'นายกฯเศรษฐา' เปิดแหล่งที่มาแจกกระเป๋าเงินดิจิทัลอีก2สัปดาห์

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีแบะรมว.คลัง กล่าวว่า ขอให้ใจเย็นรออีก2สัปดาห์จากนี้จะมีความชัดเจน เรื่องแหล่งที่มากระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่จะแจกให้กับประชาชนซึ่งขอให้มีความแน่นอนชัดเจนแน่นนอนก่อนจะได้พูดตรงกันว่าเงินที่จะมาจากแหล่งใด 
 

ต้องให้ความเป็นธรรม 'เพิ่มพูน'

ส่วนกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูล พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความผิดวินัยไม่ร้ายแรง กรณีช่วยเหลือในการเปลี่ยนพยานหลักฐานด้านความเร็วของรถยนต์ คดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา ขับรถชนตำรวจสน.ทองหล่อเสียชีวิตและส่งให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาโทษว่า ยังไม่ทราบเรื่อง ยังไม่ได้อ่านว่า คำตัดสิน คำเสนอแนะ คำวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างไร จึงต้องขอดูเรื่องทั้งหมดก่อน และยังไม่เห็นตัวเรื่องจึงต้องขอให้ความเป็นธรรมกับพลตำรวจเอกเพิ่มพูนด้วย ขอให้ใจเย็นนิดนึง

คอนเนคชั่นเพื่อดูแลประชาชน

เมื่อถามถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรี พูดถึงเรื่องการใช้คอนเนคชั่นของนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร หรือ วปอ. วานนี้ (14 ก.ย.) นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเอง มองว่าสถาบันป้องกันราชอาณาจักรเป็นสถาบันที่มีเกียรติ และเป็นแหล่งที่ฟูมฟักกำลังสำคัญของประเทศชาติจำนวนมาก ก็อยากให้ดูให้ดีว่าจริงๆแล้วไม่ใช่แค่เรื่องคอนเนคชั่นอย่างเดียวที่มาใช้ระหว่างพรรคพวกกันเอง แต่อยากให้มาดูแลประชาชนด้วย โดยใช้คอนเนคชั่นให้เป็นประโยชน์ให้มากขึ้น การใช้ทรัพยากรของรัฐ ก็อยากให้ใช้ให้ถูกต้อง ไม่ใช่ว่ามีสิทธิ์อย่างเดียว ต้องดูถึงหน้าที่ ความเหมาะสม เพราะมีหลายคน หลายภาคส่วนเฝ้ารอดูอยู่ โดยเฉพาะเยาวชนที่อยากมีตัวอย่างที่ดี จึงได้ฝากเรื่องนี้เอาไว้ ไม่ได้มีอะไรมาก เพียงแต่มีอะไรที่อยากให้แตกต่างจากคนอื่นเท่านั้นเอง ซึ่งเป็นความตั้งใจ และเป็นความหวังดีของตนเองต่อสถาบัน

ยังไม่แบ่งงานที่ปรึกษานายกฯ 

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีการแต่งตั้งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้แบ่งงาน แต่จะพยายามให้ครอบคลุมทุกภาคส่วน และอาจจะแต่งตั้งที่ปรึกษาเพิ่มขึ้นมาอีก เหมือนอย่างที่เคยบอกไว้ว่าอะไรที่ทำได้ก็จะทำก่อน เช่น นายพิมล ศรีวิกรม์ ที่จะเข้ามาดูเรื่องกีฬา พร้อมย้ำว่า อะไรที่รัฐบาลทำได้ก่อนก็จะรีบทำ แล้วหลังจากนี้อาจจะมีรายชื่อเข้ามาเสริมอีก

เปิดภารกิจนายกฯเศรษฐา บินเชียงราย-เชียงใหม่

นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ในประเด็นทั้งหมดที่กล่าวมา ก่อนนำคณะลงพื้นที่ตรวจราชการที่จังหวัดเชียงราย-เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 15 - 17 กันยายน 2566 โดยออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6  (บน.6 ดอนเมือง) เมื่อเวลา 11.15 น. ซึ่งถือเป็นการใช้เครื่องบินราชการเป็นครั้งแรกหลังรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไปยังท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงจังหวัดเชียงราย

สำหรับภารกิจแรกของนายกรัฐมนตรี และคณะตรวจเยี่ยมและรับฟังปัญหาในพื้นที่อำเภอแม่สาย จ.เชียงราย ที่บริเวณด่านพรมแดนแม่สายแห่งที่ 1 เรื่องการค้าชายแดน และปัญหายาเสพติด รวมทั้งพบปะกลุ่มชาติพันธุ์ ร่วมพูดคุยประเด็นการเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของบุคคลไร้สัญชาติ สิทธิการศึกษา สิทธิการรักษาพยาบาล สิทธิในที่ดินทำกิน และสิทธิในด้านอื่นๆ 

จากนั้นช่วงเย็นนายกฯ และคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงรายไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41 จังหวัดเชียงใหม่ และจะปฏิบัติภารกิจที่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นเวลา 2 วัน คือ วันที่ 16-17 กันยายน ทั้งการยี่ยมชมโครงการอุโมงค์ผันน้ำ อำเภอดอยสะเก็ด พูดคุยประเด็นการบริหารจัดการน้ำ เพื่อการเกษตร และอุปโภคบริโภค เยี่ยมชมศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอดอยสะเก็ด เพื่อศึกษาต้นแบบ การพัฒนาพื้นที่ และการพัฒนาอาชีพ

พบปะผู้ประกอบการ รับฟังปัญหาภาพรวมจังหวัดเชียงใหม่ และการส่งเสริมผู้ประกอบการคนรุ่นใหม่ พูดคุยประเด็นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ระบบขนส่งคมนาคม สังคมและสิ่งแวดล้อม

พบปะผู้บริหารการท่าอากาศยานเชียงใหม่ พูดคุยประเด็นการเพิ่มเที่ยวบินหลังเที่ยงคืน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ประเด็นกรมอุตุนิยมวิทยา ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร ที่บน.6 ในช่วงเที่ยงของวันที่ 17 กันยายนนี้