต้องโทษที่มีอายุน้อยกว่า 16 ปี หรือมากกว่า 70 ปีขึ้นไปไม่ต้องใส่เครื่องพันธนาการ เพราะจะทำให้การรักษาเกิดความยุ่งยาก
พล.ต.ท.โสภณรัชต์ กล่าวต่อว่า ทีมแพทย์กำลังอยู่ในขั้นตอนนำประวัติการรักษาของ นายทักษิณ ที่ต่างประเทศมาศึกษา แต่รายละเอียดส่วนนี้ แพทย์ไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่บอกได้ว่าอาการป่วยถูกรักษามาอย่างต่อเนื่อง ยืนยันว่า การรักษาผู้ป่วยสูงอายุ ไม่ได้มีการเลือกปฏิบัติตามกระแสสังคม เพราะก่อนหน้านี้ มีการส่งผู้ป่วยอายุมากมารักษาเช่นกัน
ทั้งนี้การดูแลความปลอดภัยระหว่างรักษา มีเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์คอยดูแล 3 คน แต่ในพื้นที่ของโรงพยาบาลเป็นความรับผิดชอบของตำรวจพื้นที่คือ สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน ดูแลความปลอดภัย ส่วนจะรักษาอาการนานเท่าใด ยังไม่สามารถตอบได้ ทีมแพทย์จะเป็นผู้ประเมินต่อไป
พล.ต.ท.โสภณรัชต์ กล่าวด้วยว่า อาการล่าสุด นายทักษิณ เมื่อช่วงเช้าจากการสอบถามทีมแพทย์ที่ทำการรักษา นายทักษิณ มีอาการดีขึ้นเล็กน้อยกว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาแต่ยังใส่สายออกซิเจน ความดันยังสูงอยู่ สามารถสื่อสารได้ แต่ยังมีอาการเหนื่อยหอบ แพทย์ต้องเฝ้าระวัง โดยสั่งงดเยี่ยมทุกกรณี ส่วนกรณีถ้าญาติต้องการย้ายตัวไปโรงพยาบาลเอกชน จะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจกรมราชทัณฑ์