posttoday

ผุดวิทยุชุมชนรายใหม่เกือบ 600 ราย หลังกสทช.เปิดรับสู่ระบบใบอนุญาต

15 มกราคม 2568

กสทช.เผย ผู้ประกอบการวิทยุระดับท้องถิ่น ยืนยันเดินหน้าเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ระบบใบอนุญาต 3,014 สถานี จาก 3,675 สถานี คิดเป็น 82.01% พบผู้ประกอบการรายใหม่เข้าร่วมอีก 590 จาก 3,233 คำขอ คิดเป็น 18.25% รายเก่ายกเลิก 679 สถานี เหลือว่าง 701 สถานี

KEY

POINTS

  • วิทยุท้องถิ่นยืนยันเข้าสู่ระบบใบอนุญาต 3,014 สถานี
  • เผยมีผู้ประกอบการรายใหม่ 590 ราย
  • รายเก่ายกเลิก 679 สถานี คลื่นว่าง 701 สถานี

พล.อ.ท. ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกิจการกระจายเสียง กล่าวว่า หลังจากที่กสทช.ได้กำหนดให้ผู้ประกอบกิจการกระจายเสียงต้องเข้าสู่ระบบใบอนุญาต และวิทยุทดลองออกอากาศต้องสิ้นสุดการขยายระยะเวลาการทดลองออกอากาศไปเมื่อสิ้นเดือน ธ.ค. 2567 ที่ผ่านมา 

ล่าสุด กสทช.สามารถสรุปผลการยื่นคำขอรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่วิทยุระบบ FM สำหรับให้บริการกระจายเสียงในระดับท้องถิ่นทั้งประเภทสาธารณะ ชุมชน และ ธุรกิจ ตามที่ได้มีประกาศเชิญชวนจำนวน 3,346 คลื่นความถี่ โดยแยกเป็นวิทยุกระจายเสียงในระดับท้องถิ่นประเภทสาธารณะจำนวน 554 คลื่นความถี่ ชุมชน 148 คลื่นความถี่ สาธารณะ/ชุมชน 137 คลื่นความถี่ และ ธุรกิจ 2,507 คลื่นความถี่ และเมื่อครบกำหนดวันสิ้นสุดการยื่นมีผู้ประกอบการทั้งรายเดิมและรายใหม่ที่ยื่นคำขออนุญาต สรุปได้ ดังนี้

ผู้ประสงค์ยื่นคำขออนุญาตใช้คลื่นความถี่ รวม 2,645 คลื่นความถี่ จาก 3,346 คลื่นความถี่ คงเหลือ 701 คลื่นความถี่ คิดเป็น 20.95% โดยแยกเป็นผู้ประกอบการรายเดิมยื่นคำขอ 2,643 คลื่นความถี่ (สถานี) จาก 2,177 นิติบุคคล และมีรายใหม่ 590 คลื่นความถี่ (สถานี) จาก 479 นิติบุคคล โดยมีรายละเอียดแยกแต่ละประเภท 

จากข้อมูลการยื่นคำขออนุญาตใช้คลื่นความถี่เพื่อประกอบกิจการกระจายเสียงในระดับท้องถิ่นในครั้งนี้ เป็นผู้ประสงค์ขอประกอบการสถานีรายใหม่ถึง 590 จาก 2,643 สถานี คิดเป็น 18.25 % โดยเฉพาะประเภทธุรกิจมีรายใหม่ 538 จาก 2,481 สถานี คิดเป็น 21.68 % ในขณะที่สาธารณะ/ชุมชน มีรายใหม่เพียง 52 จาก 752 สถานี คิดเป็น 6.91 % 

สำหรับกรณีของผู้ประกอบการรายเดิมนั้น ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2567 มีจำนวนสถานีวิทยุทดลองออกอากาศรวมทั้งสิ้น 3,675 สถานี (จาก 2,773 นิติบุคคล) และได้มายื่นคำขอ 2,996 สถานี (จาก 2,166 นิติบุคคล) คิดเป็น 81.52 % (78.11 %) ทำให้มีสถานีที่ไม่มายื่นคำขอและต้องยุติการออกอากาศหลังวันที่ 31 ธ.ค. 2567 นี้ จำนวน 679 สถานี (จาก 607 นิติบุคคล) 

 การยื่นขอรับการอนุญาตในครั้งนี้ ผมถือว่าประสบความสำเร็จ จากเดิมที่มีสถานีวิทยุในระดับท้องถิ่นนับตั้งแต่รัฐธรรมนูญปี 40 เป็นเวลากว่า 30 ปี ที่ไม่สามารถเข้าสู่ระบบใบอนุญาตได้ ซึ่งจากแนวทางที่ได้ดำเนินการพบว่ามีผู้ประกอบการรายเดิมต้องการไปต่อเพื่อเข้าสู่ระบบเป็นจำนวนถึง 3,014 สถานี คิดเป็น 82.01% โดยมี 661 สถานีที่ไม่มายื่นคำขอซึ่งต้องยุติการออกอากาศ

อย่างไรก็ตามแม้ว่า 3,014 สถานีนี้จะได้รับสิทธิตามบทเฉพาะการในการทดลองออกอากาศต่อไป แต่ยังคงต้องเปลี่ยนผ่านเพื่อเข้าสู่ระบบใบอนุญาตแบบเป็นทางการ ซึ่งในขั้นตอนต่อไป สำนักงาน กสทช. ต้องดำเนินการตรวจสอบคำขอทั้งหมดที่ยื่นมาในครั้งนี้ จำนวน 3,233 คำขอ ที่ขอใช้คลื่นความถี่จำนวน 2,645 คลื่นความถี่ (สถานี) ว่าผู้ขอมีคุณสมบัติถูกต้องตามประกาศฯ หรือไม่ 

จากนั้นหากเป็นประเภทสาธารณะหรือชุมชนจะต้องพิจารณาคำขอจาก 752 เพื่ออนุญาตให้ได้ 623 สถานี ด้วยวิธีการเปรียบเทียบคุณสมบัติ (Beauty Contest) สำหรับประเภทธุรกิจที่ต้องใช้วิธีการประมูล (auction) จาก 2,481 เพื่อให้ได้ผู้ชนะและอนุญาตได้ 2,022 สถานี โดยมีราคาเริ่มต้น 25,000 บาท ซึ่งคงมีการแข่งขันในบางพื้นที่เท่านั้น 

ผุดวิทยุชุมชนรายใหม่เกือบ 600 ราย หลังกสทช.เปิดรับสู่ระบบใบอนุญาต พล.อ.ท. ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กรรมการกสทช.

สำหรับคลื่นความถี่ที่เหลืออีก 701 คลื่นความถี่ (สถานี) ได้มอบหมายให้สำนักงาน กสทช. ทำการวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่ไม่มีผู้ประกอบการทั้งรายเดิมและรายใหม่ต้องการ ทั้งที่ตอนแรกมีการเรียกร้องให้จัดสรรคลื่นความถี่ให้ได้มากกว่าที่เสนอมาโดยตลอด แต่ถึงเวลาจริงกลับไม่มีผู้ประสงค์ขออนุญาตใช้งาน ซึ่ง  กสทช. คงจะต้องนำมาพิจารณาดำเนินการต่อไป