'ไทยสร้างไทย'แนะนายกฯเศรษฐาล้มแจกเงินดิจิทัลตั้งกองทุนเครดิตประชาชนแทน
คณะทำงานเศรษฐกิจไทยสร้างไทยเสนอรัฐบาลแจกเครดิตให้ประชาชนแทนการแจกเงินดิจิทัล ชี้ช่วยปั๊มเศรษฐกิจไทยยั่งยืนกว่า
เมื่อวันที่ 16ก.พ.2567 ที่พรรคไทยสร้างไทยคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจของพรรคได้นำเสนอแนวทางการฟื้นเศรษฐกิจ เพื่อพิจารณาถึงปัญหาหนี้ครัวเรือนที่สูงเป็นประวัติการ ถึงกว่า 90% และคนตัวเล็กส่วนใหญ่เป็นหนี้นอกระบบ โดยรัฐบาลพยายามแก้อยู่แต่คณะทำงานด้านเศรษฐกิจของไทยสร้างไทยมองว่ายังเกาไม่ถูกที่คัน เป็นการแก้ที่ปลายเหตุ
การแก้ที่ต้นเหตุ คือการให้โอกาสคนตัวเล็ก ไม่ว่าจะเป็น SMEs คนหนุ่มสาวที่ต้องการตั้งตัว ซึ่งส่วนใหญ่ไม่สามารถกู้เงินจากธนาคารได้ จึงต้องไปกู้หนี้นอกระบบที่ดอกเบี้ยสูงถึง 20% ต่อเดือนหรือเท่ากับ 240% ต่อปี ทำให้คนตัวเล็กไม่สามารถสร้างราย และตั้งตัวได้
ทั้งนี้ เมื่อโครงการแจกเงินดิจิทัล ของรัฐบาล ถูกท้วงติงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ ทั้งในแง่ความเสี่ยงในการทำผิดกฎหมาย และความเสี่ยงต่อการก่อหนี้ถึง 5 แสนล้าน โดยไม่มีอะไรการันตีได้ว่าจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจได้สำเร็จอย่างยั่งยืน ไทยสร้างไทยเห็นด้วยกับข้อท้วงติงว่าจะเป็นแค่การช็อคหัวใจให้ฟื้นขึ้นได้เพียงระยะสั้น แล้วคนไข้ก็กลับไปตายต่อ ที่บอกว่าจะหมุนได้ถึง 3-4 รอบ ไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะไม่ได้แจกเป็นเงินสด ผู้ได้รับประโยชน์ก็จะเป็นเพียงแต่รายใหญ่ ผู้ประกอบการ รายเล็กรายน้อย จะได้ประโยชน์น้อยมาก จึงไม่สามารถเกิด multiplier effect 3-4 รอบ อย่างที่รัฐบาลอ้าง ผลลัพธ์จะไม่คุ้มค่ากับการที่ประเทศชาติต้องมีภาระหนี้สินเพิ่มขึ้นอีกถึง 5 แสนล้าน เป็นมรดกบาปให้ลูกหลานต้องใช้หนี้แทน
ไทยสร้างไทยจึงเสนอให้เปลี่ยนจากการแจกเงิน มาเป็นการแจกเครดิตให้กับประชาชนด้วย “กองทุนเครดิตประชาชน” ซึ่งเป็นนโยบายของพรรคไทยสร้างไทย ที่จะสร้างความยั่งยืนและเกิประโยชน์ ครอบคลุมทั้งสามด้าน
1) ประโยชน์ต่อประชาชน จะได้รับโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำ เพื่อเอาไปตั้งตัวทำมาหากิน โดยเริ่มต้นให้เครดิต 10,000 บาท ดอกเบี้ยเพียง 1%ต่อเดือน แทนการกู้นอกระบบที่สูงถึง 240% ต่อปี กู้โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ผ่อนระยะยาว เมื่อรักษาเครดิตได้ จะขยับเงินกู้เพิ่มขึ้นตามเครดิตที่รักษาจนถึง 100,000 บาท
ซึ่งประชาชนจะรักษาเครดิต เพราะเค้าจะมีแหล่งเงิน ดอกเบี้ยถูก ไว้ใช้ในการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ไปตลอดชีวิต อย่างกองทุนหมู่บ้านในอดีตหรือธนาคารคนจนในบังคลาเทศจะเห็นว่ามีหนี้เสียน้อยมาก การจะช่วยประชาชนต้องแจกเบ็ดไม่ใช่แจกปลา การให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งทุนเพื่อให้เขาได้มีโอกาสสร้างเนื้อสร้างตัวคือการแจกเบ็ด แต่การแจกเงินกินใช้หมด ก็กลับไปจนเหมือนเดิม แถมมีเงื่อนไขแจกเป็นเงินดิจิทัล เงินก็จะหมุนเข้าไปสู่รายใหญ่มากกว่ารายเล็ก
2) ประโยชน์ต่อประเทศชาติ และลูกหลานไทยในอนาคต ไม่ต้องเสี่ยงเป็นหนี้ที่ไม่คุ้มกับการกู้ที่สูงถึง 5 แสนล้าน
3) ประโยชน์ต่อรัฐบาล โดยรัฐบาลมาปล่อยเครดิตให้กับประชาชนในอัตราดอกเบี้ย 1% ต่อเดือน หรือเท่ากับ 12% ต่อปี ซึ่งต้นทุนการเงินของรัฐบาลมีไม่เกิน 4% ต่อปี รัฐบาลมีส่วนต่างดอกเบี้ย 8% เอาไว้บริหารจัดการจัดการและบริหารความเสี่ยง
รัฐบาลต้องบริหารประเทศโดยไม่มีวาระแอบแฝงเพื่อประโยชน์ของกลุ่มทุนและ พรรคพวกตนเอง แต่ต้องมุ่งช่วยประชาชนคนตัวเล็ก และสร้างความยั่งยืน ให้เศรษฐกิจของประเทศ